อัปเดต โรงแรมเกาะสมุยโดนยกเค้า 70 ล้าน ตระกูล "พูลสวัสดิ์" สะเทือนใจ

ความคืบหน้า โรงแรมเกาะสมุยโดนยกเค้า 70 ล้าน กรณีกลุ่มคนร้ายขโมยทรัพย์สินในโรงแรมหรูบนเกาะสมุย อัปเดต จนท. ติดตามทรัพย์สินมาได้แล้วบางส่วน

ผกก.สภ.บ่อผุด อ.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ขยายผลหลังจับกุมคนร้าย ที่ก่อเหตุลักทรัพย์โรงแรมหรู บนเกาะสมุย มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท ล่าสุดนำกำลังไปติดตามยึดของกลาง เป็นบานประตูหน้าต่างไม้สัก และโครงหลังคา เมทัลชีท ได้มาเป็นจำนวนมาก ด้านนายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เผยจากเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนแต่อย่างใด

วันที่ 6 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีกลุ่มคนร้ายที่บุกเข้าไปก่อเหตุยกเค้าขโมยทรัพย์สิน ภายในโรงแรมบลูลากูล เดอะทีค วิง ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ จำนวน 348 ห้อง เป็นโรงแรมขนาด 4 ดาว ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 18 ไร่ ซึ่งภายในโรงแรมมีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บริเวณย่านชายหาดเฉวง หมู่ 2 ตำบลบ่อผุด อำเภอกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ภายหลังสัญญาเช่าระหว่างนักธุรกิจชาวสวิสต์เซอร์แลนด์ หมดสัญญาเช่า 30 ปี เมื่อปี 2563 และยังได้มีการต่อสัญญา ประกอบกับเกิดสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้โรงแรมต้องปิดตัวไประยะหนึ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา นางยมนา พูลสวัสดิ์ เจ้าของที่ดินที่ได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ บานประตู หน้าต่าง สายไฟ โคมไฟ เหล็กราวบันได โครงหลังหลังคาเหล็ก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทุกชิ้น ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้าไปขโมยเกลี้ยง เหลือแต่ตัวอาคารโรงแรมเท่านั้น โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท ตามข่าว ที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้

ขณะที่ความคืบหน้าของคดีทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด ที่ได้ทำการติดตามจับกุมคนร้ายได้จำนวน 3 คน ที่เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่โรงแรมดังกล่าว ประกอบด้วย นายอภิพัฒน์ อายุ 35 ปี พร้อมด้วย นายกฤษณะ และ น.ส.ขวัญใจ พร้อมของกลางอุปกรณ์ เครื่องมือช่าง ที่ใช้ในการก่อเหตุ หนึ่งในผู้ต้องหา ให้การรับสาภาพว่า เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตนได้ไปรับเหมาซื้อเหล็ก ส่วนบานประตู หน้าต่าง และโรงหลังคาเมทัลชีท และได้นำขึ้นรถบรรทุก นำไปเก็บไว้ที่แคมป์คนงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ใกล้หมู่บ้านกล้วยไม้ หมู่ 3 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย 

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ทำการตรวจยึดของกลาง เช่นอุปกรณ์ ถังแก๊ส ถังอ๊อกซิเจน หัวตัดเเก๊ส ได้มาจำนวนหนึ่ง และมีการขยายผล ไปยึดของกลาง เป็นไม้สักบานประตูและบานหน้าต่าง พร้อมโครงหลังคา เมทัลชีท ได้มาเป็นจำนวนมาก และรถยนต์บรรทุกหกล้อ ที่ใช้ก่อเหตุขนย้าย 1 คัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเดินหน้าขยายผลหาผู้ก่อเหตุ และผู้รับซื้อของโจรอย่างต่อเนื่อง

เบื้องต้น พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ก็ได้เรียกตำรวจสืบสวน เข้าไปดำเนินการสอบสวนหาตัวคนร้าย และ สามารถติดตามมาดำเนินคดีได้จำนวน 3 คน พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์ในการใช้กระทำความผิด ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนหาผู้ร่วมกระทำความผิด และ ติดตามทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายกลับคืนมา ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา กับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย

 ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อ สะดวกในการกระทำความผิดหรือเพื่อพาทรัพย์ นั้นไป” ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน เพื่อหาตัวคนร้ายที่ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติม และติดตามทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายให้ได้กลับคืนมามากที่สุด

ขณะที่ นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ได้เปิดเผยว่า จากการที่มีผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ต่าง ๆ รวมไปถึงการถูกทำลายทรัพย์สิน หากมีผู้เสียหาย จากเหตุการลักษณะนี้ ผู้ประกอบการโรงเเรม สามารถแจ้งมาได้ ที่ทางสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ซึ่งทางสมาคมฯ จะได้รับเรื่องและประสานไปทาง ผู้กำกับ สภ.บ่อผุด ในการดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป 

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตนก็ยังเชื่อมั่นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายใหม่ แต่ก็เป็นสิ่งที่สะเทือนใจ ที่มีการก่อเหตุกันในลักษณะนี้ ซึ่งทางสมาคมฯเอง และผู้ประกอบการเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และประสานกับหน่วยงานความมั่นคงทุกฝ่าย ซึ่งก็จะหาทางป้องกันสำหรับผู้ที่มาลงทุนใหม่ ทางสมาคมก็ไม่ได้รับทราบเรื่องนี้มาก่อน ซึ่งก็ต้องมีการสำรวจความเสียหายในที่ต่างๆที่หมดสัญญาเช่าไปในช่วงโควิด เพื่อดำเนินคดีและให้ความเป็นธรรมกับเจ้าทรัพย์ต่อไป