วธ. ดันเป้ามูลค่า “ซอฟต์พาวเวอร์” โตเท่าตัว สู่ 15% ของจีดีพีไทยในอีก 5 ปี

วธ. ดันเป้ามูลค่า “ซอฟต์พาวเวอร์” โตเท่าตัว สู่ 15% ของจีดีพีไทยในอีก 5 ปี

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ตั้งเป้าหมายดันมูลค่า “ซอฟต์พาวเวอร์” โตเกือบเท่าตัว จากสัดส่วน 9% ของจีดีพีไทยเมื่อปี 62 ก่อนวิกฤติโควิด เพิ่มเป็นสัดส่วน 15% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ด้าน “บอร์ดซอฟต์พาวเวอร์” รายงานผลประชุมแก่ ครม. เผยนายกฯ “ประยุทธ์” ต้องการเห็นผลเร็วในระยะสั้น

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า วธ.ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าของซอฟต์พาวเวอร์ประเทศไทย ซึ่งครอบคลุม 5F ได้แก่ Food อาหาร, Film ภาพยนตร์และซีรีส์, Fashion แฟชั่น, Fighting ศิลปะการต่อสู้มวยไทย และ Festival เทศกาล รวมถึงสินค้าและบริการด้านวัฒนธรรมที่คาบเกี่ยวกับภาคท่องเที่ยว ให้เติบโตจากมูลค่าปัจจุบัน คิดเป็นสัดส่วน 9.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด เพิ่มเป็นเกือบเท่าตัวอยู่ที่ 15% ของจีดีพีในอีก 5 ปีนับจากนี้

“ในช่วง 5 ปีจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมจะผลักดันการเติบโตของมูลค่าซอฟต์พาวเวอร์ในหมวด Film สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์ของประเทศไทยซึ่งกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น”

หลังจาก วธ.มีนโยบายปรับบทบาทเป็นกระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ มุ่งเปลี่ยนฉากทัศน์วัฒนธรรม สู่ก้าวที่มั่นคงและยั่งยืน ใช้ทุนวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์ในท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิต เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคม

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศด้วยซอฟต์เพาเวอร์ หรือ บอร์ดซอฟต์พาวเวอร์ มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานกรรมการ ได้ประชุมร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับแนวทางขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์

“นายสุพัฒนพงษ์ต้องการให้มีแผนควิกวิน (Quick Win) เช่น การจัดตั้งกองทุนส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์จากองค์กรเฉพาะที่แยกตัวออกมาจากภาครัฐ เหมือนโมเดลของประเทศอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น”

และเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้นำเสนอผลการประชุมดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์อย่างเป็นรูปธรรม และต้องการให้เห็นผลอย่างรวดเร็วในระยะสั้น โดยจะมีเรื่องของการอัดฉีดงบประมาณมากระตุ้น การลดข้อจำกัดทางข้อกฎหมายเพื่อส่งเสริมภาคเอกชนที่มีศักยภาพ สามารถลงทุนและเชิญชวนผู้สนใจการลงทุนด้านซอฟต์พาวเวอร์ในแต่ละสาขามาลงทุน

นายอิทธิพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด วธ.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการพัฒนาสินค้าด้านท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหอการค้าไทย เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ตั้งเป้าสร้างการเติบโตแก่มูลค่าการท่องเที่ยวชุมชน จากมูลค่า 1,000 ล้านบาทเมื่อปี 2564 เพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาทในปี 2566

“วธ.ร่วมกับ ททท.และหอการค้าไทย ยกระดับรายได้ของการท่องเที่ยวชุมชน กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าชุมชนมากขึ้น เมื่อเที่ยวแล้วก็เกิดการเจรจาธุรกิจกันต่อ สามารถส่งออกสินค้าชุมชนผ่านช่องทางออนไลน์”

สำหรับงบประมาณของ วธ.ในการสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน แม้จะมีข้อจำกัดของงบประมาณ อยู่ที่ 100 ล้านบาทต่อปี ลงทุนน้อย แต่ได้มาก เพราะเป็นการผลักดันสินค้าท่องเที่ยวชุมชนเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ประกอบกับประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานการเดินทางที่ดี เอื้อต่อการยกระดับเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ