'เบโค’ ยึดไทยฐานทัพ บุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเอเชียแปซิฟิก

'เบโค’ ยึดไทยฐานทัพ บุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเอเชียแปซิฟิก

“เบโค”(beko) ถือเป็น 1 ใน 3 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือนยักษ์ใหญ่ของยุโรป และภายใต้อาณาจักร “อาร์เซลิก” บริษัทแม่ ยังมีแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอมากมายถึง 12 แบรนด์

ระยะเวลา 8 ปี เป็นเส้นทางของเครื่องใช้ไฟฟ้ายุโรปบุกตลาดไทย และมีการเติบโตต่อเนื่อง ยิ่งกว่านั้น บริษัทยังใช้ “ไทย” เป็นฐานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวก “ตู้เย็น” เพื่อป้อนไปยังตลาดโลกด้วย

อุทกู บาริช พาซาร์ ประธานเจ้าหน้าบริหาร ด้านกลยุทธ์และงานดิจิทัล บริษัท อาร์เซลิก ฉายภาพ แบรนด์เบโค ไม่ได้แข็งแกร่งการทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในยุโรปเท่านั้น ปัจจุบันขยายการเติบโตสู่ประเทศต่างๆทั่วโลก รวมถึง “เอเชียแปซิฟิก” ที่เป็นหมุดหมายสำคัญ เนื่องจากมองเห็น “โอกาสมหาศาล” ในอนาคต จนบริษัทต้องควักเงินลงทุน 166 ล้านยูโร หรือราว 6,000 ล้านบาท สร้างฐานผลิตตู้เย็นที่จังหวัดระยอง

การเลือกประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลาง” หรือฮับการผลิต เนื่องจากเล็งเห็นจุดยุทธศาสตร์กึ่งกลางของภูมิภาค และส่งสินค้าไปยังตลาดต่างๆ

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทไม่เพียงมุ่งเติบโตด้านยอดขาย แต่ยังตระหนักเรื่องความยั่งยืน ทำให้สินค้าที่จะออกสู่ตลาดต้องมีนวัตกรรม ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

“ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีโอกาสมหาศาล จากชนชั้นกลางขยายตัว มีอำนาจซื้อมากขึ้น ทำให้มีความต้องการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือนเพิ่ม อีกด้านส่งผลต่อการใช้พลังงาน ทำให้การพัฒนาสินค้าของบริษัทต้องคิดค้นนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น”

โรงงานเบโค ไทย ที่จังหวัดระยอง เดินเครื่องผลิตตู้เย็นปีแรกจำนวน 350,000 เครื่อง ปัจจุบันเติบโตมีกำลังการผลิตแตะ 600,000 เครื่องต่อปี ส่วนปี 2566 บริษัทมองกำลังผลิตเพิ่มเป็น 750,000 เครื่องต่อปี เพื่อผลักดันสู่การเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย

แอเรียล อทากูล ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค บริษัท เบโค ไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในเอเชียแปซิฟิคมีความเฉพาะตัวค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในโลก ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตที่รวดเร็ว พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน มองเครื่องใช้ไฟฟ้าตอบทุกไลฟ์สไตล์ความสะดวกสบาย รู้จักฟีเจอร์ของเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ที่สำคัญผู้บริโภคมองหาสิ่งที่ดีสุดผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้แบรนด์ต้องนำเสนอสินค้าผ่านทุกแพลตฟอร์ม เป็นต้น

ส่วนประเทศไทยครึ่งปีแรกตลาดตู้เย็นเติบโต 18% และเครื่องซักผ้าโต 22% ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคต่างจังหวัดใช้เครื่องซักผ้าฝาบน คนในเมืองใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้า การมองเครื่องใชัไฟฟ้าเป็นของแต่งบ้าน เป็นต้น

สำหรับเบโค ทำตลาดในไทยมา 8 ปี โจทย์ใหญ่คือสร้างการรับรู้แบรนด์ยุโรป ที่มาพร้อมกับความคาดหวังของสินค้ามากกว่าแบรนด์ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญคือบริการหลังการขาย

“ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเอเชียแปซิฟิกการแข่งขันสูง คู่แข่งจำนวนมาก แต่การเติบโตเร็ว ส่วนเบโค ทำตลาดในไทยมา 8 ปี มีการเติบโตและยังไม่เผชิญปัญหามากนัก”

สำหรับแผนธุรกิจปี 2566 บริษัทยังเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาด โดยไฮไลท์คือนำตู้เย็นรุ่นใหญ่ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ มาบุกตลาดไทยด้วย รองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคสูงขึ้น ล่าสุดบริษัทยังทุ่มเงิน 130 ล้านบาท หรือราว 3.5 ล้านยูโร ขยายการผลิตตู้เย็นพรีเมียมตอบโจทย์ลูกค้า รวมถึงวางแผนขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าเพิ่ม 40% หรือครอบคลุม 700 ร้านค้า

จากแผนดังกล่าวจะผลักดันการเติบโตปีหน้าอยู่ที่ 2 เท่าตัว จากปี 2565 คาดการณ์ยอดขายเติบโต 25% ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดตู้เย็น 2 ประตูช่องแช่แข็งด้านบนตั้งเป้าโตเพิ่มแตะ 5% ตู้เย็น 2 ประตู(เปิดด้านข้าง)ส่วนแบ่ง 7.5% ตู้เย็น 2 ประตูช่องแช่แข็งด้านล่าง(Combi) ส่วนแบ่งตลาดแตะ 13% ส่วนเครื่องซักผ้าตั้งเป้าส่วนแบ่ง 9% อย่างไรก็ตาม ตู้เย็นเป็นสินค้าเรือธงของบริษัท สร้างยอดขายสัดส่วนราว 40% ของพอร์ตโฟลิโอ

“เอเชแปซิฟิก สร้างรายได้ราว 4% ของทั้งโลก ส่วนตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเบโคในไทยมีการเติบโตสูงสุด ตามด้วยเวียดนาม และมาเลเซีย”