ฟ้าใหม่ "กรุ๊ปทัวร์จีน" ยุคหลังโควิด ผ่าอินไซต์เที่ยวไซส์มินิ ลดทัวร์เสริม

ฟ้าใหม่ "กรุ๊ปทัวร์จีน" ยุคหลังโควิด  ผ่าอินไซต์เที่ยวไซส์มินิ ลดทัวร์เสริม

“ภาพรวมนักท่องเที่ยวจีนมาไทยปี 2566 มีโอกาสไปถึง 6 ล้านคน!” วิชิต ประกอบโกศล ประธานกลุ่มบริษัท ซี.ซี.ที. กรุ๊ป หนึ่งในบริษัททัวร์จีนรายใหญ่ของไทย กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ถึงแนวโน้มตลาดจีนเที่ยวไทยซึ่งเคยเรืองรอง ครองบัลลังก์อันดับ 1 ของต่างชาติเที่ยวไทยเมื่อปี 2562

หลังจากประเทศไทยแสดงท่าทีพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างจริงใจ! มีผู้บริหารระดับสูงของประเทศ นำโดย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มาร่วมในพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เดินทางมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ณ สนามบินสุวรรณภูมิ หลังรัฐบาลจีนประกาศเปิดประเทศ ยกเลิกมาตรการกักตัวขาเข้า มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566

“การแสดงท่าทีเป็นมิตรอย่างจริงใจ ทำให้ชื่อของประเทศไทยติดลำดับที่ 1 จากรายชื่อกลุ่ม 20 ประเทศแรกนำร่อง ที่รัฐบาลจีนประกาศอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวจัดกรุ๊ปทัวร์ นำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกเที่ยวต่างประเทศได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. 2566 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันไม่มีชื่อของประเทศคู่แข่งสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี และเวียดนาม ปรากฏในรายชื่อกลุ่มประเทศปลายทางนำร่อง”

และเมื่อประเทศจีน “ยกเลิกนโยบายซีโร่โควิด” (Zero Covid) ทำให้สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ นักเศรษฐศาสตร์จากสำนักต่างๆ ให้มุมมองว่า “เศรษฐกิจจีน” ปีนี้มีโอกาสเติบโต 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เมื่อเศรษฐกิจฟื้น ชาวจีนมีความต้องการเดินทางออกเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มแรกๆ ที่เต็มไปด้วยความอัดอั้น กำลังซื้อดี ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวต่อคนไม่มีตก ทำให้ในสถานการณ์ที่ประเทศจีนยังไม่ได้เปิดประเทศเต็มรูปแบบ 100% ...ประเทศไทยได้รับอานิสงส์อย่างมาก!

“ผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลายรายอาจกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนเรื่องนโยบายคุมโควิด-19 ของรัฐบาลจีน แต่จากการติดตามสถานการณ์ ถ้านโยบายใดได้รับการฟันธงจากรัฐบาลจีนแล้ว มีโอกาสเปลี่ยนแปลงยาก ประกอบกับตอนนี้ชาวจีนมีทัศนคติเปลี่ยนไป ยอมรับการอยู่ร่วมกับโควิด-19 แล้ว มองว่าโรคนี้ไม่ต่างจากไข้หวัดใหญ่”

ด้านนักท่องเที่ยว “กรุ๊ปทัวร์จีน” พบว่ายังมีกระแสเดินทางเหมือนเดิม แต่ “พฤติกรรมเปลี่ยนไป!” ในยุคหลังโควิด-19 ผู้ประกอบการทัวร์ประกาศขายแพ็กเกจทัวร์ทั้งแบบกรุ๊ปขนาดเล็กและใหญ่ ตั้งแต่ขนาดต่ำกว่า 8 คน เดินทางด้วยรถตู้ นิยมเดินทางพร้อมกับครอบครัว ไปจนถึงขนาด 10 คนขึ้นไป และขนาด 18 คนขึ้นไป เดินทางด้วยรถบัสนำเที่ยว

ต่างจากยุคก่อนโควิด-19 ที่ส่วนใหญ่ขายแพ็กเกจกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ ซึ่งกว่า 90% ชื่นชอบการชอปปิง มีการขาย “ออปชันนอลทัวร์” (Optional Tour) หรือ “ทัวร์เสริม” รองรับการชอปปิง แต่ตอนนี้มีการแบ่งรูปแบบแพ็กเกจทัวร์ ระบุรายละเอียดการขายชัดเจน เช่น ราคาแพ็กเกจทัวร์ 5,000 กว่าหยวน No Shopping หรือ No Optional Tour ส่วนราคาแพ็กเกจทัวร์ 4,000 กว่าหยวน จะมีออปชันนอลทัวร์พาไปชอปปิงเหลือแค่ 2 ด่าน และราคาแพ็กเกจทัวร์ที่ถูกลงกว่านั้นอีก จะมีออปชันนอลทัวร์เต็มโปรแกรมนั่นเอง

“ด้วยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่เปลี่ยนแปลง ทำให้มีแนวโน้มเห็นกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ลดลงไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีอยู่ ไม่ใช่ไม่มีเลย เพราะขนาดตลาดนักท่องเที่ยวจีนนั้นใหญ่มาก ต่างจากตลาดนักท่องเที่ยวฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ที่ไม่ค่อยมีกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่หลงเหลือแล้ว”

โดยโครงสร้างตลาดนักท่องเที่ยวจีนในปี 2566 อาจเห็นกรุ๊ปทัวร์น้อยกว่า 50% ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมด และลดลงต่อเนื่องในปี 2567 เหลือ 40% ต่างจากยุคก่อนโควิด-19 ที่กรุ๊ปทัวร์ครองสัดส่วน 60% มากกว่ากลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ซึ่งมีสัดส่วน 40%

“ขณะที่แนวโน้มปี 2567 คาดการณ์ว่าภาพรวมนักท่องเที่ยวจีนมาไทยจะอยู่ที่ 10 ล้านคน ฟื้นตัว 90% เมื่อเทียบกับจำนวน 11 ล้านคนเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 เมื่อมองเฉพาะตลาดกรุ๊ปทัวร์จีนในปีหน้า มีโอกาสเห็นการฟื้นตัว 80-90%”

ชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลจีนประกาศรายชื่อ 20 ประเทศแรกนำร่องที่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวพาชาวจีนออกไปเที่ยวได้ ยังไม่มีชื่อของคู่แข่งหลักของประเทศไทย อาทิ ญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจีนไปเยือน 8 ล้านคน และเกาหลีใต้ 6 ล้านคน ทำให้ประเทศไทยได้รับอานิสงส์อย่างมากจากมาตรการผ่อนคลายดังกล่าว และแม้ว่านักท่องเที่ยวจีนค่อนข้างรู้จักภาคท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างดี แต่ในช่วง 3 ปีตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ในประเทศไทยพร้อมมอบประสบการณ์ ต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน

“เมื่อปี 2562 เส้นทางบินไทย-จีนมีจำนวนที่นั่งโดยสารมากถึง 12 ล้านที่นั่ง จากจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ย 95 เที่ยวบินต่อวัน เมื่อวิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อตลาดจีนเที่ยวไทยนานร่วม 3 ปี กระทั่งจีนเปิดประเทศ พบว่าในไตรมาส 1 ปีนี้มีจำนวนที่นั่งโดยสารค่อยๆ ฟื้นตัวรวมอยู่ที่ 4.5 แสนที่นั่ง”

ไช่ เว่ย รองประธานฝ่ายกิจการต่างประเทศ สปริงกรุ๊ป กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลจีนมีนโยบายเปิดประเทศ พร้อมอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวจัดกรุ๊ปทัวร์พาชาวจีนไปเที่ยว 20 ประเทศแรกนำร่อง รวมประเทศไทย ทางสายการบิน “สปริงแอร์ไลน์ส” จึงเดินหน้าฟื้นฟูเที่ยวบิน “เส้นทางไทย-จีน” ตั้งเป้าหมายเพิ่มเที่ยวบินให้กลับมามากกว่าปี 2562 ซึ่งสปริงแอร์ไลน์สเคยทำการบินจากกว่า 20 เมืองในประเทศจีนเข้าไทย โดยปัจจุบันได้ฟื้นเที่ยวบินตรงจาก 7 เมืองในประเทศจีนแล้ว