‘บีทีเอส-เกาหลีใต้’ เส้นทาง ‘โมกุโมกุ' เสริมแกร่ง 'เซ็ปเป้' สู่แบรนด์โลก

‘บีทีเอส-เกาหลีใต้’ เส้นทาง ‘โมกุโมกุ' เสริมแกร่ง 'เซ็ปเป้' สู่แบรนด์โลก

‘เซ็ปเป้’ มีวิสัยทัศน์ระยะยาวในการสร้างแบรนด์ไทยสู่แบรนด์โลก(Global Brand) และในปี 2569 ต้องการเติบโต 3 เท่าตัว มียอดขายแตะ 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตลาดต่างประเทศกลายเป็นหมุดหมายสำคัญในการสานเป้าดังกล่าว เพราะลำพังกำลังซื้อ ฐานลูกค้าในไทย 60 ล้านคน ไม่เพียงพอแน่นอน ทำให้การกรุยโกอินเตอรื เป็นสิ่งที่บริษัททำมายาวนานและต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเสิร์ฟสินค้าเครื่องดื่มให้ชาวโลกกว่า 90 ประเทศ และสร้างยอดขายคิดเป็นสัดส่วน 78% ในไตรมาสที่ผ่านมา

ตลาดสำคัญมีมาก แต่ 3-4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และฝรั่งเศสเป็น “ดาวเด่น” ที่เติบโตอย่างมีนัยยะ เป็นโมเดลในการขยายสู่ประเทศอื่นทั่วโลกด้วย ขณะที่สินค้าเรือธงคือน้ำผลไม้ “โมกุ โมกุ” เป็นจิ๊กซอว์สำคัญสานภารกิจแบรนด์โลกให้ “เซ็ปเป้”

ชินวิทย์ เลิศบรรณพงษ์ นักลงทุนสัมพันธ์ และอเนก ลาภสุขสถิต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสเต็ปการลุยตลาดโลก ประเดิมตลาดเกาหลีใต้ ซึ่งน้ำผลไม้ “โมกุ โมกุ” ประสบความสำเร็จอย่างดีและเป็น “เบอร์ 1” สินค้าขายดีสุดทุกช่องทาง โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อ อนาคตบริษัทจะเสริมแกร่งเจาะร้านค้าทั่วไป( TT) และกลุ่มโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร และจัดเลี้ยงหรือ HoReCa มากขึ้น เพราะมองศักยภาพทางการตลาดมีสูง

เมื่อสินค้าแจ้งเกิดในตลาดอย่างงดงามมาหลายปี การสร้างแบรนด์ให้ครองใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เป็นศาสตร์สำคัญสร้างการเติบโตให้แบรนด์ในระยะยาว จึงเห็นการรุกโลกเมตาเวิร์ตที่ใหญ่สุดในเอเชียอย่าง “ZEPETO” ที่มีผู้ใช้งานกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก แต่การเลือกแพลตฟอร์มดังกล่าว “โมกุ โมกุ” ต้องการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งเจนเนอเรชั่นวาย และซี(Z)

นอกจากนี้ ยังใช้กลยุทธ์ความร่วมมือ(Collaboration : X) กับแบรนด์ไลฟ์สไตล์อย่าง Graver of Anaheim สร้างสรรค์ไอเทมพิเศษ เพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ

‘บีทีเอส-เกาหลีใต้’ เส้นทาง ‘โมกุโมกุ' เสริมแกร่ง 'เซ็ปเป้' สู่แบรนด์โลก “เราต้องการสร้างอะไรที่ล้ำกว่าการเป็นแบรนด์เครื่องดื่ม แต่ต้องการมุ่งเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์มากขึ้น”

ทว่า ไฮไลท์เด็ดคือการร่วมมือกับไอดอลระดับโลกอย่างวง “บีทีเอส”(BTS) ซึ่งในการทำรายการหนุ่มๆบอยแบนด์มีการ “ถือเครื่องดื่มโมกุ โมกุ” ถือเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญในการพึ่งพลังไอดอลเพื่อผลักดันแบรนด์ให้ก้าวสู่ระดับโลกได้มากขึ้น เพราะ “บีทีเอส” ทรงอิทธิพลมาก ไม่แค่ตลาดเอเชีย แต่ยังโด่งดังทั่วโลก ผู้ติดตามมหาศาล ดังนั้น การที่ถือสินค้าแล้วบริโภคให้เห็น จึงเป็นแรงส่งสร้างแบรนด์อย่างดี

“การไทอินโมกุ โมกุ กับบีทีเอส ไอดอลวงท็อปของเกาหลีใต้ และเป็นอินฟลูเอนเซอร์ของโลก เราไม่ได้ใช้งบประมาณ แต่ไม่มาก เพราะสินค้าเราเองอยู่ในกระแสความสนใจ จึงมีโอกาสร่วมงานกัน ซึ่งช่วยสร้าง Impact ในตลาดเอเชีย มีลูกค้าเรียกร้องสินค้าในช่องทางออฟเทรดหรือร้านค้าทั่วไปเพิ่ม”

‘บีทีเอส-เกาหลีใต้’ เส้นทาง ‘โมกุโมกุ' เสริมแกร่ง 'เซ็ปเป้' สู่แบรนด์โลก

นอกจากนี้ ตลาดฟิลิปินส์น่าสนใจ เนื่องจาก “โมกุ โมกุ” เป็นเบอร์ 1 ท่ามกลางคู่แข่งระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น มินิทเมด ทรอปิคาน่า หรือแบรนด์ท้องถิ่น เป็นต้น

การขยายตลาดเริ่มจากพุ่งเป้าไปยัง “ช่องทางจำหน่าย” โดยเฉพาะห้างค้าปลีกสมัยใหม่(MT) มีสัดส่วน 90% ส่วนร้านค้าทั่วไปยังน้อย 10% ทว่า การบุกร้านค้าสมัยใหม่ เจาะไปทั้งร้านสะดวกซื้อทุกแบรนด์ดัง เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น ลอว์สัน MINI STOP Treats แฟมิลี่มาร์ท เป็นต้น รวมถึงร้านขายยา ซูเปอร์มาร์เก็ต และอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่

ด้านการทำตลาดนำเครื่องดื่ม “โมกุ โมกุ” ไปจับคู่อาหารจานโปรด(Combination) จนโกยยอดวิวเข้าถึง(Reach)ฐานผู้บริโภค 7.48 ล้านครั้ง

ตลาดอินโดนีเซีย “โมกุ โมกุ” เป็นน้ำผลไม้เบอร์ 1 ในช่องทางร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ “Indomart” ภาพรวมครอบคลุมร้านค้าสมัยใหม่สัดส่วน 81% แน่นอนว่าตลาดใหญ่ประชากรกว่า 200 ล้านคน จึงมีคู่แข่งเพียบเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น มินิทเมด Florida CocoBit Pororo เป็นต้น

ข้ามไปตลาดยุโรป ดาวรุงยกให้ประเทศ “ฝรั่งเศส” โดย “โมกุ โมกุ” เจาะร้านค้าทั่วไป 70% ร้านค้าสมัยใหม่ 30% ตลาดนี้ต่างจากประเทศในเอเชีย เพราะร้านค้าทั่วไปยกระดับ ทันสมัยกว่า จึงมองเป็นกลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” ขณะที่ร้านค้าสมัยใหม่ บริษัทเข้าไปบุกได้หมด ไม่ว่าจะเป็นคาร์ฟูร์ Intermarche Casino shop Metro bp เป็นต้น การทำตลาดมีทำจุดขายให้ดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

‘บีทีเอส-เกาหลีใต้’ เส้นทาง ‘โมกุโมกุ' เสริมแกร่ง 'เซ็ปเป้' สู่แบรนด์โลก “ตลาดต่างประเทศไม่ได้เพิ่งโต ในฝรั่งเศส เกาหลีใต้ หากมองเชลฟ์ยังไงก็เจอ โมกุ โมกุ เมื่อเรา win ใน 2 ประเทศได้ มิติของแบรนด์ จะไม่ใช่เอเชี่ยนโปรดักท์อีกต่อไป เพราะในตลาดยุโรป ฝรั่งเศสก็เป็นผู้นำเทรนด์เช่นกัน ส่วนเกาหลีใต้ไม่ต้องพูดถึง เรามองการเติบโตต่อและทำนิวไฮท์ได้ การเติบโตยังไม่ถึงจุดโตสุด พีคได้อีกไตรมาส 3”

นอกจากฝรั่งเศสเป็น Star ให้ตลาดน้ำผลไม้โมกุ โมกุ ยุโรปยังมีประเทศอื่นที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นเบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ เห็นได้จากผู้บริโภคในประเทศ(Local) มีการรีวิวสินค้าลงแพลตฟอร์ม TikTok สร้างกระแส(ไวรัล)ได้พอสมควร

อย่างไรก็ตาม การมุ่งแบรนด์โลกของ “เซ็ปเป้” ไม่ใช่แค่ความพยายามของบริษัท แต่หนึ่งใน “ทางลัด” ที่มี คือการเป็นพันธมิตรกับ “ดานอน” ยักษ์อาหารและเครื่องดื่มระดับโลกจากฝรั่งเศส ซึ่งทั้ง 2 ผนึกกำลังลุยตลาดเครื่องดื่มผสมวิตามินภายใต้แบรนด​ “บลู” ซึ่งมองย้อนไป ถือเป็นเจ้าแรกๆที่สร้างเซ็กเมนต์ น้ำผสมวิตามิน(วิตามิน วอเตอร์)ในตลาด ทว่า ความสำเร็จด้านแบรนด์อาจไม่กังขา แต่ยอดขายยังไม่เกิดตามมา เพราะ 3 ปี มีส่วนแบ่งตลาดเป็น “อันดับ 3” แต่ยังเผชิญภาวะ “ขาดทุน” โดยหวังปีหน้าจะเห็นตัวเลขบวกได้

‘บีทีเอส-เกาหลีใต้’ เส้นทาง ‘โมกุโมกุ' เสริมแกร่ง 'เซ็ปเป้' สู่แบรนด์โลก “ดานอนช่วยเพิ่ขีดความสามารถให้เรา เพราะเป้าหมายเราอยากเติบโตไปสู่เวทีภูมิภาค และระดับโลก การเป็นพันธมิตรกับดานอน ทำให้ปรับมายด์เซ็ท ทำให้เราโตเร็ว อีกทั้งดานอน มีสินค้าที่ประสบความสำเร็จในหลายประเทศ เมื่อนำมาเปิดตลาดในประเทศทำให้ win ในใจผู้บริโภคชาวไทย”

สำหรับตลาดต่างประเทศของเซ็ปเป้ ช่วงไตรมาส 2 มีการเติบโต หดตัวต่างกัน โดยที่โตแรง ยังเป็น ยุโรป 92.1%เอเชีย 83.9% ตะวันออกกลางและอื่น 59.3% ส่วนอเมริกา หดตัว 8.2% และประเทศไทยหดตัว 15.6%

ด้านสัดส่วนการขายเอเชียครองเค้ก 45.1% ยุโรป 15.2% ไทย 21.1% ตะวันออกกลางและอื่น 12.8% และอเมริกา 5.8%