'ตลท.' ชี้'งานไทยแลนด์โฟกัส'สร้างเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ

'ตลท.' ชี้'งานไทยแลนด์โฟกัส'สร้างเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ

"ตลท." ชี้ งานไทยแลนด์โฟกัส สร้างความมั่นใจนักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนตลาดหุ้นไทย เผย ส.ค. ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า 5 หมื่นล้าน รวมตั้งแต่ต้นปีซื้อสุทธิ 1.68 แสนล้าน  เหตุเศรษฐกิจฟื้น-กำไรบจ.ครึ่งปีแรกโต 27%  รมว.คลัง ชี้ ฐานะการคลังไทยแกร่ง  

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)จัดงาน "Thailand Focus 2022:THE NEW HOPE" เปิดแนวทางขับเคลื่อนของตลาดทุนและเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อภายใต้บริบทใหม่  นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงแวดวงเศรษฐกิจ ร่วมสร้างความเชื่อมั่นถึงความพร้อมของไทย ตั้งแต่ระดับยุทธศาสตร์ประเทศ สู่การขับเคลื่อนอย่างบูรณาการโดยภาคตลาดเงินตลาดทุน และการปรับกลยุทธ์ของธุรกิจและเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรมอนาคตที่ยั่งยืน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) 124 บริษัท ร่วมให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนสถาบัน161ราย จากสถาบันการเงิน76 แห่ง ทั่วโลก

  

 นายอาคม  กล่าวภายหลังการเปิดงานและปาฐกถาพิเศษหัวข้อ         "Thailand Economic Reopening and Enhancing Competitive Advantage”ในงานTHAILAND Focus 2022 ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นประเทศไทย โดยเฉพาะความมั่นคงทางการเงินและการคลัง ขณะที่ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยก็คาดว่าจะอยู่ในระดับเป้าหมายที่ 3-3.5% และมีโอกาสขยายตัวได้ถึง 3.5% หากการส่งออกและการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี

ทั้งนี้ สำหรับความมั่นคงทางการคลังนั้น ดูได้จากสัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยที่ยังอยู่ในระดับ 60% ต่อจีดีพี ขณะที่ กรอบเพดานการก่อหนี้อยู่ที่ 70% และหากรัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้ได้เพิ่ม ระดับหนี้ในช่วงปีนี้ก็จะปรับลดลงอีก

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  (ตลท.) กล่าวว่า  งานThailand Focusซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่16ภายใต้แนวคิด “THE NEW HOPE”ว่า ซึ่งมีรมว.คลัง ได้ให้ความมั่นใจแก่ผู้ลงทุนถึงยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศที่สนับสนุนการฟื้นตัวและมุ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ยังให้ความเชื่อมั่นด้านการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตที่จะปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไปให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ (gradual & measured) 

     นอกจากนี้ ในการเสวนาตัวแทนภาครัฐ ภาคธุรกิจ ตลาดเงิน ตลาดทุน ยังร่วมนำเสนอจุดแข็งของประเทศไทย รวมถึงความสามารถและศักยภาพของภาคเอกชนไทยที่สอดรับกับบริบทใหม่ในอนาคต  โดยในงานนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน 154 นักลงทุนสถาบัน แบ่งเป็นต่างประเทศ 55 ราย และในประเทศ 99 ราย   ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบันทางจากต่างประเทศ 38 รายและในประเทศ 33 ราย

“Thailand Focus2022 เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สื่อสารความน่าสนใจของประเทศไทย และเชื่อมโยงโอกาสการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก โดยมีผู้ลงทุนจากกลุ่มประเทศหลัก ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา สวีเดน โดยผู้ลงทุนสถาบันให้ความสนใจในอุตสาหกรรมและธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเป็นหัวหอกขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจของภาครัฐทั้งระยะสั้นและระยะยาว”

       นายภากร กล่าวว่า  การจัดงาน Thailand Focus 2022 ครั้งนี้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก และชี้โอกาสใหม่ ในการลงทุนในตลาดทุนไทย  และปีนี้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติ(ฟันด์โฟลว์) ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง  โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน

168,257.65 ล้านบาท  ซึ่งม็ดเงินไหลกลับเข้ามาในเดือนส.ค.เพียงเดือนเดียว  50,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จากภาคการท่องเที่ยว การบริโภคและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง

รวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)กว่า 800 แห่ง รายได้เติบโตดี  ซึ่งครึ่งแรกปี 2565 รายได้เติบโต 40%  จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนกำไรหากรวมกำไรของกลุ่มธุรกิจพลังงานโตถึง 27% เนื่องจากลุ่มธุรกิจพลังงาน ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาพลังงานในตลาดโลกที่สูงขึ้น แต่ถ้าตัดกลุ่มพลังงานออกกำไรจะทรงตัว เพราะได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น 

" นอกจากเศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวสถานการณ์โควิด บจ.ยังสามารถปรับตัวให้เข้ากับโอกาสใหม่ ๆ และ สร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ให้เข้ากับกระแสนิวนอร์มอล ทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นน่าสนใจของนักลงทุนทั่วโลก "

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาเกิดธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจดิจิทัล และ New S-Curve เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนศักยภาพของธุรกิจไทย และ บ่งชี้ว่นักลงทุนให้ความสนใจธุรกิจขนาดเล็กในเครษฐกิจยุคใหม่มากขึ้น        

ทั้งนี้ในช่วงวิกฤติและความท้าทาย ภาคธุรกิจตระหนักว่าต้องมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมกับความยึดหยุ่น และคล่องแคล่วด้านการสื่อสารและพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อเตรียมพร้อมรับโอกาสและ ความทัาทายใหม่ๆในอนาคต ทั้งหมดนี้จะทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น และ เห็นโอกาสการลงทุนในประเทศไทย

“นักลงทุนต่างชาติ ไม่ได้สนใจว่า เราเป็นธุรกิจดังเดิมอีกต่อไป แต่มองเราเป็นธุรกิจเน้นการปรับตัว มีอุตสาหกรรมที่มีความเข้มเข็งและเป็นจุดแข็งในภูมิภาค”