'ตลาดรถไฟ-จ๊อดแฟร์’ ไนท์มาร์เก็ตติดลมบน ได้เวลาต่อยอด รุกครั้งใหญ่

'ตลาดรถไฟ-จ๊อดแฟร์’ ไนท์มาร์เก็ตติดลมบน ได้เวลาต่อยอด รุกครั้งใหญ่

ถอดสูตร 'เจ้าพ่อไนท์มาร์เก็ต-ไพโรจน์ ร้อยแก้ว' สร้างชื่อ 'ตลาดรถไฟ-จ๊อดแฟร์' ขึ้นแท่นเดสติเนชั่นนักช้อป สายกิน และนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องมา เดินหน้าต่อยอดธุรกิจยกระดับสู่ 'blackdimond' พันธมิตรระดับแม่เหล็กแห่งมิกซ์ยูสใหม่บนถนนสายเศรษฐกิจรัชดาภิเษก

ตลาดนัดกลางคืน หรือ 'ไนท์มาร์เก็ต' สุดฮอต! ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากระทั่งเวลานี้ ชื่อ 'ตลาดรถไฟ' และ 'ตลาดจ๊อดแฟร์'  ถูกปักหมุดเป็นอันดับแรกๆ ที่บรรดาสายช้อป สายกิน สายมองหาสินค้าสารพัดสารพันในบรรยากาศโปร่งโล่งบนพื้นที่เอาท์ดอร์ที่ดึงดูดผู้คนแวะเวียนมาเดินเล่น ท่องเที่ยว HangOut

ในเชิงธุรกิจเรียกว่า ติดลมบน! เป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะความสำเร็จของ "ตลาดจ๊อดแฟร์" ที่เปิดตลาดในห้วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 หากแต่เป็นตลาดกลางคืนยอดนิยมที่ได้รับความสนใจทั้งจากกลุ่มลูกค้าคนไทยและกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ติดอันดับการปักหมุดหมาย location ยอดนิยมลำดับ 5 ผ่านแอปพลิเคชั่น Grab ทีเดียว

 

 

เบื้องหลังแห่งความฮอต ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ 'ไพโรจน์ ร้อยแก้ว' เจ้าพ่อตลาดไนท์มาร์เก็ตของเมืองไทย ผู้บุกเบิกตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ หรือ Train Night Market Srinakarin อันโด่งดัง และเป็นผู้สร้างตำนาน ตลาดนัดรถไฟรัชดา เช่นกัน

ตลาดรถไฟศรีนครินทร์ ด้านหลังศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ เป็นแหล่งรวมสินค้าและอาหารมากมาย ของแต่งบ้านคลาสสิค เฟอร์นิเจอร์ ของสะสมโบราณ เสื้อผ้าแนววินเทจ ของฝาก ร้านอาหารให้นั่ง HangOut ในบรรยากาศเก๋ เท่ห์ ของโกดังเก่า ที่ผู้คนไม่ได้มาแค่ช้อปแต่พร้อมเก็บภาพความประทับใจกลับไปด้วย

 

 

เริ่มต้นด้วยการไขข้อข้องใจที่บางคนอาจรู้แล้ว และหลายคนอาจยังไม่รู้ ชื่อจ๊อดแฟร์ มาจากไหน? เจ้าพ่อไนท์มาร์เก็ต ไพโรจน์ ร้อยแก้ว ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารตลาดรถไฟและตลาดจ๊อดแฟร์ เล่าสั้นๆ ว่า 'จ๊อดแฟร์' มาจากชื่อเล่น (จ๊อด) ของตนเอง เป็นชื่อที่เพื่อนๆ สมัยเรียนเรียกขาน 

ธุรกิจทุกวันนี้ไม่มีสูตรตายตัวท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรอบด้าน โดยเฉพาะผู้บริโภคมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดเวลา มีโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่พร้อมจะเข้ามาตอบโจทย์ เช่นเดียวกัน การตอบรับของตลาดกลางคืน! ไม่ใช่แค่ 'ใหญ่' ถึงจะเอาอยู่ 

ศาสตร์และศิลป์ 'เจ้าพ่อไนท์มาร์เก็ต'

ไพโรจน์ มองการแข่งขันธุรกิจ 'ไนท์มาร์เก็ต' ในปัจจุบันว่า มีตลาดเปิดใหม่เกิดขึ้นจำนวนมากเรียกว่า มีตลาดได้ในทุกที่! 

"แต่การทำไนท์มาร์เก็ต มีองค์ประกอบสำคัญ ทั้งการเลือกสถานที่ต้องมีความสะดวก เพื่อทำให้คนสามารถเดินทางได้ง่าย การจัดทำแผนการตลาดผ่านโซเชียลเพื่อทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น"

นอกจากนี้ การมีพื้นที่ส่วนกลางทำให้ลูกค้าสามารถเลือกนั่งรับประทานอาหารได้ จะช่วยให้ลูกค้าอยู่ในพื้นที่ได้นาน รวมทั้ง การเลือกร้านค้าเข้าเปิดให้บริการที่มีความสำคัญและต้องเลือกร้านที่ดีมีคุณภาพ เพื่อให้ร้านค้าสามารถอยู่ได้

'ตลาดรถไฟ-จ๊อดแฟร์’ ไนท์มาร์เก็ตติดลมบน ได้เวลาต่อยอด รุกครั้งใหญ่

"หลักยึดของเรา คือ การคัดเลือกร้านค้าที่มีคุณภาพ ใช้งบลงทุนไม่สูง!  ใช้ศิลปะในการบริหารงาน ตั้งแต่การออกแบบดีไซน์พื้นที่ตลาดเอง ทั้งรูปแบบโครงสร้าง ตัวอักษร การจัดวางภายใน  บอกเลยว่า การธุรกิจไนท์มาร์เก็ต ผมไม่ใช้สถิติ แต่ผมใช้สัญชาติญาณ ใช้กลิ่นของเงินในการทำธุรกิจ” ไพโรจน์ ย้ำถึงหัวใจสำคัญ

อีกสิ่งสำคัญในการบริหารตลาดของ 'จ๊อดแฟร์' นั่นคือ การเปิดให้มี 'พื้นที่ว่าง' ภายในตลาด โดยจัดพื้นที่ว่างประมาณ 30% เพื่อทำให้ลูกค้าที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสามารถนั่งในตลาดได้  เมื่อลูกค้ามีพื้นที่นั่งทานอาหารในตลาดได้นานขึ้น ก็จะเป็นผลดีต่อการขายสินค้าในไนท์มาร์เก็ต สร้างยอดขายได้

เพราะหากปล่อยให้ลูกค้าซื้อสินค้าและกลับบ้านทันที จำนวนลูกค้าในตลาดก็จะลดน้อยลง ทำให้บรรยากาศในตลาดไม่คึกคัก ไม่ดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาในพื้นที่ นั่นเอง 

“ไม่ว่าคนที่เข้ามาท่องเที่ยว หรือคนที่เข้ามาใช้บริการ เราก็อยากให้อยู่ในตลาดนานที่สุด ดังนั้น การสร้างบรรยากาศที่ดี จะช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น” 

จะเห็นว่า การบริหารพื้นที่และการดีไซน์พื้นที่ในตลาดมีความสำคัญอย่างมาก ทำอย่างไรให้มีความสด ใหม่ อย่างสม่ำเสมอ เช่น อาจมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์พื้นที่ใหม่ทุกๆ  1 เดือน หากลูกค้ากลับมาเยือนอีกครั้ง ก็จะได้บรรยากาศใหม่ๆ เสมอ

รวมถึงการเก็บค่าใช้จ่ายของร้านค้า ที่ไม่ได้อยู่ในอัตราสูง เรตราคา 500 บาทต่อร้านค้าต่อล็อคเท่านั้น! 

"หากร้านค้าสามารถอยู่ได้ เราก็จะอยู่ได้เช่นกัน"

ยกตัวอย่าง ร้านค้าที่เปิดให้บริการและประสบความสำเร็จ อย่าง ร้านเล้งแซ่บ มียอดขายประมาณ 400,000-500,000 แสนบาทต่อวันทีเดียว ร้านน้ำปั่น มียอดขายในหลักหมื่นบาทต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ 'จ๊อดแฟร์'  ซึ่งได้การตอบรับที่ดีนั้น ถือเป็นการ 'จุดพลุ' ครั้งสำคัญในการลงทุน ทำให้พื้นที่ที่เคยเงียบกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ตอกย้ำความมั่นใจใน บิ๊กสเต็ป จากนี้ ที่จะมีการขยายสาขาใหม่! 

จากก่อนหน้านี้ได้เคยบริหาร 'ตลาดนัดรถไฟรัชดา' แต่ต้องปิดบริการไปจากสถานการณ์โควิด-19 จึงได้ขอคืนสัญญาเช่าพื้นที่ 

ปัจจุบัน ไนท์มาร์เก็ต ในเครือข่ายที่เปิดบริการอยู่ ได้แก่

ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์   เปิดบริการมาเป็นเวลาร่วม 12 ปี มีร้านค้าให้บริการกว่า 1,000 ร้านค้า

ตลาดจ๊อดแฟร์  ด้านหลังเซ็นทรัล พระราม 9 มีร้านค้าให้บริการ 700-800 ร้านค้า จะหมดสัญญาเช่าพื้นที่สิ้นปี 2566 นี้ 

บิ๊กสเต็ปแห่งการต่อยอดสยายปีกเตรียมเปิด 2 สาขาใหม่ 

เส้นทางธุรกิจแห่งอนาคตของเจ้าพ่อไนท์มาร์เก็ต 'ไพโรจน์ ร้อยแก้ว'  เตรียมเปิดตลาดนัดกลางคืน 2 แห่ง โดย แห่งแรก จะเปิดให้บริการภายในปี 2566 นี้ ซึ่งได้มีการพัฒนาโมเดลใหม่  ที่เป็นการพลิกรูปแบบของไนท์มาร์เก็ตจากที่ได้ทำมา!  บนพื้นที่ราว 10 ไร่ พร้อมเปิดตัวในเร็วๆ นี้ 

สำหรับแห่งที่สอง ถือเป็นการต่อยอดลงทุนครั้งใหญ่ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ ร่วมมือกับกลุ่ม วีรีเทล บริษัทในกลุ่ม พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่ได้ลงทุนมิกซ์ยูสอาคารสำนักงานและไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่ มีพื้นที่รีเทลในอาคารและพื้นที่กลางแจ้งไนท์มาร์เก็ต บริเวณริมถนนรัชดาภิเษก ติด MRT ศูนย์วัฒนธรรม พร้อมเปิดบริการต้นปี 2567

โดยได้จัดตั้งบริษัทใหม่ในชื่อ “blackdimond” เพื่อเข้ามาร่วมบริหารพื้นที่ค้าปลีกใหม่นี้ สัญญา 20 ปี

"จ๊อดแฟร์ ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบันจะหมดสัญญาเช่าพื้นที่เช่าจากกลุ่มเซ็นทรัล สิ้นปี 2566 ซึ่งเป็นสัญญาระยะสั้น 2 ปี และร้านค้าก็ทราบในเรื่องนี้อยู่แล้ว"

พลังแห่งการจุดประกายพื้นที่ว่างเปล่าบนถนนรัชดาที่เคยเงียบเหงาให้กลับมาคึกคัก กลายเป็นฮับท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอยากมาเยือนไนท์มาร์เก็ตที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางดงตึกสูงนั้น ภารกิจและความท้าทายรอบใหม่ของ 'เจ้าพ่อไนท์มาร์เก็ต' จะสร้างสีสันเขย่าวงการตลาดกลางคืนของประเทศไทยให้คึกคัก โดดเด่น แค่ไหน ต้องติดตามกันต่อไป