‘เถ้าแก่น้อย’ ยึดทุกเซ็กเมนต์ ระเบิดศึกชิง “สาหร่ายอบ” เจาะเจนฯใหม่

‘เถ้าแก่น้อย’ ยึดทุกเซ็กเมนต์ ระเบิดศึกชิง “สาหร่ายอบ” เจาะเจนฯใหม่

“เถ้าแก่น้อย” เปิดตัวสาหร่ายอบ ลองชีต 2 รสชาติ หวังเจาะฐานลูกค้าวัยรุ่นและเด็ก ย้ำภาพผู้นำตลาดครองทุกเซกเมนต์ ที่สำคัญขานรับเทรนด์สุขภาพ หนุนสาหร่ายอบโตต่อเนื่อง เพิ่มสัดส่วนตลาดแตะ 30%

“เถ้าแก่น้อย” แม้จะเป็น “ผู้นำ” ตลาดสหร่าย “พันล้าน” แต่ช่วงวิกฤติโควิด ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการเติบโตไม่น้อย เมื่อจัดทัพ ปรับกลยุทธ์ใหม่ ภารกิจสำคัญคือการรักษาตำแหน่งเจ้าตลาด จึงเห็นการขยายพอร์ตโฟลิโอ ออกสินค้าใหม่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

ยุคขนมขบเคี้ยวหรือสแน็คสาหร่ายบูม กลุ่มสินค้า “ทอด” ครองใจกลุ่มเป้าหมายอย่างมาก ทว่า เทรนด์สุขภาพที่มาแรง ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน โดย “สาหร่ายอบ” กลายเป็นดาวเด่น ขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้เจ้าตลาดต้องพัฒนาสินค้าเพื่อเสิร์ฟฐานลูกค้า โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่

ล่าสุดเถ้าแก่น้อยเปิดตัว “สาหร่ายอบลองซีต” แบบแผ่นยาว 2 รสชาติใหม่ “รสออริจินัล” และ “รสชิลลี่” เติมเต็มความสนุกในการกิน พร้อมคอนเซปต์อร่อยง่ายมือไม่เปื้อน เอาใจวัยรุ่น Gen Z- Gen Alpha ตอกย้ำกระแสสาหร่ายอบในไทย

นายพิศาล ธาราพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริหารรายได้ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสาหร่ายในประเทศไทยปี 2565 มีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท เมื่อแบ่งหมวดหมู่ สาหร่ายทอดมีสัดส่วน 55% สาหร่ายอบ 30% สาหร่ายย่าง 13% ที่เหลือเป็นสาหร่ายอื่นๆ 2%

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดสาหร่ายมีการเติบโต เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคมีการจับจ่ายซื้อผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวหรือสแน็คพร้อมรับประทานมากขึ้น ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย

ขณะที่เถ้าแก่น้อย ยังคงเคลื่อนธุรกิจสร้างอัตราการเติบโตมากกว่าภาพรวมตลาด ทำให้ครองส่วนแบ่งตลาดสแน็คสาหร่ายสูงถึง 65% ของตลาดรวม จากความสำเร็จในปี 2565 ที่ผ่านมา ยังสะท้อนบทพิสูจน์ความสามารถฝ่าวิกฤติมาได้ จากการปรับตัวให้เร็ว มีความยืดหยุ่น เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ ที่สำคัญคือการทำตลาดต้องเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

สำหรับแนวโน้มตลาดสแน็คสาหร่ายปี 2566 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารและขนมขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น สาหร่ายถือเป็นขนมที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดยเฉพาะสาหร่ายอบมีอัตราการเติบโตมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นอัตรากว่า “เท่าตัว” เพราะได้รับปัจจัยเชิงบวกที่สำคัญ คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการจะผ่อนคลายโควิดของประเทศของจีน ทำให้ภาครัฐตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นมากกว่า 30 ล้านคน

“เถ้าแก่น้อย ถือเป็นแบรนด์ยอดนิยมของชาวจีนที่ชื่นชอบสแน็คหรือซื้อเป็นของฝากเป็นอย่างมาก จึงมองสถานการณ์ท่องเที่ยวฟื้นเป็นปัจจัยบวก”

เถ้าแก่น้อยมีสแน็คสาหร่ายในพอร์ตโฟลิโอหลากหลาย แต่บริษัทได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดสาหร่ายอบ ซึ่งเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตสูง ภายหลังจากในช่วงกลางปี 2565 ได้ออกสินค้าในกลุ่ม สาหร่ายอบ นำคาแรคเตอร์ BT21 มาอยู่บนบรรจุภัณฑ์ จนได้การตอบรับที่ดีมาก จากลูกค้า สามารถขยายฐานผู้บริโภค ทำให้แบรนด์ ‘เถ้าแก่น้อย’ ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายสาหร่ายเพิ่มขึ้น ครองตำแหน่งผู้นำตลาดสาหร่ายอันดับ 1 ในทุกๆกลุ่ม ทั้ง ทอด อบ ย่าง บริษัทฯ

“บริษัทไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รสชาติใหม่ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้น”

สำหรับสินค้าใหม่ “สาหร่ายอบลองชีต” 2 รสชาติ ประกอบด้วย รสออริจินัล และ รสชิลลี่ มาพร้อมคอนเซปต์ “เถ้าแก่น้อย สาหร่ายลองซีต แผ่นยาว อร่อยยาว สนุกยาวกว่า” ดีไซน์บรรจุภัณฑ์ง่ายต่อการบริโภค และเป็นการปรับรูปแบบสินค้าให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ต้องการขยาย โดยเฉพาะวัยเด็กและวัยรุ่น Gen Z- Gen Alpha ที่ชอบกิจกรรมที่สนุกสนานท้าทาย เพราะแผ่นยาวช่วยให้กินเพลินไม่ต้องเสียเวลามาหยิบทีละแผ่น สนุกต่อเนื่องในการรับประทาน ไม่เปื้อนมือ ไม่ต้องดูดนิ้ว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้ทั้งความอร่อยและมีประโยชน์สูงอีกด้วย