แผนโต 'ซีอาร์จี' นำทัพ 'เคเอฟซี' ลุยไซส์เล็ก สปีดธุรกิจทำเงินปี 66 สู่ 7,000 ล.
ปี 66 "ซีอาร์จี" วางหมากรบ "เคเอฟซี" ขยายร้านใหม่มากถึง 30 สาขา ซึ่งเป็นจำนวนเยอะเป็นปีที่ 2 จากปกติเปิดเพียง 10-15 สาขาต่อปี ล่าสุดยังชูคอนเซปต์รักษ์โลกกับ "KFC Green Store" นำร่องที่โรบินสัน ราชพฤกษ์ ร้านใหญ่ มีอีวี สเตชั่น แยกขยะอาหารเหลือทิ้ง รับเทรนด์แรงความยั่งยืน
“เคเอฟซี” ยังคงเป็นร้านไก่ทอดขวัญใจของผู้บริโภค และเป็น Destination ที่กลุ่มเป้าหมายเข้าไปใช้บริการได้ทุกวัน ตอบโจทย์ทุกโอกาส
ภายใต้การฟื้นตัวของธุรกิจอาหารโดยรวม หมวดร้านอาหารบริการด่วนหรือ QSR ในกลุ่มไก่ทอดกลับมาเติบโตไม่ต่างกัน โดย ปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส QSR & Western Cuisine ผู้บริหารแบรนด์ เคเอฟซี ภายใต้การบริหารโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด ให้มุมมองตลาดไก่ทอดโดยรวมเติบโตกว่า 20% และ “เคเอฟซี” ภายใต้ “ซีอาร์จี” บริหารเติบโตราว 25%
โมเมนตัมบริการนั่งรับประทานอาหารที่ร้านหรือ Die-in ยังเป็น “เครื่องยนต์” ที่จะผลักดันการเติบโตของปีหน้าด้วย
“นิยามธุรกิจร้านอาหารปีนี้คือทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติหรือ Normalization แต่ต่างแค่ช่องทางการใช้บริการ ส่วนปีหน้า Die-in จะเป็นเครื่องยนต์สร้างการเติบโตแบบชัดๆ มีปัจจัยหนุนคือผู้คนกลับมาพบเจอกัน สังสรรค์ นักท่องเที่ยวกลับมา ยิ่งจีนเปิดประเทศ น่าจะทะลักมาไทยมหาศาล”
ทั้งนี้ แผนขับเคลื่อนธุรกิจร้านเคเอฟซี รองรับการเติบโตปีหน้า บริษัทวางงบลงทุนราว 400 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านใหม่ราว 30 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิมอีก 30 สาขา โดยร้านใหม่จะเน้นโมเดล “ช็อป เฮ้าส์” มากขึ้น คือการใช้พื้นที่อาคารพาณิชย์ขนาด 1-2 คูหาเปิดร้าน มีที่นั่ง 30-50 ที่นั่ง เพิ่มโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ขายสินค้าและบริการได้ 24 ชั่วโมง(ชม.) รวมถึงรูปแบบร้านเดี่ยวหรือสแตนอะโลน สัดส่วนราว 50% ที่เหลือเป็นรูปแบบอื่น
ปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์
ร้านเคเอฟซีโมเดลช็อป เฮ้าส์ เปิดให้บริการที่แรกสาขาอินทามระ หรือย่านสะพานควาย ไม่มีบริการนั่งทาน เพื่อรองรับบริการเดลิเวอรี่ รูปแบบดังกล่าวยังนับรวมสาขาในสถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม)ด้วย โดยการลงทุนจะต่ำลงราว 40% เมื่อเทียบกับปกติ
“ปี 2566 เป็นปีที่ 2 ที่ซีอาร์จีเปิดเคเอฟซีเชิงรุก 30 สาขา จากปกติเราเปิดร้านใหม่ราว 10-15 สาขาต่อปีเท่านั้น ขณะที่การเปิดร้านรูปแบบช็อป เฮ้าส์ เมนไอเดียคือเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และยังช่วยสปีดการขยายสาขาได้เร็วขึ้นด้วย”
ขณะที่ปี 2565 บริษัททุ่มงบราว 300 ล้านบาท เปิดร้านใหม่ 30 สาขา ส่งผลให้สิ้นปีมีร้านให้บริการทั้งสิ้น 320 สาขา โดยล่าสุดสาขาใหม่ที่ โรบินสัน ราชพฤกษ์ มีการชูคอนเซปต์ “KFC Green Store” ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นเทรนด์มาแรงมาก
จุดเด่นของร้านนอกจากสแตนอะโลนพื้นที่ 170-180 ตร.ม. ตัวอาคารออกแบบในสไตล์นอร์ดิก ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ การใช้วัสดุก่อสร้างและเทคโนโลยีภายในร้านส่งเสริมแนวคิดเพื่อความยั่งยืน เช่น กระจกประหยัดพลังงานที่ป้องกันความร้อนผ่านกระจกในขณะที่ให้แสงส่องผ่านได้มาก การเลือกใช้ของตกแต่งร้านทำจากวัสดุรีไซเคิล ชุดพนักงานที่ตัดเย็บด้วยผ้าจากเส้นใยขวดพลาสติก มีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี สเตชั่น) การแยกขยะ นำเศษอาหารไปทำเป็นปุ๋ย เป็นต้น
การเปิดร้านคอนเซปต์ใหม่ ยังตอบโจทย์ Die-in ที่จะเป็นเครื่องยนต์เติบโตปีหน้าด้วย ซึ่งแบรนด์ต้องเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในร้านมากยิ่งขึ้น
นอกจากเปิดสาขา “เคเอฟซี” ยังมีการปรับเซ็ทเมนูใหม่ให้ผู้บริโภคจับจ่ายง่ายขึ้น และตอบไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ต้องการบริโภคอย่างรวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาเมนูใหม่ๆ สร้างสีสันกระตุ้นการบริโภคของลูกค้าด้วย
สำหรับ “เคเอฟซี” ถือเป็นแบรนด์เรือธงของเครือซีอาร์จี การเปิดร้าน KFC Green Store สาขาราชพฤกษ์ เป็นสาขาลำดับที่ 983 ของ เคเอฟซี ประเทศไทย ขณะที่ภาพรวมของแบรนด์ “เคเอฟซี” ภายใต้ ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) มีร้านแตะ 1,000 สาขาเรียบร้อยจากแฟรนไชส์ทั้งสิ้น 3 ราย
ปี 2564 ซีอาร์จี สร้างรายได้เคเอฟซีราว 5,000 ล้านบาท ส่วนปี 2565 คาดการณ์ปิดยอดขาย 6,300 ล้านบาท เติบโตสูงกว่าเป้าหมายเดิมตั้งไว้ 6,100 ล้านบาท และ “เคเอฟซี” ทำเงินสัดส่วน 40% ให้กลุ่มซีอาร์จี แต่ทำเงิน 35% ให้กับ “ยัมฯ” อย่างไรก็ตาม การเดิมเกมรุกปี 2566 ซีอาร์จี วางเป้าหมายรายได้เคเอฟซีแตะเกิน 7,000 ล้านบาท