‘อังกฤษตรางู’ปั้นแบรนด์‘สเนค’ผงาดโกลบอลแบรนด์

หากเอ่ยถึง “อังกฤษตรางู”  แบรนด์สัญชาติไทยอายุยาวนาน 130 ปี ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของวิถีคนรุ่นใหม่ ทำให้วันนี้ “อังกฤษตรางู” ต้องลุกขึ้นมาทรานส์ฟอร์มตัวเองครั้งใหญ่ ภายใต้การนำทัพของทายาทผู้บริหารรุ่นที่ 4 วางยุทธศาสตร์บุกตลาดเอเชีย สร้างแบรนด์ “สเนค” ขึ้นแท่นโกลบอลแบรนด์ พร้อมทุ่มลงทุนวิจัยการตลาด บอดี้โลชั่น ที่มีส่วนผสมกัญชง จะเป็นอีกหนึ่งเรือธงมัดใจคนรุ่นใหม่

อนุรุธ ว่องวานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู กล่าวว่า กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู ตั้งเป้าหมายจะผลักดันให้ “สเนค แบรนด์” เติบโตเป็นแบรนด์ระดับโลก โดยแนวทางสำคัญ คือ ปรับปรุงแบรนด์ และการออกสินค้าใหม่ หนึ่งในนั้นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกัญชง พร้อมกับขยายตลาดต่างประเทศใหม่ โฟกัสที่ตลาดใกล้ประเทศไทยก่อน อย่าง อินโดนีเซีย จีน และอินเดียที่กำลังศึกษาอยู่ โดยมีตัวแทนจำหน่ายแล้วในขณะนี้ คาดว่าภายใน 3-5 ปีจะสามารถเห็นผลที่ชัดเจนขึ้น

ที่ผ่านมา นอกจากอังกฤษตรางูจะทำการตลาดในไทยแล้ว ยังเติบโตในตลาดต่างประเทศอีกหลายประเทศที่มีอยู่ 10 ประเทศ ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศ 15%  วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนให้ได้ 30% ภายใน 3-5 ปี 
 

พร้อมกับการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละประเทศ เพื่อคิดค้นและพัฒนาสินค้าตามความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในท้องถิ่นนั้นๆ รวมทั้งพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมากขึ้นผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และโซเชียลมีเดียของแบรนด์ทุกช่องทาง!

ปัจจุบัน “กัญชง” นับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ที่ได้รับความสนใจทั้งจากไทยและต่างประเทศ จากการคาดการณ์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มูลค่าตลาดกัญชงในไทยปี 2565 อยู่ที่ราว 7,200 ล้านบาท 

โดย 3 ปีข้างหน้า หรือ ปี 2568 นักวิเคราะห์จากสหรัฐ มองว่า ตลาดกัญชงไทย น่าจะอยู่ที่ราว 40,000 ล้านบาท และหากรวมทั้งอาเซียน คาดมูลค่าตลาดจะอยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาทในปี 2568 โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ติด 1 ใน 5 อันดับความนิยม และจัดเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสร้างมูลค่าทางการตลาดให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมกัญชงในไทย

ล่าสุดเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค และสเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค ซีบีดี มอยส์เจอไรซิ่ง แอนด์ โพรเทคชั่น ยูวี ไบรท์เทนนิ่ง บอดี้เซรั่ม ตั้งเป้ายอดขายจากกลุ่มสินค้าใหม่สเนคแบรนด์ เฮอร์บาซูติค ภายในปีนี้ 2566 ไว้ที่ 200 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลังนี้จะมีการออกสินค้าใหม่ ที่มาจากสารสกัดซีบีดีและสมุนไพรอื่นๆ เป็นส่วนผสม ซึ่งปีนี้มีแผนพัฒนาสินค้าใหม่ในเชิงรุก ซึ่งเน้นสินค้าในราคาที่เหมาะสม เข้ากับเทรนด์ตลาดและความพึงพอใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ จากปีที่แล้วออกสินค้าใหม่ 2 รายการ คาดภายใน 3 ปีข้างหน้ายอดขายทะลุ 2,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมียอดขายปีละ 1,500 ล้านบาท