“นพพร วาทิน” ฝันใหญ่ จัดทัพ “ไทยไฟท์” เขย่าโลก Soft Power

“นพพร วาทิน” ฝันใหญ่  จัดทัพ “ไทยไฟท์” เขย่าโลก Soft Power

จากคนสื่อ อุตสาหกรรมบันเทิง สั่งสมความรู้กว่า 3 ทศวรรษ ผ่านผลงานคอนเทนท์กว่า 300 เรื่อง สู่จุดเปลี่ยน "นพพร วาทิน" ลุยปั้นเวทีมวย "ไทยไฟท์" ชูศิลปะการต่อสู้ผสานบันเทิงเป็น "สปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนท์" เจาะฝันใหญ่แผนเขย่าโลก Soft Power ผ่าน THAI FIGHT

กว่า 30 ปี คือระยะเวลาที่ “นพพร วาทิน” คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงทีวี อุตสาหกรรมบันเทิง สร้างสรรค์คอนเทนท์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 300 เรื่อง ทั้งละคร ละครเวที ภาพยนตร์ ทำธุรกิจสื่อ หนังสือพิมพ์ต่างๆ โดยผลงานสร้างชื่อมีมากมาย เช่น มือปืน ตุ๊ ต๊ะ ต๋อม แต๋ม สุภาพบุรุษตัว ต เด็กเสเพล ซามูไรอยุธยา อั้งยี่ ลูกผู้ชายพันธุ์มังกร เป็นต้น

ทว่า ยุคเก่าฝากฝีมือความเก๋าไว้มากแค่ไหน กลับไม่มีใครจดจำตนเองได้

“ตลอด 30 ปี ผมทำหนัง ละคร เยอะมาก แต่ไม่มีใครจดจำสิ่งที่ผมทำ” นพพร เริ่มต้นบทสนา

คนวงการจอแก้วที่ผ่านยุคเฟื่องฟูในอดีต ปัจจุบันเกิดสื่อใหม่ เทคโนโลยีที่ทรงพลัง กลายเป็นดิสรัปอุตสาหกรรมทีวี ยิ่งเกิด “ทีวีดิจิทัล” ผู้ประกอบการหลายช่องไปไม่รอด ยกธงขาว แพ้ในเกมธุรกิจที่ “ขาดทุน” แย่งเม็ดเงินโฆษณา 60,000 ล้านบาท ยากขึ้นเรื่อยๆ

“ผมมองวาเส้นทางเดินของสื่อแคบลงมาก เงินโฆษณาที่เคยแย่งชิงกัน 4 ช่องเหนื่อยแล้ว นี่มีตั้ง 24 ช่อง” ( FYI ทีวีดิจิทัลประเภทธุรกิจคืนใบอนุญาตประกอบกิจการไป 9 ช่อง เหลือ 15 ช่องในขณะนี้)

ปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยน แต่พฤติกรรมผู้บริโภค “ลด” การดูรายการผ่านทีวีไปมาก ทำให้เม็ดเงินโฆษณาหดหาย ย้ายไปอยู่บนสื่อใหม่ ทั้งสื่ออินเตอร์เน็ต สื่อนอกบ้าน ฯเพิ่มขึ้น หากจะยืนหยันในธุรกิจเดิม ไม่ง่าย

การอยู่บนสังเวียนสื่อและบันเทิง ทำให้ “นพพร” มีแต้มต่อ จึงนำไปต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ “ไทยไฟท์”(THAI FIGHT) ซึ่งผนวกกีฬา “มวไทย” เข้ากับความบันเทิงกลายเป็น “สปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์” คอนเทนท์ระดับสากล

ปี 2550 เป็นจุดเริ่มต้นของ “ไทยไฟท์” ภายใต้ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ปัจจุบันเพิ่มทุนแตะ 400 ล้านบาท

“นพพร วาทิน” ฝันใหญ่  จัดทัพ “ไทยไฟท์” เขย่าโลก Soft Power

ที่ปรึกษาและพันธมิตรทางธุรกิจ "ไทยไฟท์"

นอกจาก “นพพร” รับบทเป็น “แม่ทัพ” หรือประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยไฟท์ จำกัด บริษัทยังมีนักการเมืองดัง “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” นั่งเป็นที่ปรึกษา ขณะเดียวกันยังมีคนสื่ออย่าง “ประวิทย์ มาลีนนท์” อดีตหัวเรือใหญ่ช่อง 3 และนักธุรกิจใหญ่ “ฐาปน สิริวัฒนภักดี” ผู้คุมอาณาจักรไทยเบฟเวอเรจ เป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้วย

จัดทัพธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 67

15 ปี ไทยไฟท์ ไม่ได้เป็นเพียงเวทีชกมวยไทยที่ถ่ายทอดทางทีวี เผยแพร่วัฒนธรรมการต่อสู้ของไทยสู่สายตาชาวโลกเท่านั้น เพราะโมเดลธุรกิจ มีทั้งการจัด “อีเวนท์” กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เฉลี่ย 8 แมทช์ต่อสู้ต่อสู่ ทำเงินได้หลาย “สิบล้าน” ต่อครั้ง ยังมีการจำหน่ายสินค้าทำเงินเป็นกอบเป็นกำ ทั้งเสื้อ กางเกงมวย น้ำดื่ม นักมวยในสังกัดที่เป็น “ฮีโร่” เดินสายสอนศิลปะมวยไทยทำเงินหลักล้านบาทต่อครั้ง ฯ เรียกว่าทั้งปีสร้างรายได้หลัก “หลายร้อยล้าน”

“นพพร วาทิน” ฝันใหญ่  จัดทัพ “ไทยไฟท์” เขย่าโลก Soft Power

"นักมวย" สู่ "ฮีโร่" ทำเงินและต่อยอดแบรนด์ไทยไฟท์แกร่ง

เมื่อแบรนด์ “ไทยไฟท์” มีความแข็งแกร่ง “นพพร” ต้องการสร้างสรรค์คอนเทนท์ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้อนคนดูไม่แค่ในประเทศไทย แต่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะ จีน ตะวันออกกลาง ที่มีศักยภาพ และ “ขุมทรัพย์” แห่งโอกาสอันมหาศาล

การจะไปโลก ต้องวางรากฐานธุรกิจให้แกร่งยิ่งขึ้น รวมถึง “ระดมทุน” เพื่อนำเงินไปขยับขยายธุรกิจ แม้ “นพพร” จะไม่ได้ขาดหรือมีจุดอ่อนด้าน “การเงิน” ก็ตาม แต่การเข้าตลาดจะทำให้บริษัท “ดึงดูดนักลงทุน” เอื้อให้การเจรจาพันธมิตรคล่องตัวขึ้น เพราะมี “ธรรมาภิบาล” กำกับ รายละเอียดบริษัทเปิดโชว์ให้สำรวจได้

ดังนั้น บริษัทจึงจัดทัพธุรกิจวางโครงสร้าง 4-5 เสาหลัก ประกอบด้วย 1.ธุรกิจอีเวนท์ จัดเวทีชกไทยไฟท์ไปยังพื้นที่ต่างๆทั้งในและต่างประเทศ 2.ธุรกิจเครื่องดื่มภายใต้ไทยไฟท์ เบฟเวอเรจ 3.ธุรกิจโรงแรม ปั้นแบรนด์ “ไทยไฟท์” เพื่อรับบริหารโรงแรมต่างๆ(เชน) และ 4.ธุรกิจออนไลน์ จะผลิตคอนเทนท์ ขายลิขสิทธิ์ให้กับผู้ที่สนใจรอบทิศทั่วโลก

ส่วนแผนการเข้าตลาดฯ คาดจะเห็นปี 2567 ซึ่งระหว่างทางการแต่งองค์ทรงเครื่องต้องผลักดันรายได้ให้แตะ “พันล้านบาท” เพื่อเข้าตลาดใหญ่(SET) จากปัจจุบันมีรายได้ราว 500 ล้านบาท แบ่งเป็นอีวเวนท์ 300-400 ล้านบาท และขายสินค้า(merchandise) 100 ล้านบาท

“นพพร วาทิน” ฝันใหญ่  จัดทัพ “ไทยไฟท์” เขย่าโลก Soft Power

ไทยไฟท์มีถ้วยพระราชทานฯ ทำให้เวทีชกมวยมีมนต์ขลังยิ่งขึ้น

ต่อจิ๊กซอว์ไทยไฟท์ เขย่าโลก Soft Power

เจาะลึกแผนโต “ไทยไฟท์” เริ่มจากเสาหลัก “อีเวนท์” ยังคงเดินสายต่อเนื่อง 8 ครั้งต่อปี แต่ที่เพิ่มมาคือการผนึกกับ “ไบเทค” สร้างฮอลล์เป็นเวทีหลักเพื่อชกมวยไทยราว 50 ครั้งต่อปี จะเป็นการต่อยอดสู่ธุรกิจออนไลน์ ขายคอนเทนท์ให้ทั่วโลกต่อไป

การชกมวยไทยไฟท์ จะเห็นในต่างประเทศโดยเฉพาะ “จีน” ซึ่งเตรียมผนึก Shandong สื่อใหญ่ในจีนเพื่อขยายตลาด มองประชากรเพียง 100 ล้าน ต่อยอดการทำเงินมหาศาล รวมถึงการปูทางสู่ธุรกิจออนไลน์ที่จะมีระบบ “สมาชิก” จ่ายเงินเสพคอนเทนท์มวยเหมือน Netflix ด้วย

“หากคิดค่าสมาชิกเพียง 5 หยวนต่อเดือน จากประชากร 100 ล้านคน สามารถทำเงินมหาศาลราว 750 ล้านบาท”

อีกหมุดหมายคือ “ตะวันออกกลาง” ซึ่งกำลังเตรียมเซ็นสัญญากับ “เจ้า”หรือชีก ในตลาดดังกล่าว

แผนงานข้างต้นหากแจ้งเกิดได้ ยังเป็นการผลักดัน “แม่ไม้มวยไทย” ซึ่งเป็น 1 ใน 5F (แฟชั่น การต่อสู้ อาหาร เทศกาล และภาพยนตร์)นโยบายรัฐเดินหน้าส่งเสริม Soft Power ของไทยให้ทรงพลังในเวทีโลก สร้างรายได้ ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เฟื่องฟูยิ่งขึ้นด้วย

ส่วนเสาหลักด้านเครื่องดื่ม จะเห็นการรุก “เครื่องดื่มเกลือแร่” เพราะสอดรับกับคาแร็กเตอร์แบรนด์ และรากฐานของไทยไฟท์ด้วย ขณะที่ธุรกิจ “ออนไลน์” หนึ่งในหมากรบใหญ่ เพราะบริษัทต้องการขายลิขสิทธิ์คอนเทนท์ไปยังทั่วโลก

“นพพร วาทิน” ฝันใหญ่  จัดทัพ “ไทยไฟท์” เขย่าโลก Soft Power

ไทยไฟท์บุกจีน

การทำออนไลน์ ยังเป็นหนึ่งในโจทย์การเข้าตลาดหลักทรัพยฯ เพื่อระดมทุนมาพัฒนาแอปพลิเคชั่น ซึ่งคาดการณ์ใช้เงินไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาท โดยโมเดลธุรกิจจะเป็นแบบบอกรับสมาชิก(Subscribe) ในไทยอาจตั้งราคา 99 บาทต่อเดือน ส่วนต่างประเทศ เช่น จีน อยู่ที่ 5 หยวนต่อเดือน

“คอนเทนท์ที่ผู้บริโภคยังดูคือการถ่ายทอดสดอย่างกีฬา และเป้าหมายของไทยไฟท์ ต้องการยกระดับการแข่งขันให้ได้รับความนิยมเหมือนเวทีมวย ยูเอฟซี (Ultimate Fighting Championship เวทีศิลปะการต่อสู้ใหญ่สุดของโลก) หรือเอ็นเอฟแอล เอ็นพีบี (ลีกเบสบอลสูงสุดของญี่ปุ่น)

ที่ผ่านมา ไทยไฟท์ยกทัพทีมงาน นักมวยเดินสายจัดเวทีชกในหลายประเทศ เช่น จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เวียดนาม อังกฤษ อิตาลี รัสเซีย ฯ ซึ่งแฟนๆให้การตอบรับล้นหลาม

ทุ่ม 1,000 ล้าน ผุดธีมโฮเทลต้นแบบก่อนต่อยอดเชน

นพพร กล่าวถึงเสาหลักธุรกิจโรงแรมว่า บริษัทได้ทุ่มงบราว 1,000 ล้านบาท เพื่อรับไม้ต่อและปรับปรุงโรงแรมเมอร์เคียวเดิมที่หาดละไม เกาะสมุย จากกลุ่ม “ศรีชวาลา” โดยพลิกโฉมเป็น “โรงแรม THAI FIGHT HOTEL" ธีมโฮเทล “มวยไทย” อาคาร 3 หลัง ประกอบด้วยห้องพัก 50 ห้อง 4 พูลวิลล่า ภายในห้องพักมีจุดขายด้วยการตั้งกระสอบทราย นวม มงคลสวมศีรษะ หรือ ประเจียดแขน และอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ห้องสมบูรณ์แบบประหนึ่งคุณคือยอดมวยไทย

“นพพร วาทิน” ฝันใหญ่  จัดทัพ “ไทยไฟท์” เขย่าโลก Soft Power

โรงแรมธีมมวยไทยแห่งแรกของโลก

เป้าหมายจากนี้ไป บริษัทจะขยายการรับบริหารโรงแรมเพิ่มเติม โดยมองหมุดหมายเบื้องต้นอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวหลักของไทย

อย่างไรก็ตาม จากสถาการณ์โควิด-19 ระบาด ช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบหนัก จึงมีผู้ประกอบการหลายราย เข้ามาเจรจจาเพื่อให้แบรนด์ “ไทยไฟท์” เข้าไปบริหาร แต่เกณฑ์การพิจารณาของบริษัท ไม่ต้องการโรงแรมขนาดใหญ่ที่ห้องพักจำนวนมาก ส่วนทำเลที่ตั้งต้องอยู่ในจุดยุทธศาสตรื เอื้อต่อการพักผ่อน ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว เป็นต้น

สำหรับการทุ่มทุนเปิดโรงแรมต้นแบบอย่าง THAI FIGHT HOTEL คาดการณ์คืนทุนภายใน 3-5 ปี

“นพพร วาทิน” ฝันใหญ่  จัดทัพ “ไทยไฟท์” เขย่าโลก Soft Power อนาคต ไทยไฟท์ ยังต่อยอดธุรกิจได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหาร การขยาย “ยิมมวย” ไปทั่วประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จากแผนดังกล่าว บริษัทคาดการใช้เงินลงทุนหลัก “พันล้านบาท” และหลังเข้าตลาดภายใน 3-5 ปี ต้องการผลักดันรายได้แตะระดับ 5,000 ล้านบาท

“ไทยไฟท์จะบุกตลาดเต็มที่ เราจะต่อสู้ Soft Power ด้านวัฒนธรรม เพราะของเราดีสุดในโลก แต่จะทำยังไง ห่อบรรจุภัณฑ์ใหม่ สร้างแบรนด์ ทำการตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมถนัด อย่างโรงแรมไทยไฟท์ เราใส่วัฒนธรรมมวยไทย นำอาหารท้องถิ่นมเสิร์ฟ มีอักขระ..คาถาแห่งชัยชนะ...หัวใจของนักรบ สอดคล้องกับสิ่งที่ผมต่อสู้และผ่านอะไรมากมายมาก”