‘สันติ ภิรมย์ภักดี’ หวนคืนแม่ทัพ ขับเคลื่อนอาณาจักร ‘บุญรอด-สิงห์ เอสเตท’

แม้ตระกูล “ภิรมย์ภักดี” เพิ่งสูญเสียทายาทรุ่น 3 และ “ซีอีโอ” ผู้ทำหน้าที่นำทัพธุรกิจเครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ อย่าง "จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี” และสร้างความเสียใจให้กับหลากหลายวงการที่ทราบข่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการกีฬาคนพิการ เนื่องจากเป็นผู้วางรากฐานให้กับนักกีฬาพาราลิมปิคของไทยมาโดยตลอด

ทว่า อีกด้านเมื่อองค์กรขาดแม่ทัพ ช้าหรือเร็ว ย่อมต้องมีผู้บริหารคนใหม่เข้ามาสืบสานภารกิจ ขับเคลื่อนองค์กร เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

โดย 2 เสาหลักสำคัญอย่าง “บุญรอดบริวเวอรี่” ที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสู่ตลาด และ “สิงห์ เอสเตท” รับบทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน โรงแรม และรีสอทร์ทต่างๆทั้งในและต่างประเทศ กำลังจะเห็น “สันติ ภิรมย์ภักดี” หวนคืนเข้ามากุมบังเหียนอีกครั้ง

สำหรับ “สันติ” ถือเป็นหนึ่งในทายาทรุ่น 3 ของตระกูล “ภิรมย์ภักดี” และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอาณาจักรบุญรอดบริวเวอรี่ให้เติบโตก้าวสู่ปีที่ 89 อย่างแข็งแกร่ง ตลอดเวลาของการทำงานได้ “ลงพื้นที่” ดูแลธุรกิจอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเครื่องดื่ม การพัฒนาโครงการสิงห์ปาร์ค เชียงราย ฯ ซึ่งภาพเหล่านั้นบุคลากรภายในจะเห็นจนเคยชิน

นอกจากนี้ “สันติ” นำทัพธุรกิจฝ่า “วิกฤติ” มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมรสุมเศรษฐกิจ พาธุรกิจเครื่องดื่มเบียร์เติบโต และเผชิญช่วงแข่งขันรุนแรงจนถูกเขย่า “บัลลังก์” ผู้นำไปชั่วคราว ทว่า เมื่อตั้งหลักได้ และการฮึดสู้สไตล์ของหังสิงห์ คิดอย่างสิงห์ จึงสร้างสรรค์สินค้าใหม่ จนทำให้ “ทวงชัยชนะ” ในตลาดเบียร์อีกครั้ง และสร้างการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่จวบจนปัจจุบัน

อาณาจักรบุญรอดบริวเวอรี่ ไม่ได้มีแค่เครื่องดื่ม เพราะยังมีเสาหลักอื่นๆ ทั้งบรรจุภัณฑ์แก้ว ธุรกิจอาหาร ตลอดจนอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งทุกธุรกิจเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการเสริมสร้างอาณาจักรให้เติบโตมั่งคั่ง เพื่อส่งต่อจากรุ่นสูรุ่นต่อไป

ปัจจุบันองค์กร 89 ปีอย่าง “บุญรอด” มีทายาทรุ่น 3-4 ทำงานร่วมกันในหลากหลายหน้าที่ และก่อนหน้านี้ “สันติ” คุมทัพบุญรอดอยู่แล้ว แต่ช่วงปี 2563 องค์กรมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ซึ่ง “สันติ” ขึ้นไปดูแลภาพใหญ่ในฐานะ “ประธานกรรมการบริหาร”