ช่อง 3 ลุยขายละครเจาะตลาดโลก โกยรายได้ 900-1,000 ล้านบาท

ช่อง 3 ลุยขายละครเจาะตลาดโลก  โกยรายได้ 900-1,000 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานของบีอีซี เวิลด์ หรือช่อง 3 ในช่วงไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้จากการขายโฆษณาอยู่ที่ 1,179.4 ล้านบาท ลดลง 3.5% จากช่วงเดัยวกันปีก่อน แม้จะฟื้นตัวจากไตรมาสแรกของปี 2565 ก็ตาม

ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 173.1 ล้านบาท ลดลง 6.3% เทียบช่วงเดีวกันปีก่อน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,348.3 ล้านบาท ลดลง 10.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และกำไรสุทธิกว่า 340 ล้านบาท

ปัจจุบัน รายได้จากการขายโฆษณายังเป็นสัดส่วนใหญ่ของบริษัทราว 87.5% ทั้งนี้ หนึ่งในความพยายามสร้างการเติบโตของรายได้และ “กำไร” คือการขายคอนเทนต์ละครต่างๆ ไปยังตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งปีหลังบริษัทยังเดินเกมเชิงรุก โดย พิริยดิส ชูพึ่งอาตม์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนัการเงินและบัญชี บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด(มหาชน) หรือช่อง 3 เล่าถึงภารกิจผลักดันเป้าหมายรายได้ปี 2565 ให้เติบโต 10-20%

กลยุทธ์สานเป้าดังกล่าว หนึ่งในนั้นคือการขายลิขสิทธิ์คอนเทนท์ โดยเฉพาะ “ละคร” ไปยังตลาดโลกมากขึ้น ตลาดหลักที่ออกสตาร์ทยังเป็น “เอเชีย” และ “จีน” เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ เพราะมีการออกอากาศละครคู่ขนานกับประเทศไทยที่กำลังออนแอร์หรือไซมัลแคสต์ และยังมีการขายในรูปแบบออกอากาศหลังจากไทยวันเดียวกัน ซึ่งเวลาห่างไม่กี่ชั่วโมง โมเดลสุดท้าย คือขายคอนเทนต์สำเร็จรูปที่พันธมิตรนำไปออกอากาศได้ทันที หรือระยะเวลาตามที่ต้องการ

สำหรับละครที่จะทยอยขายให้คนดูในเอเชียเพิ่มเติม เช่น รากแก้ว สายลับลิปกลอส ลายกินรี มัดหัวใจยัยซุปตาร์ ซุปตาร์ 2550 เป็นต้น จากก่อนหน้านี้ มีละครที่ออกอากาศทั่วเอเชีย รวมถึงญี่ปึ่น เช่น คู่เวร คุณหมีปาฏิหารย์ และละครสำเร็จรูปรวถึง 1,500 ชั่วโมง

การขายคอนเทนท์สู่ตลาดโลกแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์หรือ โอทีที คือช่องทางหลัก ซึ่งช่อง 3 ป้อนให้กับเน็ตฟลิกซ์ วิว ฯ เป็นต้น

นอกจากบุกโลก การลุยดิจิทัล เป็นอีกหัวใจสำคัญที่ช่องมี “3Plus” ไว้ตอบโจทย์คนดู ซึ่งปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานทะลุ 11 ล้านรายต่อเดือน เคยพีคถึงระดับ 12 ล้านรายต่อเดือน

ความพยายามปั้นแพลตฟอร์มให้เกิด ยังเปิดพื้นที่ให้ศิลปินได้ทำกิจกรรมเอ็นเกจกับ “แฟนด้อม” โหวตแคมเปญ ส่งของขวัญ ฯ เพื่อดึง “สมาชิกพรีเมียม” ที่มีปัจุับนมีความแอ๊คทีพราว 40,000 ราย ของเมมเบอร์พรีเมียมราว 100,000 ราย

รายได้การขายลิขสิทธิ์คอนเทนท์และดิจิทัลปีนี้ บริษัทคาดการณ์เติบโตแตะ 900-1,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้เหล่านี้จะเป็นตัวแปรในการ “โกยกำไร” ให้เติบโต

ส่วนเกมรุกในประเทศ ยังเสริมทัพละครแกร่งในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งรากแก้ว สายลับลิปกลอส ลายกินรี มัดหัวใจยัยซุปตาร์ ซุปตาร์ 2550 ซึ่งมีนักแสดงแถวหน้าเป็น “แม่เหล็ก” ดึงดูดผู้ชม และหวังสร้างรายได้จากการขายโฆษณาอย่างต่อเนื่อง ขานรับตลาดที่จะเติบโตขึ้นช่วงไตรมาส 3 ซึ่งมองว่าแบรนด์สินค้าและบริการต่างๆจะมีการใช้จ่ายเงินโฆษณา

นอกจากนี้ ยังมีรายการใหม่จาก “เซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์” เข้ามาเสริมทัพ 2 รายการ ได้แก่ รู้หน้าไม่รู้ใคร? และนักร้องเสียงจริง

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องระวังจะกระทบธุรกิจ หนีไม่พ้นภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อ และเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น

“แม้เศรษฐกิจจะคลายคัว แต่ยังอยู่ในภาวะค่อยเป็นค่อยไป หากขยายตัวมากขึ้น คาดว่าจะจายโฆษณาได้มากขึ้น ส่วนแนวโน้มค่าโฆษณาครึ่งปีหลังคาดว่าจะยังไม่มีการปรับราคา”