‘เฮียฮ้อ’ เดิมพันธุรกิจเพลงครั้งใหม่ หลังถอยทัพ 15 ปี เพราะขาดทุน เจอดิสรัป!

ในการแถลงแผนธุรกิจประจำปี 2566 ของ “อาร์เอส” มีหลากประเด็นให้น่าจับตา โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงอีกก้าวสำคัญขององค์กร ทั้งเรื่องของ “วิสัยทัศน์” ที่ปรับใหม่ ทะยานสร้างมาร์เก็ตแคปให้ทั้งกลุ่มบริษัทแตะ 1 แสนล้านบาท ใน 3 ปีข้างหน้า รวมถึงการพลิก Brand Purpose อีกครั้ง เพื่อยกระดับชีวิตผู้คน

ภายใต้แนวทางขับเคลื่อนองค์กร มียุทธศาสตร์ใหญ่ 3 ปี ยังมี “กลยุทธ์” ที่แทรกอยู่ เพื่อผลักดันธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

หนึ่งในเรื่องสำคัญที่จะเห็นของ “อาร์เอส” คือการกลับมารุกธุรกิจเพลงอีกครั้งรอบ 15 ปี!

“ปี 2566 เป็นปีที่สำคัญสุดของอาร์เอสตั้งแต่ก่อตั้งมา และสำคัญสุดในชีวิตการทำงานของผม” ประโยคเล่าบนเวทีที่ “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) บอกกับทั้งนักลงทุน พันธมิตร และสื่อมวลชน

กว่า 4 ทศวรรษ คือเส้นทางการขับเคลื่อนธุรกิจของ “เฮียฮ้อ” ซึ่งริเริ่มเข้าสู่วงการ ด้วยการปลุกปั้นธุรกิจเพลงตั้งแต่วัย 19 ปี มีค่ายเพลงโด่งดังเป็นที่รู้จักเดิมคือย่านลาดพร้าวซอย 15

ความทุ่มเท พยายามทำงานหนัก ส่งผลให้ “เฮียฮ้อ” ประสบความสำเร็จบนสังเวียนธุรกิจเพลง สื่อและความบันเทิง สร้างศิลปินนับร้อยชีวิต จนโด่งดังกลายเป็น “ตำนาน” จนถึงปัจจุบัน และมีเพลงถึง “2 หมื่นเพลง” อยู่ในกรุ และเป็นสมบัติล้ำค่า นำมาต่อยอดได้

ยุครุ่งเรือง “เฮียฮ้อ” สามารถพาอาร์เอส สร้างรายได้จากธุรกิจเพลงถึงหลัก “พันล้านบาท” และอดีต “เพลง” ยังทำเงินสูงสุด 90% ให้บริษัท

ทว่า วัฏจักรธุรกิจมี “ขึ้น-ลง” จากรุ่งโรจน์ สู่ขาลง จาก "กำไร" กลายเป็น “ขาดทุน” เนื่องจากเพลงเผชิญจุดพลิกผันครั้งสำคัญหลายประการ หากย้อนยุคก่อนดิจิทัล ปฏิเสธไมได้ว่าการฟังเพลงผ่าน Physical ทั้งเทป ซีดี แผ่นเสียง ฯ กลายเป็นแหล่งทำเงินให้ค่ายเพลงต่างๆ และนักร้องที่โด่งดังมาก จะได้รับความนิยม มีเพลงดัง ทำอัลบั้มวางขายจนทะลุ “ล้านตลับ” ถือเป็นปรากฎการณ์แบบขั้นสุดของวงการ เพลง ศิลปินดัง ยังต่อยอดทำเงินผ่านอีเวนต์ คอนเสิร์ตได้ด้วย

แต่ด้วย “ราคา” ของเทป ซีดีที่ค่อนข้างแพงในอดีต ทำให้พ่อค้าหัวใส(ไม่ซื่อ)คัดลอกเพลงจนเกิด “เทปผีซีดีเถื่อน” ถล่มธุรกิจให้ย่อยยับไม่น้อย เพราะการทำเพลง ปั้นศิลปินแต่ละครั้งมีการ “ลงทุน” มหาศาล ทว่า “ทรัพย์สินทางปัญญา” กลับไม่ได้รับการเคารพ เมื่อละเมิด จึงกระทบต่อผู้ประกอบการ และศิลปิน

ถัดมาเทคโนโลยีก้าวหน้า “ดิจิทัล” เริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาด เกิดทั้ง MP3 มีดิจิทัลดาวน์โหลด ทำให้การขายเพลงผ่านเทป ซีดี ลดน้อยถอยหลังมากขึ้น ผู้ประกอบการยังปรับตัวไม่ทัน พายุ “ดิสรัป” ยังถาโถมไม่หยุด

ที่สุด “เฮียฮ้อ” เผชิญการเปลี่ยนแปลง และต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ด้วยการ “ขายโรงงาน” ผลิตเทป ซีดี เนื่องจากบริษัทประสบภาวะ “ขาดทุน”

ห้วงเวลา 5 ปี (หลังปี 2550 ขายโรงงานผลิตซีดี) ที่ต้องหาทางแก้โจทย์ยากทางธุรกิจ ล้างขาดทุน “เฮียฮ้อ” ยกให้เป็นวิกฤติหนักสุดในชีวิตการทำงานด้วย

“วิกฤติช่วง 5 ปี ยากสุด แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้คือการทรานส์ฟอร์ม ดิสรัปตัวเอง ทำให้เรามีภูมิต้านทาน ได้มายด์เซ็ทดีๆ”

การกลับสู่ธุรกิจเพลงอีกครั้ง ถือเป็น “เดิมพัน” ใหม่ของ “เฮียฮ้อ” เพราะภายใน 3 ปี บริษัทต้องการทวงความยิ่งใหญ่สร้างรายได้แตะระดับ “พันล้านบาท” เฉกเช่นยุคเฟื่องฟู

กลยุทธ์เพื่อสานฝัน มี 2 องค์ประกอบ 1.การนำทัพศิลปิน “ศิษย์เก่า” อาร์เอส กลับมาทวงบัลลังก์ความปังอีกครั้ง หรือ “เฮียฮ้อ” เรียกว่า RS Homecoming ที่น่าสนใจคือ “ใคร” จะมีชื่อบนทำเนียบเพลงของอาร์เอสอีกครั้ง แต่ตัวอย่างที่เผยเบื้องต้น ได้แก่ แร็พเตอร์ หรือหลุยส์-จอห์นนี่ ,แดน-บีม ดีทูบี, ดัง พันกร, เขื่อน, เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ และลิเดีย เป็นต้น ศิลปินนักร้องเหล่านี้ มี “ฐานแฟน” ที่พร้อมเปย์ให้พอสมควร

2.ปั้นศิลปินหน้าใหม่ หรือ RS New Comers โดย “โฟร์ทแอปเปิ้ล” จะเป็นกุญแจสำคัญในการเฟ้นหาศิลปินหน้าใหม่ รวมถึงเปิดเวทีให้คนมีความสามารถมาโชว์ ร้อง เต้น เพื่อคัดเลือกผู้มีผลงานเข้าตากรรมการ เป็นศิลปินในค่ายต่อไป

อีกไฮไลต์ คือการ “ร่วมทุน” กับพันธมิตร เพื่อมาช่วยกันสร้างสรรค์คอนเทนต์ อย่าง MV เพื่อตอบโจทย์แฟนเพลงนั่นเอง ไตรมาส 1 รู้กันว่า “ใคร” คือจิ๊กซอว์ที่จะพาอาร์เอส ยิ่งใหญ่และแกร่งในวงการเพลงรอบใหม่

“หลายคนรู้ว่าเราถอยจากวงการเพลงมา 15 ปีแล้ว หลังจาก Physical โดนดิสรัป แต่ตอนนี้สภาพแวดล้อมเปลี่ยน เพราะการเติบโตของดิจิทัล ทั้งยูทูป สตรีมมิ่งฯ กลายเป็น New Wave ธุรกิจเพลง”

หากธุรกิจเพลงแกร่ง “เฮียฮ้อ” ยังเดินตามวิชั่นใหม่ คือการ Spin-off และผลักดันบริษัทเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สร้างมูลค่าความมั่งคั่งต่อไป

อย่างไรก็ตาม การรุกธุรกิจเพลง ไม่ใช่แค่ “ตลาดเอื้อ” โอกาสทองเปิดกว้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า “เพลง” ที่อยู่ในคลังของอาร์เอส คือสมบัติที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ทันที เพราะการลงทุนเกิดขึ้นแล้ว จากนี้ไป ไม่ว่าเพลงจะอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ใด จะสร้างผลตอบแทน “กำไร” ทันที และเป็นอัตราที่สูง 30-40% ด้วย

“ถ้าเวลานี้น้ำขึ้น เราต้องรีบจับปลา การกลับมาทำเพลงจริงจัง เชิงรุก ที่ผ่านมาเราลดน้ำหนักธุรกิจเพลง แต่ไม่เลิก ธุรกิจมีขนาดเล็กแต่ยังสร้างกำไร”