"โสภณพนิช" รุกขยายพอร์ตโรงแรม ยึดย่านสยามปั้น "ชาเทรียม แกรนด์" เจาะไฮเอนด์

"โสภณพนิช" รุกขยายพอร์ตโรงแรม  ยึดย่านสยามปั้น "ชาเทรียม แกรนด์" เจาะไฮเอนด์

ตระกูล “โสภณพนิช” เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะบิ๊กเนมแห่งวงการการเงินการธนาคาร เจ้าของอาณาจักร “ธนาคารกรุงเทพ” ธนาคารที่มีสินทรัพย์มากอันดับ 1 ของประเทศไทย นอกจากนี้ตระกูลโสภณพนิชยังได้ขยายพื้นที่การลงทุนมายังสนาม “อสังหาริมทรัพย์” ด้วย

สาวิตรี รมยะรูป กรรมการผู้จัดการ ชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้ ซึ่งเป็นบุตรคนที่ 2 ของ ชาตรี โสภณพนิช เล่าว่า “ชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้” (Chatrium Hospitality) เป็นกลุ่มโรงแรมและเรสซิเดนส์สัญชาติไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 ภายใต้การพัฒนาของ “ซิตี้เรียลตี้” (City Realty) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือของตระกูลโสภณพนิช เริ่มต้นจากโรงแรมแห่งแรกคือ “เอ็มโพเรียม สวีท” ก่อนจะเปิดตัวแบรนด์ “ชาเทรียม” โรงแรมและเรสซิเดนส์ระดับหรู 5 ดาว ด้วยการปักหมุดแบรนด์นี้แห่งแรกนอกบ้านเกิดที่ประเทศเมียนมา “ชาเทรียม รอยัล เลค ย่างกุ้ง” ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2541 แต่ได้รีแบรนด์จากชื่ออื่นมาสวมแบรนด์ชาเทรียมแทนในปี 2551

ตามด้วยการเปิดตัวโครงการต่างๆ อาทิ “ชาเทรียม สาทร กรุงเทพฯ” และ “ชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ” หนึ่งในแลนด์มาร์กริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดดเด่นด้วยตึกแฝดสามเรียงกัน ดีไซน์สะดุดตา รวมถึงแบรนด์โรงแรมและเรสซิเดนส์ระดับกลาง 4 ดาว “มายเทรียณ์” (Maitria) ซึ่งพ้องเสียงกับภาษาสันสกฤต ความหมายดีแปลว่า ไมตรี

ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการใหม่ “ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ” (Chatrium Grand Bangkok) ใช้เงินลงทุน 5,500 ล้านบาท (ไม่รวมมูลค่าที่ดิน) บนทำเลทองใจกลางย่านสยาม ใกล้แหล่งชอปปิงและสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของกรุงเทพฯ ถือเป็นการพัฒนาอสังหาฯครั้งใหญ่ของเครือ

ทั้งยังเป็นการเปิดตัวแบรนด์โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวพลัส “ชาเทรียม แกรนด์” แห่งแรกของแบรนด์นี้ ด้วยจำนวนห้องพักกว่า 582 ห้องภายในตึกแฝด ประกอบด้วยห้องพักกว้างหลายรูปแบบ โดยห้องดีลักซ์ขนาดตั้งแต่ 47-51 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 7,000 บาทต่อคืน ส่วนราคาห้องแพงที่สุดเป็นแบบเพนต์เฮาส์ ขนาด 321 ตารางเมตร เริ่มต้น 80,000 บาทต่อคืน กำหนดเปิดให้บริการวันที่ 28 พ.ย.นี้

กลยุทธ์ของโรงแรมใหม่แห่งนี้ เน้นเจาะลูกค้า “กลุ่มไฮเอนด์” ที่มีดีมานด์การท่องเที่ยวต่างประเทศสูงมากในยุคหลังโควิด ทั้งจากตลาดตะวันออกกลาง อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงตลาดดั้งเดิมอย่างยุโรปและสหรัฐ ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับตลาดคนไทย ด้วยการนำเสนอบริการด้านอาหารอันโดดเด่นเป็นตัวชูโรงสร้างชื่อเสียง ค่อยๆ สั่งสมลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายมีอัตราการเข้าพักในอีก 1 ปีข้างหน้า หรือในเดือน ธ.ค.2566 ที่ระดับ 75%

“ทั้งนี้ เมื่อเปิดตัวโครงการใหม่ ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ ทำให้ปัจจุบัน ชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้ มีโรงแรมและเรสซิเดนส์ในเครือรวม 12 แห่ง ดำเนินงานใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย 10 แห่ง ญี่ปุ่น 1 แห่ง และเมียนมา 1 แห่ง”

และเมื่อจำแนกตามแบรนด์ เป็นแบรนด์ ชาเทรียม แกรนด์ 1 แห่ง แบรนด์ชาเทรียม 6 แห่ง และแบรนด์มายเทรียณ์ 5 แห่ง ทั้งนี้เป็นโรงแรมและเรสซิเดนส์ที่ชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้ เป็นเจ้าของเอง 10 แห่ง ส่วนรับบริหารมี 2 แห่ง คือโรงแรมมายเทรียณ์ โมด สุขุมวิท 15 เปิดเมื่อปี 2562 และโรงแรมชาเทรียม นิเซโกะ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเมื่อปี 2561 ทั้งสองแห่งต่างเปิดให้บริการก่อนเกิดวิกฤติ-19 เพียงไม่กี่ปี

“จากกลยุทธ์การลงทุนของชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้ ที่มุ่งสร้างสมดุลระหว่างตลาดโรงแรมกับเรสซิเดนส์ ทำให้ผลการดำเนินงานในช่วงโควิด-19 ระบาดตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยติดลบ เพราะมีกระแสเงินสดจากตลาดเรสซิเดนส์เป็นเหมือนเบาะที่เข้ามารองรับ บรรเทาผลกระทบ ขณะที่อัตราการเข้าพักของทั้งเครือปัจจุบันอยู่ที่ 70% ส่วนก่อนโควิด-19 ระบาดอยู่ที่ระดับ 80-85%”

สาวิตรี เล่าเพิ่มเติมว่า สำหรับก้าวต่อไปของ ชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้ มีแผนขยายโรงแรมเพิ่มอีก 5 แห่งในช่วง 3 ปีนี้ มุ่งขยายแบรนด์ “มายเทรียณ์” เพราะมีศักยภาพในการเติบโตเร็ว โดยเป็นเจ้าของเอง 1 แห่งคือที่ภูเก็ต ส่วนอีก 4 แห่งเป็นรับบริหาร เช่น ในกรุงเทพฯ เวียดนาม และอินโดนีเซีย

ถือเป็นการขยายตัวเชิงจำนวนโรงแรมที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต ชูจุดขายเรื่องการบริหารงานแบบมืออาชีพ มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมการบริหารแบบยุกยิก

เพราะเข้าใจดีถึงหัวอกความเป็นเจ้าของโรงแรม มุ่งสร้างกำไรแก่นักลงทุน รวมถึงสร้างสรรค์คุณค่าเชิงไลฟ์สไตล์แก่ผู้คน!

\"โสภณพนิช\" รุกขยายพอร์ตโรงแรม  ยึดย่านสยามปั้น \"ชาเทรียม แกรนด์\" เจาะไฮเอนด์ \"โสภณพนิช\" รุกขยายพอร์ตโรงแรม  ยึดย่านสยามปั้น \"ชาเทรียม แกรนด์\" เจาะไฮเอนด์ \"โสภณพนิช\" รุกขยายพอร์ตโรงแรม  ยึดย่านสยามปั้น \"ชาเทรียม แกรนด์\" เจาะไฮเอนด์