ไม่ไปต่อ! บินตรง “เบตง” เฟส 3 “นกแอร์” รอตลาดพร้อมจริง ค่อยรีเทิร์น

นายธีรพล โชติชนาภิบาล ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า จากสถานการณ์ล่าสุด สายการบินนกแอร์มีแนวโน้มจะไม่ต่อโครงการ “บินตรง เบตง เฟส 3” หลังจากนกแอร์ผนึกความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรบริษัททัวร์ ให้บริการเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง มาแล้ว 2 เฟส โดยเฟส 1 ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.-ก.ค.ที่ผ่านมา และเฟสที่ 2 ตั้งแต่เดือน 31 ก.ค.-28 ต.ค.นี้ ด้วยเครื่องบิน Q400 Next Gen ขนาด 86 ที่นั่ง ความถี่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

“ณ วันนี้ ดูเหมือนนกแอร์จะไม่ต่อโครงการ บินตรง เบตง อีกระยะ เป็นเฟสที่ 3 เนื่องจากต้องนำเครื่องบินไปทำการบินเส้นทางอื่นที่มีกระแสการเดินทางแข็งแรงกว่าในช่วงตารางบินฤดูหนาว เช่น เส้นทาง กรุงเทพฯ - แม่ฮ่องสอน และ กรุงเทพฯ – แม่สอด”

ประกอบกับช่วงไฮซีซันนี้ นักท่องเที่ยวไทยเริ่มสนใจไปเที่ยวต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ จึงต้องรอให้นักท่องเที่ยวไทยหายตื่นเต้นกับการเปิดประเทศของจุดหมายเหล่านี้ก่อน แล้วค่อยพิจารณากลับมาทำการบินเส้นทางสู่เบตงอีกรอบ

 

++ ยันประเดิมบินตรง “เบตง” ไม่เสียเปล่า

นายธีรพล กล่าวย้ำว่า “ยืนยันว่าที่นกแอร์ลงทุนเปิดบินตรงเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง ไปนั้นไม่เสียเปล่า แต่ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม รอให้นักท่องเที่ยวไทยหายตื่นเต้นกับตลาดเที่ยวต่างประเทศก่อน หลังจากอัดอั้น ไม่ได้เที่ยวกันมานานหลังเกิดวิกฤติโควิด-19 จากนั้นค่อยมาพิจารณาทำการบินตรงสู่เบตงอีกรอบ”

ส่วนกลุ่มพันธมิตรบริษัททัวร์ที่จับมือกับนกแอร์ ขายแพ็กเกจทัวร์เบตงมา 2 เฟส เข้าใจถึงสถานการณ์ตลาดขณะนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้บริษัททัวร์ขายแพ็กเกจทัวร์ต่างประเทศไม่ได้ จึงต้องปรับตัวมาขายแพ็กเกจทัวร์เบตงซึ่งเป็น Unique Product หรือเส้นทางท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ คนไทยยังไม่ค่อยได้มาเที่ยว ทำให้เฟสแรกของโครงการนี้ได้รับผลตอบรับดี อยากมาลองเที่ยว เพราะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ส่วนเฟสที่ 2 มีกระแสการเดินทางลดน้อยลง แต่พอตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว บริษัททัวร์ก็สามารถกลับไปขายแพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศได้อีกครั้ง

 

++ ปากต่อปาก “เบตงเมืองน่าเที่ยว”

นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง กล่าวว่า ในช่วงรอการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเบตง ซึ่งเคยครองสัดส่วน 70-80% ส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซียและสิงคโปร์นั้น ได้มีการเปิดให้บริการสนามบินเบตงเชิงพาณิชย์ โดยนกแอร์ผนึกความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรบริษัททัวร์ จัดทำโครงการ #เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์ (บินตรง เบตง เฟส 1) เริ่มเมื่อวันที่ 29 เม.ย.-ก.ค. 2565 ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนค่าใช้จ่ายเฉพาะเฟส 1 อัตรา 1,000 บาทต่อคนต่อเที่ยว มีส่วนทำให้สัดส่วนนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 30-40% ของนักท่องเที่ยวเยือนเบตงทั้งหมด ประกอบกับยังอยู่ในช่วงตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศไม่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 จึงสนใจมาเที่ยวเบตงกันมากขึ้น มีการพูดแบบ “ปากต่อปาก” ว่าเป็น “เบตงเป็นเมืองน่าเที่ยว”

 

++ ชี้ข้อจำกัด “ราคาตั๋วบิน” เบตง พอๆ กับเที่ยวต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการเดินทางมาเที่ยวเบตงด้วยเครื่องบินยังมี “ข้อจำกัด” ด้านราคาตั๋วเครื่องบิน ราคาอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาทต่อเที่ยว ทำให้นักเที่ยวไทยนำไปเปรียบเทียบกับราคาตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศในช่วงนี้ เช่น เส้นทาง กรุงเทพฯ – ปีนัง (มาเลเซีย) 3,000 บาทต่อเที่ยว ส่วนเส้นทางในประเทศ หากต้องการมาเที่ยวเบตง สามารถใช้บริการเส้นทาง กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ ราคาประมาณ 1000 บาทต่อเที่ยว แล้วเดินทางด้วยรถยนต์จากหาดใหญ่สู่เบตง ทำให้ผู้ประกอบการทัวร์เริ่มโปรโมทขายเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมหาดใหญ่กับเบตงมากขึ้น

“หากสามารถลดราคาตั๋วเครื่องบินเหลือ 3,000-4,000 บาทต่อเที่ยว จะทำให้สนามบินเบตงไม่กลับมาร้าง เพราะแม้แต่เส้นทาง กรุงเทพฯ - แม่ฮ่องสอน ของนกแอร์เอง ราคายังอยู่ที่ประมาณ 3,500 บาทต่อเที่ยว ถือว่าถูกกว่าเบตง”

 

++ จี้เร่งขยาย “รันเวย์” รับเครื่องบินไซส์ใหญ่

สำหรับข้อเสนอที่อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือการเร่งขยายทางวิ่ง (รันเวย์) เพื่อเพิ่มโอกาสแก่เมืองเบตง ให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้น เช่น แอร์บัส A320 เพื่อสร้างกลไกราคาตั๋วเครื่องบินจากซัพพลายที่นั่งโดยสารที่เพิ่มขึ้น รองรับนักท่องเที่ยวชนชั้นกลางได้มากขึ้น

“การแจ้งเกิดสนามบินให้ได้นั้น ถือเป็นโจทย์สำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ให้กล้าเข้ามาลงทุนเปิดกิจการรองรับนักท่องเที่ยว เช่น คาเฟ่ และโรงแรมที่พักต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีร้านอาหารและที่พักไม่เพียงพอ เห็นได้จากช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์มาใช้บริการเต็มตลอด”

 

++ ชูศักยภาพเบตง ดึงบินตรงจาก จีน-ฮ่องกง-ไต้หวัน-มาเลย์

นายนรินทร์ เรืองวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง กล่าวเสริมว่า สำหรับการลงทุนขยายรันเวย์สนามบินเบตงเพิ่มเป็น 2,500 เมตร จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,800 เมตร ต้องใช้เงินลงทุนอีก 1,800 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 7 ปี อาจต้องรอรัฐบาลชุดใหม่จากการเลือกตั้งมาเคาะ

ทั้งนี้ มองว่าภาคการท่องเที่ยวของเบตง จริงๆ ไปได้ไกลกว่านี้ สามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางด้วยเครื่องบินเข้ามาได้ ทั้งบินตรงจากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และมาเลเซีย เข้าสู่เบตง รวมถึงการดึงนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพจากตลาดอื่นๆ เช่น นักท่องเที่ยวตะวันตกและตะวันออกกลาง ซึ่งต้องอาศัยการประชาสัมพันธ์มากกว่านี้

 

++ โอดเสียดายโอกาสยกระดับเมืองเบตง

“เราเสียดายโอกาส อยากให้ต่อยอดการใช้ประโยชน์จากสนามบินเบตงไปให้สุดทางกว่านี้ ไม่เช่นนั้นเมืองเบตงต้องกลับมารอลูกค้านักท่องเที่ยวจากหาดใหญ่อีก เสียโอกาสในการยกระดับเมือง หลังจากก่อนหน้านี้มีการลงทุนก่อสร้างสกายวอล์คอัยเยอร์เวงสำหรับชมทะเลหมอก ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเบตง และทางสายการบินนกแอร์เองก็ได้ประเดิมทำการบินเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา”

 

ด้านภาพรวมตลาดโรงแรมที่พักใน อ.เบตง ปัจจุบันมีโรงแรมถูกกฎหมายอยู่ในระบบจำนวน 2,000 กว่าห้องพัก และโรงแรมนอกระบบอีก 2,000 ห้องพัก โดยโรงแรมหลักๆ ที่ตลาดกรุ๊ปทัวร์เข้าพักได้อยู่ที่ 20% ของห้องพักในระบบ

“ตั้งแต่เปิดประเทศเต็มรูปแบบเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เบตงมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 70% โดยในช่วงวันธรรมดาได้ลูกค้าชาวไทย ส่วนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ลูกค้าชาวมาเลเซีย” นายนรินทร์กล่าว