'แก้มบุ๋ม' สุดทน! มากกว่า 100 คน ฉกภาพรีวิวน้ำหอม แอบอ้างขายของ

'แก้มบุ๋ม' สุดทน! มากกว่า 100 คน ฉกภาพรีวิวน้ำหอม แอบอ้างขายของ

ดาราสาว 'แก้มบุ๋ม' สุดทน! มากกว่า 100 คน ฉกภาพรีวิวน้ำหอม แอบอ้างขายของ แจ้งตำรวจจับ แนะรีบลบออกก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ดารา “แก้มบุ๋ม” ร้องทุกข์ต่อ ตำรวจ ปอศ. หลังถูกแคบภาพ รีวิวน้ำหอม แล้วนำไปใช้โฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต แจง ครั้งนี้ เกินความอดทน หวั่นปชช.เข้าใจผิดในความเจ้าของ กระทบงานพรีเซ็นเตอร์ ปชช.เข้าใจผิด ด้านทนายตั้ม ขอความร่วมมือ หยุด ลบ แจ้งต้นตอการละเมิด 

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) น.ส.ปรียาดา สิทธาไชย หรือ “แก้มบุ๋ม” อายุ 34 ปี ดารานักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เข้าพบ ร.ต.อ.แทนคุณ พระคุณ รอง สว.สอบสวน กก.1บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความดําเนินคดี 5 ยูเซอร์ ในเรื่องของ ลิขสิทธิภาพถ่ายซึ่งมีโทษทั้งอาญาและเพ่ง อีกข้อหาคือการลวงขายสินค้าและฉ้อโกงประชาชน

'แก้มบุ๋ม' สุดทน! มากกว่า 100 คน ฉกภาพรีวิวน้ำหอม แอบอ้างขายของ

น.ส.ปรียาดา หรือ “แก้มบุ๋ม” เปิดเผยว่า ปกติ การนำรูปตนไปใช้ ตนก็ไม่ได้จะเอาผิดอะไร แต่เหมือนมีการนํารูปไปใช้แล้วมีการขายตัดราคา และอีกประเด็น คือ ปีนี้ ตนรับเป็นพรีเซนเตอร์นํ้าหอม ซึ่งค่อนข้างที่จะมีผลกระทบกับงาน

ยืนยันว่าไม่ได้มีข้อตกลงหรือขออนุญาตในการนํารูปไปใช้ ซึ่งหากใช้เล็กๆ น้อยๆคงไม่มีปัญหาอะไร ตนเองเข้าใจ แต่ครั้งนี้รู้สึกมากจนเกินไปเพราะมีคนนําไปใช้มากกว่า 100 คน และเมื่อมีการถามหาถึงต้นตอของคนที่ส่งต่อรูป เขามีการช่วยกันปกปิด ทําให้ตนเองต้องออกมาปกป้องตัวเองเช่นกัน

ด้านทนายตั้ม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ คุณแก้มบุ๋ม มีการไลฟ์ขายสินค้าซึ่งเป็นนํ้าหอมตัวหนึ่ง ต่อมา พบมีการแคปภาพดังกล่าวไปเพื่อใช้ในการโฆษณาขายสินค้าของตัวเอง จนทําให้ลูกค้าหลายรายเข้าใจผิดคิดว่า นํ้าหอมดังกล่าวเป็นของคุณแก้มบุ๋ม 

แท้จริงแล้ว คุณแก้มบุ๋มไม่ใช่เจ้าของ แค่เคยไลฟ์ขายอยู่ 1-2 ครั้งเท่านั้น วันนี้จึงมาแจ้งดําเนินคดี 5 ยูเซอร์ ในเรื่องลิขสิทธิภาพถ่ายซึ่งมีโทษทั้งอาญาและเพ่ง อีกข้อหา คือ การลวงขายสินค้าและฉ้อโกงประชาชน

ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า จากนี้ ตนจะให้ทีมทนายหาข้อมูลเพิ่มว่า มีใครยังใช่รูปอยู่หรือไม่ หากพบก็จะแจ้งดําเนินคดีเรื่อยๆ พร้อมเตือน หากใครกําลังใช้หรือคิดที่จะใช้ ให้ลบ และอย่าคิดนำไปใช้เพราะเป็นภาพลิขสิทธิส่วนตัวและการโพสต์หรือโฆษณานั้นอาจจะมีความผิดตามมีอีกหลายข้อหา 

ทั้งนี้ หลังแจ้งความเสร็จ จะมีการเรียกผู้ที่ถูกกล่าวหาเข้ามาพูดคุย หากยอมบอกว่าต้นตอของคนที่ส่งภาพคือใครก็อาจจะมีการพิจารณาเรื่องของการดําเนินคดีต่อไป

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ เพื่อนำไปประมวลเรื่องราวประกอบการพิจารณา ก่อนส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป