โปรเจคใหม่ “บัสทัวร์ทั่วไทย” อุ้มรถทัวร์นำเที่ยว จ่ายคันละหมื่นบาท 500 คัน

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมีโครงการใหม่ชื่อ “บัสทัวร์ทั่วไทย” เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และช่วยเหลือผู้ประกอบการรถบัสนำเที่ยวซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 มายาวนานกว่า 2 ปี และได้รับความช่วยเหลือช้ากว่ากลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวอื่นๆ ถือเป็นการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขแก่ผู้ประกอบการรถบัสนำเที่ยว หนุนการจ้างงาน เช่น มัคคุเทศก์ และพนักงานขับรถ

หลังจาก สทท. และตัวแทนภาคเอกชนท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมกับนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

สำหรับวงเงินของโครงการบัสทัวร์ทั่วไทย เริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายการเดินทางแก่ธุรกิจรถบัสนำเที่ยว และยังช่วยทำให้ภาพรวมแพ็คเกจท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการถูกลงด้วย โดยรายละเอียดการสนับสนุน ทาง ททท.จะสนับสนุนให้รถบัสนำเที่ยวที่อัตรา 10,000 บาทต่อคัน เงื่อนไขคือต้องเดินทางอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน จากแพ็คเกจท่องเที่ยวที่มีการเสนอขายแบบ 2 วัน 1 คืน, 3 วัน 2 คืน และสูงสุด 4 วัน 3 คืน โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทาง 35-40 คนต่อคัน

“วงเงินโครงการนี้จะเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาทก่อน จากนั้นจะดูฟีดแบ็กว่าเป็นอย่างไร โดยภาคเอกชนท่องเที่ยวมองว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีส่วนช่วยกระตุ้นยอดจำนวนคนไทยเที่ยวในประเทศช่วงไตรมาส 3 ปีนี้”

นายชัยพฤกษ์ ทองคำ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวเสริมว่า โครงการ บัสทัวร์ทั่วไทย วงเงินเริ่มต้น 5 ล้านบาท ทาง ททท.จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง คันละ 10,000 บาท จำนวน 500 คัน คาดว่าจะคิกออฟเริ่มโครงการได้ในช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้ และมีกำหนดสิ้นสุดโครงการวันที่ 31 ต.ค.2565

“ถ้าเฟสแรกของโครงการได้รับผลตอบรับดี ก็มีแนวโน้มขยายระยะเวลา ทำเฟสที่ 2 เพิ่ม”

ด้านโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” จากที่รัฐบาลให้สิทธิ 2 แสนสิทธิ ซึ่งมีการขยายระยะเวลาโครงการครั้งที่ 2 (เฟส 2) กำหนดออกเดินทางตั้งแต่ 18 ก.ค.- 31 ต.ค.2565 ปัจจุบันมียอดจองประมาณ 1,000 คนต่อวัน ถือว่ามีจำนวนมากขึ้นกว่าเฟสที่ 1 โดย ณ วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนสิทธิคงเหลือ 114,455 คน

สำหรับแพ็คเกจท่องเที่ยวในประเทศที่ได้รับความนิยมของโครงการทัวร์เที่ยวไทย พบว่า 5 อันดับแรก คือ 1.เส้นทางจันทุบรี 2.เส้นทางเบตง จ.ยะลา 3.เส้นทางภูเก็ต 4.เส้นทางกระบี่ และ 5.เส้นทางสุราษฎร์ธานี