AWCผนึกททท.พลิกโฉมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืนรับการฟื้นตัว

AWCผนึกททท.พลิกโฉมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืนรับการฟื้นตัว

AWCผนึกททท. พลิกโฉมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน รับภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวล่าสุดจำนวน7.3ล้านคนเฉลี่ยวันละ 51,000 คนคาดสิ้นปี10 ล้านคน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  กล่าวว่า ภาพรวมของการท่องเที่ยวอยู่ในช่วงระยะเวลาการฟื้นตัวจากที่เคยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงถึง 40ล้านคนในปี2562 หลังจากโควิดจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจนเหลือแค่4แสนคนในปี2564ที่ผ่านมาแต่ปีนี้ตัวเลขล่าสุดจนถึง26 ต.ค.นี้มีจำนวน 7.3ล้านคนเฉลี่ยวันละ 51,000 คนหากตัวเลขยังคงรักษาระดับได้แบบนี้ เดือนนี้น่าจะได้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจำนวน 7.5ล้านคน จะทำให้ตัวเลขทั้งปีในปีนี้ จะอยู่ที่10 ล้านคน


 "ททท.และAWCไม่ได้มองแค่ตัวเลขการกลับมาของจำนวนนักท่องเที่ยวแต่เป็นการมองไปในอนาคตที่อยากได้คือความยั่งยืนอย่างแท้จริงภายใต้แนวคิดการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism ) โดยประกาศให้เป็นการพลิกโฉมการท่องเที่ยวหรือ New Chapterของการท่องเที่ยวประเทศไทย เพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่เรื่องของความยั่งยืน"

 ภายใต้การดำเนินกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึงการจัดทำมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เน้นความสะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม เพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่ หรือ BCG Model

  ททท. เล็งเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว สอดคล้องกับการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ โดย ททท. มุ่งพัฒนาต่อยอดแนวคิดจากฐานความเข้มแข็งเดิมที่มีอยู่ ด้วยการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration หรือ SHA ให้สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืนมากยิ่งขึ้นพร้อมตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางในการรวมพลังและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีการดำเนินงานอย่างยั่งยืน

รวมถึงกำหนดแนวทางมาตรฐานใหม่ให้แก่สถานประกอบการได้นำไปปฎิบัติใช้ตามกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับสากลที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตในมิติด้านสิ่งแวดล้อม (การลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน การจัดการน้ำ และการจัดการของเสีย) ด้านเศรษฐกิจชุมชน 


รวมถึงด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น ภายใต้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
 
    ทั้งนี้ ททท. อยู่ระหว่างการวางกรอบการดำเนินงานยกระดับมาตรฐาน “SHA” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน โดยตั้งเป้าที่จะเชิญชวนและสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยมาร่วมรวมพลังดำเนินงานตามกรอบของการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อเป็นการวางรากฐานให้กับประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนในระดับโลกอย่างเป็นรูปธรรมและมีคุณภาพตามมาตรฐานสากลต่อไปในอนาคต

 
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า “AWC มุ่งมั่นในพันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” เพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างยั่งยืนและเชื่อมั่นว่าการรวมพลังและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะสามารถร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก 

AWC ได้ร่วมมือตอบรับนโยบายกับทาง ททท. พันธมิตรทางภาครัฐ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันและเป็นศูนย์กลางรวบรวมผู้ประกอบการทั้งหมดมาร่วมสร้างคุณค่าให้กับการท่องเที่ยวยั่งยืนของไทยไปด้วยกัน รวมทั้ง AWC ได้ร่วมวิสัยทัศน์ความยั่งยืนกับพันธมิตรภาคเอกชน สถาบันการเงินชั้นนำ และเครือโรงแรมระดับโลก อาทิ เครือแมริออท บันยันทรี โอกุระ ฮิลตัน IHG และมีเลีย ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวยั่งยืนและร่วมผลักดันเพื่อสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงภาคประชาสังคมและชุมชน เพื่อโครงการต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อความยั่งยืนในระยะยาว

     ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา AWC มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ความอย่างยั่งยืนตลอดการะบวนการดำเนินงาน และโครงการต่างๆ ของ AWC อาทิ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ได้เป็นโรงแรมแห่งแรกของโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 20121 ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านการจัดงานอย่างยั่งยืน ซึ่ง AWC และพันธมิตรจากภาคส่วนต่างๆ ที่จะร่วมผนึกกำลังสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนร่วมกันในกรอบการดำเนินงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน 3 เสาหลัก 6 มิติ หรือ 3BETTERs 

     ได้แก่สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น (BETTER PLANET) การผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการดำเนินธุรกิจตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตั้งแต่กระบวนการวางแผนและก่อสร้าง การจัดการ และการบริหารงาน ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรในการบูรณาการกรอบแนวคิดในระดับสากลเข้ามาใช้ในการพัฒนาโครงการตามมาตรฐานอาคารสีเขียว 

    ทั้งผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ ผู้รับเหมา ที่ปรึกษาโครงการ และอื่นๆ ต่อเนื่องถึงพันธมิตรในด้านการจัดการและบริหารการดำเนินงานที่จะร่วมรวมพลัง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (BETTER PEOPLE) การพัฒนาบุคคลากรทั้งภายในและภายนอกองค์กร 

     การยกระดับการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมและชุมชน ผ่านความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นในการเสริมสร้างความรู้และพัฒนาอาชีพ เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนผ่านโครงการ “เดอะ GALLERY” ที่มุ่งจัดจำหน่ายสินค้าฝีมือคนในชุมชน อีกทั้งยังเป็นอีกช่องทางที่ช่วยชุมชนเพิ่มมูลค่างานศิลปะ เพื่อเป็นช่องทางการขาย ผ่านโครงการต่างๆ ของ AWC ทำการตลาดถึงลูกค้าจากทั่วโลกเศรษฐกิจที่ดีขึ้น (BETTER PROSPERITY) การผลักดันให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและกระตุ้นความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในวงกว้าง

     โดยวางแผนกลยุทธ์องค์กรให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผ่านการลงทุนพัฒนาบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลายของบริษัทฯ สร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชนและธุรกิจท้องถิ่น สร้างคุณค่าทวีคูณและธุรกิจองค์รวม (Ecosystem) ที่แข็งแกร่ง เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก อีกทั้งส่งเสริมให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด  ทั้งนี้เนื่องจาก บริษัท ตระหนักถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวยั่งยืน และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมผนึกกำลังกับ ททท. และพันธมิตรตลอดห่วงโซ่คุณค่าเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืน ยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก และ "สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า" ให้กับประเทศไทย 

  "AWC ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนและเครือโรงแรมระดับโลกพร้อมตั้งเป้านำกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการในเครือทั้งหมดผ่านการรับรองมาตรฐาน “SHA” ด้านส่งเสริมท่องเที่ยวยั่งยืนของ ททท. รวมไปถึงเป้าหมายผลักดันความเป็นกลางทางคาร์บอน และไม่มีขยะฝังกลบจากการดำเนินงาน ภายในปี 2573"   นางวัลลภา กล่าว

 
    ปัจจุบัน พอร์ตโฟลิโอของ AWC ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ 19 แห่ง  กลุ่มศูนย์การค้า 9 แห่ง กลุ่มอาคารสำนักงาน 4 แห่ง และกลุ่มธุรกิจค้าส่ง 2 แห่ง รวม 34 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการใหม่อีก 15 โครงการ รวมถึงโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล โรงแรม อินน์ไซด์ กรุงเทพ สุขุมวิท ซึ่งถือเป็นโครงการที่ก่อสร้างโดยคำนึงถึงมาตรฐานอาคารสีเขียว และได้รับการรับรองมาตรฐาน EDGE ซึ่งเตรียมเปิดให้บริการภายในต้นปี 2566  

 โดยAWC ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการภายใต้แผนกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการรับรองอาคารสีเขียวที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรจากพื้นฐาน อาทิ โครงการอควาทีค เดอะบีชฟรอนท์ พัทยา ซึ่งตั้งเป้าให้ได้รับการรับรอง LEED ภายในปี 2569 และโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ส่วนต่อขยายที่ตั้งเป้าให้ได้รับการรับรอง LEED & WELL ภายในปี 2572