ผู้บริโภคถูกใจสิ่งนี้ 'เฮดแอนด์โชว์เดอร์' แชมพูถุงเติม ราคาถูกลง 30 บาท!
ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค(FMCG) เป็นอีกเซ็กเตอร์ใหญ่มาก มูลค่า “หลายแสนล้านบาท” ปี 2564 ติดลบ 10-12% ดิ่งหนักเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากผลกระทบโรคโควิด-19 ระบาด ทว่าปี 2565 สัญญาณฟื้นตัวมากขึ้น 'พีแอนด์จี' คาดการณ์เติบโต 2 หลัก
ทว่า ปี 2565 การฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว จะเห็นตัวเลข “บวก” ได้ มุมมองจาก สิรินพร วัฒนะภราดร รองประธานกรรมการฝ่ายขายและการสื่อสารองค์กร ประเทศไทย พม่า และลาว บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก(Global Brand) มีสินค้ามากมาย เช่น เฮดแอนด์โชว์เดอร์ แพนทีน เอสเคทู ดาวน์นี่ แอมบิเพอร์ ยิลเลตต์ ฯ พร้อมคาดการณ์หมวดสินค้าที่บริษัททำตลาดจะเติบโตอัตรา 2 หลัก โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ทั้งแชมพู และครีมนวด
แนวทางขับเคลื่อนตลาดครึ่งปีหลัง บริษัทยังรุกหนักเต็มที่ ทั้งเทงบโฆษณาเพิ่มจากปีก่อน จัดกิจกรรม แคมเปญต่างๆ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค สร้างการเติบโตให้ได้ ท่ามกลางปัจจัย “เปราะบาง” ไม่ว่าจะเป็นภาวะ “ต้นทุนพุ่ง” ทั้งสินค้าโภคภัณฑ์ วัตถุดิบการผลิตเพิ่มขึ้น จากแรงกดดัน "ราคา พลังงาน” รวมถึงแนวโน้มการ “ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ”
ล่าสุด แบรนด์เรือธงยอดขายอันดับ 1 ของโลก อย่าง “เฮดแอนด์โชว์เดอร์” เปิดตัว “แชมพูถุงเติม” ครั้งแรก หวังปฏิวัติวงการแชมพูในเมืองไทย ควบคู่กับภารกิจ “รักษ์โลก” ซึ่งภายในปี 2573 บริษัทจะบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ขณะที่ผ่านมา พีแอนด์จี ลดการปล่ายก๊าซเรือนกระจก จากพลังงานไฟฟ้าลง 73% ลดการใช้น้ำในโรงงานผลิต 35% และปี 2561 ได้ลดการปล่อยของเสียจากกระบวนการผลิตและลดปริมาณขยะฝังกลบเป็นศูนย์เรียบร้อยแล้ว
เมื่อเดินแผนธุรกิจอย่างยั่งยืน ไฮไลท์ “เฮดแอนด์โชว์เดอร์ถุงเติม” คือ ลดการพลาสติกลดการใช้พลาสติกลง 78% สานเป้าลดปริมาณขยะพลาสติกในปีแรก 1.3 ตัน หลังปล่อยสินค้าสู่ตลาด ที่สำคัญยังลดราคาขายลง 30 บาทต่อถุง โดยขนาด 380 มิลลิลิตร(มล.)ราคา 139 บาท เมื่อเทียบกับแชมพูบรรจุขวดพลาสติก ถือเป็นการมอบความคุ้มค่าด้านราคาให้กับผู้บบริโภคด้วย
“เราเลือกเฮดแอนด์โชว์เดอร์ คิกออฟแชมพูถุงเติม เพราะเป็นแบรนด์แข็งแกร่งสุดมาเป็นโครงการนำร่อง จากนั้นจะขยายไปสู่สินค้าหมวดอื่นๆในพอร์ตโฟลิโอ”
ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นมีมูลค่า 16,000 ล้านบาท โดยเฮดแอนด์โชว์เดอร์ สูตรขจัดรังแค เป็น “ผู้นำ” สลับขึ้นลงกับ “คู่แข่ง” ในแต่ละเดือน ส่วนหมวดสินค้าอื่น เช่น ผลิตภัณฑ์ซักผ้ามูลค่า 17,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแบบผง 75% และแบบน้ำ 25% ด้านน้ำยาปรับผ้านุ่มมูลค่า 12,000 ล้านบาท “ดาวน์นี่” เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งกว่า 40% ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ามูลค่า 8,600 ล้านบาท แปรงสีฟันมูลค่า 4,000 ล้านบาท(ไม่รวมแปรงสีฟันไฟฟ้า)และมีดโกนหนวดมูลค่า 1,300 ล้านบาท
“ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่ฟื้นตัวในปีนี้ หมวดผลิตภัณฑ์ซักผ้ามีการเติบโตเร็วและสูงสุด และพฤติกรรมผู้บริโภคหันไปใช้สินค้าพรีเมี่ยมมากขึ้น แม้ภาวะเศรษฐกิจกำลังซื้อเปราะบาง”
อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังแม้แนวโน้มตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคจะดีขึ้น แต่ทิศทางราคาพลังงาน เงินเฟ้อ ยังเป็นตัวแปรกระทบ “ต้นทุน” ทำให้บริษัทอาจพิจารณา “ปรับขึ้นราคาสินค้า” บางรายการ จากปีก่อนขยับราคาผลิตภัณฑ์ซักผ้าสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ
“แชมพูแบบถุงเติมมีมานานแล้ว อย่างประเทศญี่ปุ่นออกมาทำตลาดราว 7-8 ปีก่อน ขณะที่เฮดแอนด์โชว์เดอร์แบบถุงเติมทำตลาดในยุโรป ส่วนไทย ผู้บริโภครอคอยเช่นกัน เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมามีการรับรู้การใช้สินค้าถุงเติม โดยเฉพาะครีมอาบน้ำสูงถึง 30% ยังมีหมวดน้ำยาล้างจาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้า อีกทั้งราคาถูกกว่าแบบขวดอย่างชัดเจน ใช้แล้วยังมีส่วนในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย และการทำตลาดครั้งนี้ เฮดแอนด์โชว์เดอร์ เป็นรายแรกที่ปฏิวัติวงการแชมพูแบบถุงเติม”
