เซ็นทรัล รีเทล เร่งแผนสู่ผู้นำรีเทลเอเชีย แรงหนุนผลประกอบการปี65โตพุ่ง

เซ็นทรัล รีเทล เร่งแผนสู่ผู้นำรีเทลเอเชีย แรงหนุนผลประกอบการปี65โตพุ่ง

เซ็นทรัลรีเทล เปิดผลประกอบการปี 2565 สร้างรายได้ 2.36 แสนล้านบาท เติบโต 21% กำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท โต 2,648% ประกาศแผนขยายธุรกิจครั้งใหญ่ในเวียดนาม Key market อัดงบลงทุน 5 หมื่นล้านบาท ใน 5 ปี ขึ้นแท่นผู้นำตลาด มั่นใจระยะยาวเติบโตก้าวกระโดด

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า จากการดำเนินธุรกิจตามยุทธศาสตร์ CRC Retailligence จึงสร้างผลประกอบการในปี 2565 เติบโตได้ดีต่อเนื่อง โดยสร้างรายได้รวมที่ 2.36 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

EBITDA ที่ 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อน และสร้างกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,648% จากปีก่อน

สัดส่วนรายได้จะมาจาก กลุ่มฟู้ด 40% กลุ่มฮาร์ดไลน์ 34% และกลุ่มแฟชั่น 26% โดยหากแบ่งตามประเทศเป็น ประเทศไทย 69%  เวียดนาม 24% และอิตาลี 7% รวมถึงยอดขายบนแพลตฟอร์มออมนิแชแนลเติบโต 15% จากปีก่อน และมีสัดส่วนยอดขายจากแพลตฟอร์มนี้เป็น 18% ของยอดขายทั้งหมด มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในปีที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจที่เติบโตอย่างโดดเด่น ทั้งกลุ่มแฟชั่นที่มีการพลิกโฉมประสบการณ์ใหม่ "New Omni Fashion" ด้วย Total Solution ครบวงจร กลุ่มฮาร์ดไลน์ ไทวัสดุ สามารถก้าวสู่อันดับ 2 มีสาขารวม 70 สาขา ใน 42 จังหวัดทั่วไทย

 

เซ็นทรัล รีเทล เร่งแผนสู่ผู้นำรีเทลเอเชีย แรงหนุนผลประกอบการปี65โตพุ่ง ท็อปส์ วางแผนเปิดสาขาใหม่ 15 สาขา

สำหรับ ท็อปส์ เป็นเบอร์ 1 ฟู้ดรีเทลเมืองไทย ภายใต้คอนเซปต์ "Every Day Discovery"  จะมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 15 สาขา ส่วนศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ จะมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นผู้นำศูนย์การค้า Lifestyle and Experiential Community ที่มีสาขาครอบคลุมจังหวัดมากที่สุดในไทย 

ล่าสุดเซ็นทรัล รีเทล ได้นำบริษัทในเครือคือ บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้สำเร็จ ด้วยมูลค่า Market Cap ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ 1.20 หมื่นล้านบาท สร้าง Market cap สูงสุดอันดับ 2 ของตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการแล้ว ถือเป็นการสร้างความสำเร็จเชิงกลยุทธ์ (Strategic Success) ได้ตามแผน

เร่งขยายธุรกิจให้โตแบบยั่งยืน 

นายนายญนน์ กล่าวต่อว่า เซ็นทรัล รีเทล ได้เดินหน้าในการเป็น The Next Sustainable Growth ที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับทุกกลุ่มธุรกิจในแต่ละประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยนับจากนี้ไป เซ็นทรัล รีเทล จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด

โดยมาจากปัจจัยบวกหลายด้านในภาคธุรกิจค้าปลีกและบริการ โดยเฉพาะแรงเสริมจากการเปิดประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางเพิ่มมากขึ้น ทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี ถือเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล ซึ่งจะเอื้อประโยชน์โดยตรงต่อธุรกิจ

ปักหมุดขยายสาขาในเวียดนาม

การขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยประเทศเวียดนาม วางแผนใช้งบลงทุน 5 ปี รวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจและมีการร่วมมือทั้ง Ecosystem ของเซ็นทรัล รีเทล เพื่อเสริมแกร่งความเป็นผู้นำทั้งในกลุ่มฟู้ด น็อนฟู้ด และพร็อพเพอร์ตี้ ในประเทศเวียดนาม โดยมีแผนเปิดศูนย์การค้า GO! สาขาใหม่เพิ่ม 5-7 สาขาในปีหน้า พร้อมตั้งเป้าหมายจะขยายเซ็นทรัล รีเทล ให้ครอบคลุมทั้งหมด 57 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนาม และสร้างยอดขาย 1.50 แสนล้านบาทในประเทศเวียดนามในอีก 5 ปีข้างหน้า

ในปัจจุบัน เซ็นทรัล รีเทล ครองตำแหน่งผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และขึ้นแท่นอันดับ 1 ไฮเปอร์มาร์เก็ต และอันดับ 2 ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ ด้วยจำนวนธุรกิจครอบคลุมใน 40 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนาม รวมถึงกลุ่มฟู้ด ที่มี 3 โมเดลสำคัญ ทั้ง GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ต, go! ซูเปอร์มาร์เก็ต และ Tops market สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของชาวเวียดนาม

“เซ็นทรัล รีเทล จะเดินหน้าต่อยอดธุรกิจในเวียดนามต่อไป เพราะเป็น Key Market ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกมหาศาล และมีความพร้อมทางธุรกิจในหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจที่โตเร็ว ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว และมีกำลังซื้อสูง รวมถึงการขยายตัวของเมืองและธุรกิจโมเดิร์นเทรดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”