พ่อค้าร้านส้มตำน้ำตาตก "มะละกอ" แพงขึ้นมาก โวยไม่ไหวแน่

ร้องสื่อ มะนาวแพงพอทน พ่อค้าร้านส้มตำน้ำตก มะละกอขยับราคาสูงถึงถุงละ 420-440 บาท วอนหน่วยงานรับผิดชอบแก้ไข ปล่อยไว้แบบนี้ ผู้ประกอบการ-ผู้บริโภคไม่ไหวแน่

ใกล้ตรุษจีน สินค้าหลายรายการมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ มะละกอ ที่ใช้ในเมนูส้มตำ ซึ่งตอนนี้ราคาพุ่งขึ้นสูงมาก ราคาสูงถึงถุงละ 420 บาท พ่อค้าร้านส้มตำถึงกับร้องสื่อ ได้รับผลกระทบมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลราคาสินค้า ไม่ใช่แต่เฉพาะมะละกอ แต่วัตถุดิบต่าง ๆ ราคาก็ปรับขึ้นไปตาม ๆ กัน

วันที่ 18 มกราคม 2566 เวลา 09.30 น. ที่ร้านอู๋แซ่บเวอร์ ร้านส้มตำอาหารอีสาน อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม นายเชาวลิต เหล่าสมบัติ เจ้าของร้านอู๋แซ่บเวอร์ กล่าวว่า ตอนนี้ทางร้านได้รับผลกระทบมาก เพราะราคามะละกอดิบ ราคาพุ่งขึ้นสูงมากจริง ๆ จึงอยากให้สื่อช่วยสื่อสารออกไปให้คนทั้งประเทศได้รู้ ไม่ใช่แต่มะนาวแพง วัตถุดิบอื่น ๆ รวมถึง มะละกอราคาก็แพงเช่นเดียวกัน

พ่อค้าร้านส้มตำน้ำตาตก \"มะละกอ\" แพงขึ้นมาก โวยไม่ไหวแน่

ราคามะละกอ ณ วันนี้ ราคามะละกอดำเนิน เกรดเอ 2 แถว ราคาอยู่ที่ 420 บาท เกรดรองลงมา 3 แถว ราคา 400 บาท ซึ่งถุงหนึ่งน้ำหนักจะอยู่ประมาณ 10 กิโลกรัม เท่ากับว่าตกกิโลกรัมละ 40-42 บาท จากปกติราคาจะอยู่ที่หลักร้อยต้น ๆ หากย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน (ปี2565) ช่วงที่มะละกอแพง ๆ ราคาจะอยู่ที่ 280-300 บาท แต่ปีนี้หนักสุด ๆ วันก่อนอยู่ที่ 370 บาท วันนี้ 420 บาทแล้ว ล่าสุดมะละกอวันที่ 18 มกราคม 2566 อยู่ที่ 440 บาทแล้ว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าร้านส้มตำได้รับความเดือดร้อนจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นมากจริง ๆ

ทางร้านค้าส่งก็บอกว่า หนักใจเหมือนกันที่ต้องขายมะละกอในราคาที่สูงแบบนี้ แต่เมื่อของมันมาแพง ก็ต้องขายแพง เราจำเป็นต้องซื้อก็ซื้อเกรดที่ถูกลงมา ซื้อน้อยลง เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว ซึ่งก็ไม่ได้ขึ้นแต่มะละกอ ก่อนหน้านั้นก็มีมะเขือเทศ ที่ราคาปรับขึ้นไปถึง 70 บาท ตอนนี้ก็ลดลงมาเหลือ 50 บาท มะนาวราคาก็ปรับขึ้นเป็นกระสอบละ 1,450 บาท หากใช้มะนาวเกรดเอ ราคาก็จะอยู่ที่กระสอบละ 1,600-1,800 บาทเลยทีเดียว

พ่อค้าร้านส้มตำน้ำตาตก \"มะละกอ\" แพงขึ้นมาก โวยไม่ไหวแน่

ปัญหาของร้านตอนนี้คือ วัตถุดิบทุกอย่างราคาแพงขึ้นหมดแล้ว ถึงแม้จะมีข่าวว่าน้ำมันพืชปรับลดราคา หมูราคาลดลง แต่อย่างอื่นขึ้นหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุง ของสด ของทะเล ยกตัวอย่างเช่น ปูอัด จากเดิม 139 บาท ปรับขึ้นเป็น 155 บาท หอยแมลงภู่แช่แข็งจากเดิม 140-150 บาท ปรับขึ้นเป็น 170-180 บาท ไข่ไก่ ไข่เป็ดปรับขึ้นแผงละ 10-20 บาท

ถ้าถามกว่ากระทบกับเรายังไง เมื่อเราปรุงอาหารสำเร็จรูปเสร็จมาเสริฟ์ให้ลูกค้า หากเราขายแพง เราก็ขายยาก คนทานกำลังซื้อเท่าเดิม แต่ต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น ก็ต้องคิดมากขึ้นว่าจะสั่งกินหรือไม่ แต่หากเราขายถูก เราก็แทบจะไม่มีกำไร กำไรไม่เหลือ ตอนนี้ยอมรับว่าต้องขอลดปริมาณมะละกอลงนิดหน่อย ลูกค้าบางคนก็ถามบ้างว่าลดปริมาณลงรึป่าว เราก็บอกลูกค้าไปตรง ๆ ว่าขอโทษด้วยตอนนี้มะละกอแพงมากจริง ๆ ต้องขอลดปริมาณลงเล็กน้อย ซึ่งทางลูกค้าก็เข้าใจ ส่วนมากลูกค้าเป็นนิสิต

สิ่งที่อยากให้รัฐช่วยเหลือ จริง ๆ ก็อยากให้รัฐช่วยอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทราบอยู่แล้วว่าควรจะต้องทำอย่างไร ราคาสินค้าในตลาดทุกคนรู้อยู่แล้วว่าของมันแพง

พ่อค้าร้านส้มตำน้ำตาตก \"มะละกอ\" แพงขึ้นมาก โวยไม่ไหวแน่

แม่ค้าแม่ค้าไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะของมันแพงตั้งแต่ต้นทาง ต้องหันมาพึ่งสื่อมวลชนให้ช่วยกระตุ้น สื่อสารออกไปให้ทุกคนได้รู้ ให้โลกรู้ว่า ของมันแพงขึ้นจริง ๆ พ่อค้าแม่ค้าต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นมากเกินไปหรือเปล่า