หุ้น JMART ‘ไม่เคย’ ไร้เงาของ ‘นักลงทุนรายใหญ่’ !

หุ้น JMART ‘ไม่เคย’ ไร้เงาของ ‘นักลงทุนรายใหญ่’ !

จากอดีต - ปัจจุบัน “เจมาร์ท” ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีเหล่า “นักลงทุนรายใหญ่ - เล็ก” แวะเวียนลงทุนบ่อยๆ จากธุรกิจขนาดเล็กๆ ก่อนขยายอาณาสู่สุดระดับ “แสนล้าน”

บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ของ “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” ผู้ก่อตั้ง จากจุดเริ่มต้นที่เป็นร้านขายโทรศัพท์มือถือ จนปัจจุบันเป็นธุรกิจหมื่นล้าน ในกลุ่มการลงทุนใน “ธุรกิจค้าปลีก-การเงิน และเทคโนโลยี” และธุรกิจกำลังเติบโต และสร้างความมั่งคั่ง (Wealth Creation) ให้ “อาณาจักรเจ มาร์ท” จากธุรกิจขนาดเล็ก เป็นห้องแถว ที่ปัจจุบันกลายเป็นอาณาจักรที่เคยขึ้นไปสู่สุดระดับ "แสนล้านบาท" 

ภายใต้ “4 ธุรกิจสำคัญ !” 1.ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ 2.ธุรกิจติดตามหนี้ 3.ธุรกิจบริหารพื้นที่เช่า ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ 4. ธุรกิจเช่าซื้อส่วนบุคคล โดยแต่ละธุรกิจถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ของฐานลูกค้ารีเทล (ค้าปลีก) 

และ “หุ้น JMART” กลับมาเป็นกระแส “ร้อนแรง” ในแวดวงตลาดหุ้น คงต้องยกให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART จำนวน 2 ราย คือ “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” และ “ยุวดี พงษ์อัชฌา” (ภรรยา) ขาย Big Lot กว่า 54 ล้านหุ้น ให้นักลงทุนสถาบัน ในราคาที่ต่ำกว่าในกระดาน ! 

ทำให้เกิดคำถามมากมาย...ทำไม !? เจ้าของ และหุ้นใหญ่จึงต้องขายหุ้น และคำถามที่สงสัยก็ได้คำเฉลยว่า การขายหุ้นของ “อดิศักดิ์” ทราบต่อมาในภายหลังว่า เกิดจากการโดนเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) จึงต้องตัดขายหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบัน 

“กรุงเทพธุรกิจ BizWeek” ย้อนดูเส้นทางหุ้น JMART พบว่าที่ผ่านมา หุ้น JMART ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นเมื่อ 25 มิ.ย. 2552 มีนักลงทุนรายใหญ่สนใจลงทุนในหุ้นหลากหลายราย โดยเฉพาะช่วงแรกๆ จะเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) หรือ วีไอ 

สอดคล้องกับ “อนุรักษ์ บุญแสวง” หรือ “โจ ลูกอีสาน” บอกว่า ตนเองเป็นอีกหนึ่งคนที่เคยลงทุนในหุ้น JMART ตั้งแต่หุ้นเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมองว่าหุ้น JMART เป็นหุ้นค้าปลีกที่มีการเติบโตดี และจ่ายปันผลระดับดี แต่ระยะต่อมาธุรกิจมีการเติบโตสูง และลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ค่อนข้างมาก แต่ปัจจุบันทยอยขายหุ้นหมดแล้ว 

ที่ผ่านมา “หุ้น JMART” ถูกมองเป็นหุ้นค้าปลีกที่ธุรกิจมีความมั่นคง เสี่ยงต่ำ อัตราการเติบโตสม่ำเสมอ แถมจ่ายเงินปันผลดี มีสภาพคล่อง และถือเป็น “ผู้นำ” ของอุตสาหกรรมรีเทลอีกด้วย !!”   

และอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ในอดีตหุ้น JMART เคยเป็น “จุดรวมพล” ของ “นักลงทุนไซส์บิ๊ก” หากอิงตามสัดส่วนการถือหุ้น JMART นับตั้งแต่บริษัทเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น ที่บริษัทแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะพบชื่อ 

“พีรนาถ โชควัฒนา” เข้าถือหุ้น 1,560,100 หุ้น คิดเป็น 0.52% (ตัวเลข 12 มี.ค.2553) ถือเป็น “นักลงทุนหุ้นรายใหญ่” คนแรกๆ ที่มีชื่อปรากฏในทำเนียบ ซึ่งในปัจจุบันยังถือหุ้น JMART อันดับ 10 ในสัดส่วน 1.92%

หลังจากนั้น หุ้น JMART ขึ้นแท่น “หุ้นขวัญใจ” ของ “ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” หลังโดดถือหุ้น 7,000,000 หุ้น คิดเป็น 2.33% ตามติดด้วย “เสี่ยปู่-สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล” นักลงทุนรายใหญ่ “ขาว-ณภัทร ปัญจคุณาธร” อดีตหนึ่งในคณะกรรมการสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่าแห่งประเทศไทย และ “วราณี เสรีวิวัฒนา” ภรรยา “ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา” ปิดท้ายด้วย “หมอบำรุง ศรีงาน”

ก่อนที่นักลงทุนรายใหญ่จะค่อยๆ ลดสัดส่วนการถือหุ้น JMART มาเรื่อยๆ ก่อนจะไม่ปรากฏรายชื่อใน 10 อันดับแรกแล้ว แต่ใช่ว่าหุ้น JMART จะไร้เงาของนักลงทุน หลังปรากฏ “นักลงทุนกลุ่มใหม่” เข้ามาถือหุ้น อาทิ “นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี” สัดส่วน 1.99% “อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย” หรือ “บอย ท่าพระจัทร์” ถือหุ้นผ่าน NVDR สัดส่วน 0.15% (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ส.ค. 2565)

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์