ถ้าพนักงานไทยและเจ้าของกิจการต้องแข่งกับพนักงานจีน/ธุรกิจจากจีน!?

ถ้าพนักงานไทยและเจ้าของกิจการต้องแข่งกับพนักงานจีน/ธุรกิจจากจีน!?

การประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน ท่านไม่สามารถ คิดและทำแบบสบายๆ ยังไงก็ได้แบบเดิมได้! ส่วนต้องคิดต้องทำอย่างไรให้พอสู้ได้…

Part.1. ไม่ใช่การเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าหรือเก่งกว่า !?

ก่อนที่จะอ่าน ขออนุญาตทำความเข้าใจก่อนว่า ประเด็นในวันนี้ไม่ได้เปรียบเทียบในเชิงต่อว่า ดูถูก

หรือยกย่องว่าใครดีกว่าหรือเก่งกว่า แต่ต้องการชี้ให้เห็นวา ไม่ว่าท่านจะเป็นเจ้าของกิจการ หรือ พนักงาน

ไทยที่ต้องแข่งขันกับพนักงานคนจีน ท่านจะต้องเจออะไร ส่วนจะปรับตัวอย่างไร เป็นเรื่องที่ท้าทาย

Part.2.สมมุติว่าวันนี้ท่าน (เจ้าของกิจการหรือพนักงาน) กำลังแข่งกับคนจีน !?

# ในกรณีที่ท่านเป็นพนักงาน ทำงานกับคนที่มาจากประเทศจีนในหน่วยงานของท่าน…

ท่านจะรู้สึกแปลกใจที่ทำไม พนักงานที่มาจากประเทศจีน ถึงมาทำงานแต่เช้า และอยู่ทำงานจนถึงกลางคืนหลังเวลาเลิกงาน! (ไม่เข้างานเกือบไม่ทัน แต่เลิกงานก่อนเวลาเลิกงาน แบบพนักงานไทยบางส่วน)

ท่านจะรู้สึกแปลกใจที่ทำไม พนักงานที่มาจากประเทศจีน ไม่เคยเสียเวลาเม้าท์มอยในระหว่างการทำงาน

ท่านอาจจะคิดว่า พนักงานคนจีนเครียดไปหรือเปล่า ? ทำไมไม่รู้จักผ่อนคลาย พักเม้าท์มอยกับเพื่อนๆ ร่วมงานเฉลี่ยวัน 5 รอบเป็นอย่างน้อยแบบพนักงานไทยๆอย่างเราบ้าง!?

ท่านจะรู้สึกแปลกใจที่ทำไม พนักงานที่มาจากประเทศจีน แทบไม่ยิ้มเลยในระหว่างการทำงาน เพราะหมกมุ่นอยู่กับงานทั้งวัน

ท่านอาจจะคิดว่า พนักงานคนจีนทำไมไม่รู้จัก ไถมือถือในเวลาทำงานเหมือนพนักงานไทย ที่ถูไถมือถือได้ตลอดเวลาในระหว่างทำงาน เพื่อติดตามข่าวสาร (หลายเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องรู้ เช่นดาราคนไหน คบกับใคร เลิกกับใคร แต่เป็นเรื่องใหญ่ที่ทั้งชาติต้องรู้แบบไทยๆ) ดูสินค้าที่น่าสนใจ(ที่ไม่มีความจำเป็นกับชีวิต แต่ดูเพื่อกระตุ้นความอยากให้เกิดความต้องการ ให้เข้ากับค่านิยมในหลายปีที่ผ่านมา คือ “ของมันต้องมี!” 

เพราะฉะนั้นต้องช้อปออนไลน์อย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ถึงแม้รายได้จะชักหน้าไม่ถึงหลัง แถมยังมีหนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิตอีกหลายก้อน ก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่ช้อป ไม่ซื้ออะไรเลย ไมเกรนจะขึ้นหัวทันที!?

Part.3.สาเหตุที่คนจีนเป็นเช่นนี้….

เพราะคนจีนถูกปลูกฝังค่านิยมจนซึมลึกลงไปใน DNA ที่ต้อง ขยัน สร้างเนื้อสร้างตัว และเรียนรู้ให้มากที่สุด เวลาคนจีนในประเทศจีนรวมญาติในเทศกาล เรื่องหลักที่แทบจะเป็นเรื่องเดียวที่พูดคุยกัน คือเรื่องหน้าที่การงาน รายได้ และเป้าหมายที่ต้องการประสบความสำเร็จของแต่ละคน!

ท่านอาจจะไม่ทราบว่า พนักงานคนจีนที่มาทำงานในประเทศไทย ก็รู้สึกแปลกใจ กับ วิธีคิด วิธีการทำงาน และพฤติกรรมตลอดทั้งวันของพนักงานไทยเช่นกันว่า….ทำไม ชิลล์ และสบายแบบนี้ แล้วอนาคตจะประสบความสำเร็จ สร้างเนื้อสร้างตัวได้อย่างไร!?

Part.4.สาเหตุที่คนไทย (บางส่วน แต่จริงๆก็ส่วนมากนั่นแหละ ขี้เกียจแก้ตัวให้ละ!) เป็นเช่นนี้….

เพราะค่านิยมที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ด้วยคำว่า “สบายๆ” “ไม่เป็นไร” “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชค วาสนา” เป็นต้น 

# ในกรณีที่ท่านเป็นเจ้าของกิจการ กำลังทำธุรกิจแข่งกับคนที่มาจากประเทศจีน…

ท่านคงรู้แล้วว่า ในแง่ต้นทุน จีนก็ต่ำกว่า ในแง่การรุกอย่างรวดเร็ว ดุดัน(ไม่เกรงใจใคร) จีนก็โหดกว่า ในแง่การ ไลฟ์ขายของผ่านแพล็ตฟอร์มต่างๆ เช่น Tiktok จีนก็ก้าวไปไกลด้วยสไตล์และวิธีการที่เหนือกว่า 

โดยรวมๆ ธุรกิจไทยที่แข่งกับธุรกิจจีน ทั้งเสียเปรียบในเรื่องมาตรการภาษี ทั้งขยันไม่เท่าทั้งๆที่เราก็ว่าเราขยันแล้ว ไหนจะเจอการทุ่มตลาดในหลากหลายรูปแบบ เหนื่อยสุดๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่จีนได้รับการสนับสนุนทั้งจากทางรัฐบาลจีนและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ธุรกิจจากจีนจะเชี่ยวชาญมากในการใช่ ”ช่องว่าง ช่องโหว่” ทางกฎหมายและภาษี มาตั้งโรงงานในประเทศไทย แต่ใช้คนจีน ใช้เทคโนโลยีต่างๆ สร้างรายได้โดยนำรายได้แทบทุกเม็ดเก็บกลับประเทศจีน โดยที่ไทยแทบไม่ได้อะไรเลย

เราจึงเห็นธุรกิจจากจีนรุกมากวาดล้างธุรกิจหลายๆประเภทของไทยจนภาคธุรกิจของไทยทยอยล้มระเนระนาดอย่างที่เห็นกันในทุกวันนี้

Part.5.สาเหตุที่เป็นเช่นนี้

เพราะค่านิยมที่ถูกปลูกฝังไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือเจ้าของกิจการ ต้อง ขยัน ทุ่มเท กล้าได้กล้าเสีย ถ้าเติบโตในประเทศยังไม่ได้ ก็มองหาโอกาสไปเติบโตในประเทศที่เติบโตได้ง่ายกว่า…

ทางออกและทางแก้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าท่านจะเป็น เจ้าของกิจการ กำลังทำธุรกิจแข่งกับคนที่มาจากประเทศจีน หรือ ท่านเป็นพนักงาน ทำงานกับคนที่มาจากประเทศจีนในหน่วยงานของท่าน

สำหรับธุรกิจไทยที่แข่งกับจีน ยังต้องเหนื่อยอีกนาน เพราะในเรื่องนโยบายในเรื่องโครงสร้างทางภาษี ไทยไปเปิดช่องทางไว้มาหลายปี กว่าจะรู้สึกตัว ก็ไม่แน่ใจจะสายเกินไปหรือเปล่า จะไปแก้กฎระเบียบ ก็ไม่กล้าเพราะอยากได้การลงทุนจากต่างชาติ แต่ดันพลาด เจอนักลงทุนแบบ ฉลามขาโหดอย่างจีน ที่ธุรกิจไทยแทบจะไร้ทางสู้ รัฐบาลจะกล้าแก้กฎระเบียบหรือ!?

Part.6.บทสรุปที่ท้าทาย….

สำหรับพนักงานไทยที่ต้องทำงานกับพนักงานที่มาจากประเทศจีนในองค์กรที่ท่านทำอยู่ในปัจจุบันถ้าค่านิยมและเป้าหมายของท่าน ไม่มี ไม่ชัดเจน หรือ แค่ทำไปวันๆไม่คิดอะไรมาก ต้องการความสุข ความสบายกาย สบายใจ มากกว่าความสำเร็จระดับสูงในการทำงาน ก็ตงไม่มีอะไรที่จะแนะนำ!

(ผมเองก็ลูกหลานคนจีน มีเชื้อสายจีน ดูจากแซ่ที่ใช้ก็น่าจะรู้ บรรพบุรุษอพยพมาตั้งรกราก สร้างเนื้อสร้างตัวที่ประเทศไทย ได้รับการปลูกฝังค่านิยมแบบลูกหลานคนจีนและได้เรียนรู้การทำงานแบบไทยๆ ซึ่งต่างก็มีข้อดี ข้อเสีย คนละแบบทั้งไทยและจีน)

แต่ในยุคปัจจุบัน ต่างจากในอดีต ที่คนจีนโดดเด่นเรื่อง ความขยัน ความมุมานะ อดอน อดออม แต่ยุดนี้ นอกเหนือจากที่กล่าวที่ยังมีอยู่ ยังมีเพิ่มอีกหลายอย่างเช่น การใช้เทคโนโลจีเพื่อความก้าวหน้า(ไม่ใช่ใช้เทคโนโลจีเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก) ความกล้าได้กล้าเสียที่มีมากกว่าเมื่อก่อน ฯลฯ

แต่ถ้าเป้าหมายของท่าน คือต้องการประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน ท่านไม่สามารถ คิดและทำแบบสบายๆยังไงก็ได้แบบเดิมได้!

ส่วนต้องคิดต้องทำอย่างไรให้พอสู้ได้….ก็ได้แต่แนะนำสั้นๆตรงไปตรงมาว่า…ให้คิดและทำตรงข้ามกับที่ตัวท่านเป็นอยู่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ท่าน “อาจจะ” พอจะวิ่งทันได้!