บุกโกดังมือถือ-เครื่องใช้ไฟฟ้าปลอม ขายแอปฯดัง ยึดของกลางอื้อ 20 ล้าน

บุกโกดังมือถือ-เครื่องใช้ไฟฟ้าปลอม ขายแอปฯดัง ยึดของกลางอื้อ 20 ล้าน

ตำรวจ ปอศ. บุกทลายโกดังมือถือ-เครื่องใช้ไฟฟ้าปลอม ส่งขายแอปฯดัง ยึดของกลางเพียบ มูลค่ากว่า 20 ล้าน พบนายทุนจีนอยู่เบื้องหลัง

กรณีทลายโกดังมือถือ-เครื่องใช้ไฟฟ้าปลอม ส่งขายแอปฯดัง ยึดของกลางเพียบนั้น  พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.วีระพงษ์ หอมหวล ผกก.1 บก.ปอศ. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทยา วรสุวรรณรักษ์ พ.ต.ท.ปัญญาวุฒิ แสนทวีสุข รอง ผกก.1 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ สว.กก.1 บก.ปอศ. ร.ต.อ.แทนคุณ พรมคุณ รอง สว.สอบสวน กก.1 บก.ปอศ. นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ในซอยช่างอากาศอุทิศ 13/1 แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ

และ อาคารพาณิชย์อีกแห่ง ในซอยช่างอากาศอุทิศ 15 แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่าสถานที่ดังกล่าวลักลอบเปิดใช้เป็นแหล่งแพ็คของ และสถานที่กักเก็บสินค้าจำพวก โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ลำโพง และเครื่องใช้ไฟฟ้าปลอม หรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้า เพื่อเตรียมส่งจำหน่ายผ่านแพตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง

จากการตรวจสอบพบอาคารพาณิชย์ทั้งหมด แม้จะตั้งอยู่คนละซอย แต่บริเวณด้านหลังตัวอาคารมีพื้นที่เชื่อมต่อถึงกัน ภายในถูกดัดแปลงเป็นสถานที่เก็บสินค้า มีกล่องลังบรรจุสินค้าวางตั้งเรียงรายเป็นจำนวนมาก เมื่อเปิดออกดูพบ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตยี่ห้อหัวเว่ย วีโว่ ซัมซุง แอปเปิ้ล ลำโพงพกพายี่ห้อมาแชล เครื่องดูดฝุ่น เครื่องเป่าผม และเครื่องใช้ไฟฟ้าปลอม หรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้าอื่นๆเป็นจำนวนมาก หลายพันรายการ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท 

โดยมีนายฮวง อายุ 56 ปี สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นผู้ดูแลสถานที่ พร้อมกับพนักงานสัญชาติลาว 4 คน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดสินค้าทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมกับคุมตัว นายฮวง มาทำการสอบปากคำ

จากการสอบปากคำ นายฮวง ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวจีนรายหนึ่ง ให้ดูแลสถานที่ดังกล่าว พร้อมกับคอยบริหารจัดการแพ็คสินค้า แล้วนำไปส่งต่อให้กับลูกค้า ที่สั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง โดยได้ค่าจ้างเดือนละ 3 หมื่นบาท พร้อมยอมรับว่าสินค้าทั้งหมดส่วนใหญ่ เป็นสินค้าทำปลอม หรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้า ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน 

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าปลอมหรือสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ที่จดทะเบียนไว้ในราชอาณาจักร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป