ร้านสะดวกซื้อไซส์ใหญ่ระอุ เซ็นทรัลดันท็อปส์หลังแฟมิลี่มาร์ทไม่ตอบโจทย์!

สมรภูมิร้านค้าปลีกขนาดเล็กดีกรีการแข่งขันรุนแรงต่อเนื่อง  "แบรนด์ใหญ่" มุ่งการเปิดร้านขนาดใหญ่ใกล้บ้าน! เพื่อตอบโจทย์ชุมชนด้วยสินค้าครบวงจร โดยเฉพาะแบรนด์ผู้นำ “เซเว่นอีเลฟเว่น” รูปแบบสแตนอะโลน สยายปีกไปทั่วทุกหัวระแหง ร้านแบบเดิมภายใต้ชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ที่เคยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์หลัก ทยอยปรับและเปลี่ยนสู่ทำเลใหม่   เน้นพื้นที่กว้างมีอาณาบริเวณรองรับการจอดรถยนต์ รวมถึงการติดตั้งเครื่องชาร์ทรถไฟฟ้า 

แม้ก้าวย่างของเบอร์หนึ่งจะถูกจับตามองตลอดเวลา แต่เกมครั้งนี้สายตาและคำถามน่าจะอยู่ที่บรรดา “เบอร์รอง” ต่างๆ ที่ต้องยอมรับว่า กระทั่งวันนี้ ก็ยังสปีดไม่ขึ้น! มาร์เก็ตแชร์ หรือจำนวนเครือข่ายสาขาทิ้งห่างกันหลายขุม! กลยุทธ์เจาะลูกค้า และการขยายตลาดจะดำเนินต่อไปอย่างไร

ล่าสุด ผู้นำรีเทลเมืองไทยอย่างกลุ่มเซ็นทรัล ภายใต้การขับเคลื่อนของ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ที่มีธุรกิจร้านสะดวกซื้อ “แฟมิลี่มาร์ท” อยู่ในพอร์ตธุรกิจด้วยนั้น ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า การขยายสาขาในประเทศไทยของ “แฟมิลี่มาร์ท” จะมีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

"สาขาของแฟมิลี่มาร์ท ที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก ประมาณ 150 ตร.ม. อาจไม่ตอบโจทย์! เพราะเทรนด์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ขณะที่แบรนด์ในเครืออย่าง ท็อปส์ ที่มีพื้นที่ใหญ่ 250-300 ตร.ม. น่าจะตอบโจทย์ผู้บริโภคสมัยใหม่ได้มากกว่า"

ร้านแฟมิลี่มาร์ท เชนคอนวีเนียนสโตร์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น  เข้ามาเปิดให้บริการในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2535 ภายใต้การจับมือระหว่างทุนไทยและญี่ปุ่นร่วมทุนในนาม บริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด โดยฝั่งญี่ปุ่นกุมการบริหาร กระทั่งปี 2555 เกิดการเปลี่ยนมือครั้งใหญ่ "เซ็นทรัล รีเทล" เข้าซื้อหุ้น 50.29% และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท เซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัด ในช่วงปี 2563 เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อเซ็นทรัล รีเทล ส่ง  “เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล” เข้าซื้อหุ้นเพิ่ม 49% จากกลุ่มทุนญี่ปุ่น คือ แจแปน แฟมิลี่มาร์ท ที่ได้ขายหุ้นออกไปตามนโยบายถอนการลงทุนออกจากไทย เปิดทาง เซ็นทรัล รีเทล ถือหุ้นแบบเต็มตัว! 100% ในสถานะเจ้าของแฟรนไชส์แฟมิลี่มาร์ท 

ร้านสะดวกซื้อมุ่งปรับสาขาให้มีไซส์ใหญ่ขึ้น

พฤติกรรมผู้บริโภคเน้นช้อปใกล้บ้าน ต้องการความครบวงจร แน่นอนว่าร้านสะดวกซื้อก็ต้องใหญ่ขึ้นกว่าเดิม "เซเว่นอีเลฟเว่น" ประกาศชัดเจนมุ่งขยายสาขาที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงการนำเสนอสินค้าให้มีความหลากหลาย ทั้งอาหารสด ผัก ผลไม้ อาหารพร้อมทาน ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคคนไทย ที่นิยมเลือกซื้อสินค้าใกล้บ้านในชุมชนมากกว่าการเดินทางไกล

สำหรับ ภาพรวมธุรกิจร้านสะดวกซื้อในปี 2566 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องและเป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรง จากการประเมินของ ศูนย์วิจัยกรุงศรี คาดว่าตลาดร้านสะดวกซื้อในไทยปีนี้จะขยายตัว 4.5-5.5% โดยยังมีการเปิดสาขาใหม่ไปในทุกพื้นที่ และมี "ผู้เล่นรายใหม่" ที่เป็นค้าปลีกขนาดใหญ่เข้ามาในตลาด พร้อมๆ กับมีการขยายเครือข่ายผ่านร้านโชห่วยขนาดเล็กมากขึ้น ทำให้ร้านสะดวกซื้อจะมีกำไรไม่สูงเหมือนที่ผ่านมา แต่ในร้านที่เป็นแฟรนไชส์ยังสร้างกำไรต่อเนื่อง

เครือข่ายร้านสะดวกซื้อในไทยแตะ 17,466 สาขา

การประเมินของ ศูนย์วิจัยกรุงศรี  คาดการณ์จำนวนสาขาของร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย (ณ ก.ย.2565) มีแบรนด์ใหญ่ในตลาดรวม 7 แบรนด์ มีสาขารวมกันประมาณ 17,446 สาขา 

โดย "เซเว่นอีเลฟเว่น" มีสาขามากสุด 13,433 สาขา รองลงมา เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส หรือ โลตัส โก เฟรช (Lotus’s Go Fresh) มีสาขาจำนวน 1,852 สาขา มินิ บิ๊กซี จำนวน 1,431 สาขา แฟมิลี่มาร์ท 448 สาขา ลอว์สัน 108 จำนวน 154 สาขา ท็อปส์เดลี่ มีสาขารวม 108 สาขา และแม็กซ์แวลู ทันใจ 20 สาขา

ทั้งนี้ ผู้นำตลาดอย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น ภายใต้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในอาณาจักรเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ยังสปีดสูงด้วยอัตราเปิดบริการร้านใหม่ 700 แห่งต่อปี พร้อมนำเสนอความเป็นห้างใกล้บ้านด้วยการเป็นแบรนด์ All Convenience เน้นเปิดร้านขนาดใหญ่บนพื้นที่หลายไร่ มีจุดเด่นที่การสร้างสถานีชาร์จรถไฟฟ้า โดยมีแผนเปิดสถานีชาร์ทรถไฟฟ้าในอนาคตประมาณ 100 แห่ง 

ทางด้าน เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส จากกลุ่มซีพีเช่นกัน ทยอยปรับสาขาที่มีอยู่ไปสู่ "โลตัส โก เฟรช" นำเสนอความเป็น มินิซูเปอร์มาร์เก็ต เน้นกลุ่มสินค้าอาหารสด ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

ขณะที่ มินิ บิ๊กซี จาก บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นร้านเน้นกลุ่มอาหารสด อาหารพร้อมทาน เครื่องดื่ม และของใช้ต่างๆ ที่ครบวงจร 

แฟมิลี่มาร์ท จาก เซ็นทรัลรีเทล  มุ่งเน้นสินค้าครอบคลุมทุกกลุ่ม สินค้าอาหารพร้อมทาน เครื่องดื่มกาแฟสด และมีสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นซิกเนเจอร์อย่างเมนู โอเด้ง

ร้านลอร์สัน 108 จาก บริษัท สห ลอว์สัน ค่าย สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ได้ชูความเป็นร้านสะดวกซื้อที่มีสไตล์ญี่ปุ่น เน้นสินค้ากลุ่มของใช้ อาหาร และขนม

ท็อปส์ เดลี่ จาก เซ็นทรัล รีเทล  มุ่งนำเสนอความเป็นมินิซูเปอร์มาร์เก็ต เน้นความหลากหลายของสินค้า กลุ่มของสด อาหารพร้อมปรุง

แม็กแวลู ทันใจ จาก บริษัท อิออน (ไทยแลนด์) ได้มุ่งนำเสนอความเป็น มินิซูเปอร์มาร์เก็ต ที่มีสินค้าครอบคลุม

ต้องจับตากับ 7 แบรนด์ร้านสะดวกซื้อกับก้าวรุกแห่งอนาคต แบรนด์ใดจะสามารถสร้างกลยุทธ์และการนำเสนอสินค้าได้ครองใจผู้บริโภคคนไทยได้มากที่สุด