‘ดีเซเว่น’ เร่งเครื่องยอดขายโต 200 ล้าน ดึง ‘มาย-อาโป’ ขยายฐาน “คอมบูชะ”

‘ดีเซเว่น’ เร่งเครื่องยอดขายโต 200 ล้าน  ดึง ‘มาย-อาโป’ ขยายฐาน “คอมบูชะ”

ไทยแอทลาสโกลบอล ฟูด เติมพอร์ตเครื่องดื่ม D7 เสิร์ฟคอมบูชะเอาใจคนรักสุขภาพ พร้อมดึง "มาย-อาโป" พรีเซ็นเตอร์ใหม่ เกาะกระแสซีรีส์วาย หวังขยายฐานลูกค้า ต่อยอดเป้าหมายยอดขายรวมปี 65แตะ 200 ล้านบาท

ตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทยมีมูลค่ามหาศาล โดยข้อมูลจากยักษ์ใหญ่ของวงการระบุภาพรวมปี 2564 อยู่ที่ 24,000 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 7.92 แสนล้านบาท (คิดจากอัตราแลกเปลี่ยนปี 2564 ประมาณ 33 บาทต่อดอลลาร์) ในส่วนนี้แยกย่อยเฉพาะหมวดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์สัดส่วนราว 49% หรือเกือบกึ่งหนึ่งของตลาด โดยที่เหลือเป็นหมวดเหล้า เบียร์

สมรภูมิเครื่องดื่มเป็นเกมที่ “รายใหญ่” แข่งกันเดือด แต่ตลาดยังมีพื้นที่ว่างให้ “รายย่อย” เข้ามาแบ่งเค้กบ้าง

“ไทยแอทกลาสโกลบอล ฟูด” ถือเป็นผู้เล่นที่แจ้งเกิดไม่นาน เพราะบริษัทปลุกปั้นเมื่อปี 2549 หรือวัยกระเตาะ 16 ปีเท่านั้น โดยสินค้าเรือธงคือหมวด “กาแฟ” ทั้งกาแฟทรีอินวัน กาแฟพร้อมดื่ม(RTD) เป็นต้น

แต่กลางปี 2565 บริษัทมีการขยายพอร์ตโฟลิโอสู่ชาหมัก หรือ “คอมบูชะ” ภายใต้แบรนด์ D7(ดีเซเว่น) เพื่อจับกลุ่มคนรักสุขภาพ คนรุ่นใหม่ และมีอยู่ในตลาด “พรีเมียม” พร้อมประเดิมสร้างการรับรู้แบรนด์และสินค้า(Awareness) ด้วยการดึง “โบว์-เมลดา” เป็นพรีเซ็นเตอร์

ล่าสุด เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการทำตลาดในปี 2565 บริษัทจึงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มใหม่ๆมากขึ้น จึงทุ่มงบ 100 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ พร้อมดึงนักแสดงสายวายชื่อดังอย่าง “มาย-อาโป” นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ ตอกย้ำเครื่องดื่มสุขภาพเจาะกลุ่มเป้าหมาย

‘ดีเซเว่น’ เร่งเครื่องยอดขายโต 200 ล้าน  ดึง ‘มาย-อาโป’ ขยายฐาน “คอมบูชะ” จักรกฤช สุขวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยแอทลาสโกลบอล ฟูด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟพร้อมดื่มสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ D7 (ดีเซเว่น) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ D7 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแตกไลน์สินค้าใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ล่าสุด ได้เปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ ทำตลาดโค้งสุดท้ายปี ภายใต้ผลิตภัณฑ์ “D7 คอมบูชะ” ผลักดันให้เป็นเครื่องดื่มของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยจุดเด่นของสินค้าคือการพัฒนาสูตร และการคัดสรรจากใบชาอู่หลงที่มีกลิ่นหอมเฉพาะ หมักด้วยกรรมวิธีที่ได้มาตรฐาน นานถึง 30 วัน ให้ได้รสชาติดี ดื่มง่าย พร้อมตอบโจทย์ด้านสุขภาพ ที่สำคัญยังมีนวัตกรรมที่ช่วยให้การจัดเก็บได้สินค้านานถึง 1 ปี โดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น

อีกจุดขายของแบรนด์คือ “ราคาสินค้า” โดยจำหน่ายกระป๋องละ 30 บาท เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มคอมบูชะ “นำเข้า” ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 80 บาทขึ้นไป

อีกภารกิจสำคัญของบริษัทคือการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น จึงมีการดึง 2 นักแสดงสายวายชื่อดังอย่าง “มาย-อาโป” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อรับกระแสความหลากหลาย(Diversity) ในสังคม ความเท่าเทียมกันของคนรุ่นใหม่ ต่อยอดจากก่อนหน้านี้ ใช้นักแสดงชั้นนำ “โบว์ เมลดา” เจาะกลุ่มผู้หญิงยุคใหม่ เน้นตลาดไฮเอนด์ จนได้การตอบรับที่ดีไปแล้ว

“คาดหวังพรีเซ็นเตอร์ใหม่ มาย-อาโป จะขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และผลักดันสินค้าให้ผงาดในตลาดเครื่องดื่มสุขภาพของไทยได้”

พร้อมกันนี้ บริษัททุ่มงบราว 100 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดครบวงจร ทั้งโฆษณาสื่อสารผ่านสื่อออฟไลน์และออนไลน์ จัดแคมเปญ “D7 รวยแหลกแจกทะลุล้าน” ลุ้นรางวัลมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 6 พฤศจิกายน 2565

“การทำตลาดช่วงไตรมาส 4 ในเชิงรุก คาดว่าจะกระตุ้นยอดขายรวมบริษัทให้อยู่ที่ 200 ล้านบาท”