บิ๊กแอร์เอเชีย "โทนี่ เฟอร์นานเดส" ชี้ โลว์คอสต์ คำตอบท่องเที่ยวยุค ศก.ถดถอย

บิ๊กแอร์เอเชีย "โทนี่ เฟอร์นานเดส" ชี้ โลว์คอสต์ คำตอบท่องเที่ยวยุค ศก.ถดถอย

“ภาคท่องเที่ยว” คาดหวังเห็นการฟื้นตัวครั้งใหญ่ในปี 2566 และถูกยกให้เป็น “พระเอก” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศ ยักษ์โลวคอสต์อย่าง “กลุ่มแอร์เอเชีย เอวิเอชั่น” ธุรกิจสายการบินภายใต้ “แคปปิตอล เอ เบอร์ฮาร์ด” จึงเริ่มขยับการลงทุนครั้งใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน

ร่วมก่อตั้งสายการบินใหม่ “แอร์เอเชีย กัมพูชา”

โทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม แคปปิตอล เอ ฉายภาพว่า เชื่อมั่นว่าปี 2566 จะเป็น “ปีที่ยอดเยี่ยม” ของภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกรวมถึงภูมิภาคอาเซียน! แนวโน้มภาพรวมปริมาณที่นั่งโดยสาร (Capacity) ของสายการบินฟื้นตัวกลับมามากขึ้น นักท่องเที่ยวทุกกลุ่มวัยออกเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก เห็นภาพ “เที่ยวล้างแค้น” (Revenge Travel) หลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ที่ลากยาวมาร่วม 3 ปี

สำหรับตลาดธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบินใน “ประเทศไทย” จะยังคงแข็งแกร่ง! แม้ปัจจุบันมีความท้าทายจากปัญหาเศรษฐกิจและความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังเลือกเดินทางมากรุงเทพฯหรือภูเก็ตจำนวนมาก เพื่อสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่

ด้านความกังวลเกี่ยวกับภาวะ “เศรษฐกิจโลกถดถอย” (Global Recession) ในปีหน้า ส่วนตัวไม่ได้สนใจปัญหาเศรษฐกิจถดถอยมากนัก เพราะมองว่าการท่องเที่ยวยังเป็นสิ่งสำคัญ หากเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นจริง นักท่องเที่ยวจะยังออกเดินทางอยู่ดี เน้นการท่องเที่ยวระยะสั้น (Short-haul) และ “สายการบินโลว์คอสต์” คือคำตอบของสถานการณ์นี้!

“หากตลาดจีนเปิด จะเป็นการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารครั้งใหญ่แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ช่วยเติมเต็มปริมาณที่นั่งโดยสารของสายการบินในกลุ่มแอร์เอเชียฯ”

หลังจากตลอด 3 ปีที่ผ่านนับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 เป็นห้วงเวลาที่สายการบินต้องเอาตัวรอด! โดยในปี 2565 ถึงต้นปี 2566 ถือเป็นช่วงฟื้นฟูปฏิบัติการบินให้กลับมาอีกครั้ง ก่อนกลับมาเติบโตอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังปี 2566

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. “กลุ่มแอร์เอเชีย เอวิเอชั่น” ลุยลงทุนครั้งใหญ่! ประกาศลงนามความความร่วมมือกับ “บริษัท ศิวิลัย เอเชีย” ก่อตั้งสายการบิน “แอร์เอเชีย กัมพูชา” สายการบินราคาประหยัดรายใหม่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งนับเป็นประเทศที่ 5 ที่กลุ่มแอร์เอเชียฯได้เข้ามาให้บริการ ตั้งเป้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ “แอร์เอเชีย” ในกัมพูชาและภูมิภาคอินโดจีน ยกระดับการเชื่อมต่อเครือข่ายเส้นทางบิน

“ในปี 2565 เป็นช่วงเวลาของการเริ่มต้นของสายการบินใหม่ และจะพัฒนาให้เติบโตสู่ระดับปกติก่อนโควิด-19 ระบาด เครื่องจักรดังกล่าวพร้อมทำงานและจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ของปี 2566 โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จะเป็นช่วงที่เรามุ่งเน้นการเติบโต มั่นใจว่าจะได้เห็นผลกำไรในปีแรก เนื่องจากกัมพูชาเป็นตลาดที่เราคุ้นเคยและมีโครงสร้างพื้นฐานเชิงลึกอยู่แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่สายการบินในอนาคตทั้งหมดของเราจะตั้งอยู่ในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เรารู้จักดีและสามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว เชื่อมโยงเครือข่ายขนาดใหญ่ของเราเข้ากับจุดสำคัญๆ ของกัมพูชา ได้แก่ พนมเปญ เสียมราฐ และสีหนุวิลล์”

ทั้งนี้ มองว่ากัมพูชาเป็นหนึ่งในตลาดที่เปรียบเสมือน “เพชรที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน” (The Unpolished Diamond) มีจุดขายน่าสนใจเรื่องประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกจำนวนมาก จากเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 กัมพูชามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือน 6.6 ล้านคน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางแก่ชาวกัมพูชา สร้างงานแก่คนในท้องถิ่น ฝึกฝนบุคลากรด้านภาคพื้น ลูกเรือ ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจการบินแก่ชาวกัมพูชา

ขณะเดียวกันยังเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดขนส่งสินค้าทางอากาศ หรือ “คาร์โก้” (Cargo) ซึ่งเป็นอีกมิติที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากกัมพูชาเป็นฐานการผลิตสินค้าสำคัญเพื่อการส่งออก สร้างการเติบโตระดับปรากฏการณ์แก่จีดีพีของประเทศ จึงเชื่อมั่นว่าการเข้ามาเปิดสายการบินแอร์เอเชีย กัมพูชา จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ สร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ประเทศกัมพูชา

“สายการบิน แอร์เอเชีย กัมพูชา ไม่ได้เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดการบินที่มีอยู่ แต่จะเป็นคนสร้างตลาดขึ้นมา จากศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและการส่งออกของกัมพูชา แอร์เอเชียจะใช้โอกาสดังกล่าวกระตุ้นการขนส่งผู้โดยสารและสินค้ามากขึ้น โดยหวังเห็นรัฐบาลกัมพูชาพิจารณาลดอัตราภาษีและค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบธุรกิจการบิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณการเดินทางมากขึ้น

รายงานข่าวจากกลุ่มแอร์เอเชีย เอวิเอชั่น ระบุเพิ่มเติมว่า แอร์เอเชีย กัมพูชา กำหนดแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยใช้เครื่องบินแอร์บัส เอ321 โฟกัสจุดบินที่เดินทางภายในรัศมี 4 ชั่วโมงจากกัมพูชา ลุยเปิดตัวบริการใหม่สู่ภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประเทศจีนและอินเดียในอนาคต!