จับตา "2บจ.ใหญ่" ปิดดีลร่วมทุน ดันธุรกิจโลจิกติกส์ !

จับตา "2บจ.ใหญ่" ปิดดีลร่วมทุน ดันธุรกิจโลจิกติกส์ !

ริมถนนนักลงทุนเสิร์ฟความเคลื่อนไหวแวดวงตลาดหุ้น หนึ่งความเคลื่อนไหวน่าสนใจ คงต้องยกให้ สัปดาห์นี้ ต้องจับตา “2 บจ.” ตลาดหุ้นไทยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดดีล “ร่วมทุน” เพื่อผลักดัน "ธุรกิจโลจิกติกส์" ขึ้นแท่นหนึ่งใน “ผู้นำ” เวทีอาเซียน !

๐ มีข่าวจากวงในเมาธ์กันว่า สัปดาห์นี้... จะมีบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ (บจ.) ในตลาดหุ้นไทย ประกาศ "ปิดดีล" ความร่วมมือครั้งสำคัญ ! ใน “ธุรกิจขนส่ง” (โลจิสติกส์) ว่ากันว่าดีลครั้งนี้จะร่วมกันผนึกกำลังผลักดันโลจิสติกส์ไทย ไปผงาดหวังขึ้น “ผู้นำ” บนเวที "อาเซียน" ทีเดียว

 งานนี้วงในยังเมาธ์ต่ออีก ว่า ด้วย "ศักยภาพ" ของทั้ง 2 บจ.ไทย สามารถทำได้จริง เพราะหนึ่งบจ. มีธุรกิจขนาดใหญ่เรียกว่าเบอร์ต้นๆ ของไทย (ผู้ซื้อ) และที่สำคัญมี "ลงทุนในอาเซียน" ส่วนอีกหนึ่งบจ. มีความถนัดในธุรกิจโลจิกส์ทั้งในและต่างประเทศ ! 

 

๐ ใครทุบ !? หุ้น ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย หรือ 24CS หลังราคาหุ้นถูกเทขายอย่างหนัก จนถึงขั้นติดฟลอร์ ! จากวันแรกที่เข้าซื้อขาย (3 ต.ค.65) ที่ “หุ้น 24CS” ฟอร์มดี๊ดี ราคาปิดตลาดทะยานขึ้นไป 200% มาอยู่ที่ 10.20 บาท จากราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 3.40 บาทต่อหุ้น เรียกว่าเป็นหุ้น IPO น้องใหม่ราคาหุ้นร้อนแรงสุดของปีในวันแรก...

 แต่ในวันที่สองของ หุ้น 24CS ที่เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นเปิดการซื้อขายที่ราคา 10.70 บาท และถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 11.10 บาท แต่หลังจากนั้น สถานการณ์พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ หลังราคาหุ้นกลับถูกเทขายหนักจนถึงขั้นติดฟลอร์ โดยในวันดังกล่าวราคาหุ้นของ หุ้น 24CS ปิดที่ระดับ 7.15 บาท ลดลง 29.90% และยังถูกกระหน่ำขายในวันนี้ 5 ต.ค. ต่ออีก ในช่วงการซื้อขายภาคเช้า ราคาหุ้น 24CS ได้ปรับตัวลดลงไปที่ระดับฟลอร์ ที่ราคา 5.05 บาท 

๐ แต่หลังจากนั้นก็มีแรงซื้อเข้ามา วงในบอกคาดว่าจะเป็น “หุ้นใหญ่” ที่ใส่เงินเข้ามาเพื่อพยุงราคาหุ้นไม่ให้ “ต่ำกว่าราคาไอพีโอ” นับตั้งแต่นั้นราคาหุ้น 24CS ก็ยังไม่สามารถกลับไปยื่นราคา “สูงสุด” ที่เคยทำได้ระดับ 11.10 บาทต่อหุ้น !

งานนี้คงต้องมารอลุ่มกันว่า “หุ้นใหญ่” จะสามารถเรียกศรัทธานักลงทุนกลับมาได้หรือป่าว แต่ที่แน่ๆ อีกไม่นานน่าจะได้เห็นรายชื่อ “มือมืด” ที่แอบเทหุ้น 24CS แล้ว หลังปิดสมุดคนที่ได้หุ้นไอพีโอ 

๐ รอมานาน ! สำหรับดีลควบรวมระหว่าง “TRUE และ DTAC” สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เรียกว่า “ปลดล็อกสำเร็จ” ภายหลัง กสทช. มีมติเสียงข้างมาก 3 : 2 รับทราบการควบรวมกันระหว่าง TRUE และ DTAC แต่งานนี้ตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจฯ ปี 2561 โดยทาง กสทช. ได้ "กำหนดมาตรการเฉพาะ" ที่จะใช้กำกับ เช่น ต้องลดค่าบริการเฉลี่ยลง 12% ใน 90 วัน , ต้องแยกแบรนด์กัน 3 ปี , และ ต้องมีโครงข่าย 5จี ต้องครอบคลุม 85% ของประชากรใน 3 ปี

 ฟาก “กูรูวงการหุ้น” มีมุมมองเชิงบวกต่อการควบรวมของ TRUE กับ DTAC เชื่อการแข่งขันมีแนวโน้มจะลดความรุนแรงลงได้ พร้อมดันฐานลูกค้าที่จะเพิ่มเป็น 53.6 ล้านราย และ มีส่วนแบ่งการตลาดฐานลูกค้าประมาณ 50% คาดหวังผลประกอบการที่ดีขึ้นจากต้นทุน และ ค่าใช้จ่ายที่จะลดลง