ทูตนอร์เวย์พร้อมส่งคำค้านควบ"ทรู-ดีแทค"ให้รัฐบาล-เทเลนอร์พิจารณา

ทูตนอร์เวย์พร้อมส่งคำค้านควบ"ทรู-ดีแทค"ให้รัฐบาล-เทเลนอร์พิจารณา

กลุ่มพลเมืองเพื่อเสรีภาพในการสื่อสาร บุกสถานทูตนอร์เวย์ ค้านควบรวม "TRUE-DTAC" ขณะที่เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย พร้อมเป็นสื่อกลางส่งเรื่องให้รัฐบาลนอร์เวย์และเทเลนอร์พิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ส.ค.) กลุ่มพลเมืองเพื่อเสรีภาพในการสื่อสาร ได้เดินทางไปยังสถานเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือคัดค้าน และข้อเสนอควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ถึงนางแชสตี เริดส์มูน เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย

นางแชสตี เริดส์มูน เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ได้รับทราบถึงความเดือดร้อนและสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงจะนำเอาแถลงการณ์ของภาคประชาชนในครั้งนี้ ส่งเรื่องให้ทางเทเลนอร์ และรัฐบาล เนื่องจากเทเลนอร์ เป็นบริษัทใหญ่อันดับ 3 ในประเทศ โดยสถานทูตก็จะช่วยเป็นสื่อกลางส่งต่อแถลงการณ์นี้
 

สำหรับแถลงการณ์ของกลุ่มพลเมืองเพื่อเสรีภาพในการสื่อสาร ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่ง ในข้อเสนอควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC โดยเห็นว่า ข้อเสนอในการควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัท ขัดต่อ พ.ร.บ.โทรคมนาคม มาตรา 21 ที่บัญญัติว่า
"การประกอบกิจการโทรคมนาคม นอกจากต้องอยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทางการค้าแล้ว ให้คณะกรรมการกำหนดมาตรการเฉพาะตามลักษณะการประกอบกิจการ
โทรคมนาคม มิให้ผู้รับใบอนุญาตกระทำการอย่างใดอันเป็นการผูกขาด หรือลด หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการกิจการโทรคมนาคมในเรื่องดังต่อไปนี้ 1.การอุดหนุนการบริการ 2.การถือครองธุรกิจในบริการประเภทเดียวกัน 3.การใช้อำนาจทางการตลาดที่ไม่เป็นธรรม 4.พฤติกรรมกีดกันการแข่งขัน และ 5.การคุ้มครองผู้ประกอบการรายย่อย

ทั้งนี้การควบรวมกิจการระหว่างTRUE และ DTAC จะทำให้เหลือผู้ให้บริการกิจการโทรคมนาคมน้อยลง และจะทำให้เหลือผู้ให้บริการฯ หลักเพียง 2 รายเท่านั้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้บริโภคทั้งในแง่การพัฒนาคุณภาพบริการ การกำหนดราคา และเป็นอุปสรรค ต่อการพัฒนาและแข่งขัน ในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นประเด็นที่ประเทศไทย และนานาประเทศให้ความสำคัญในโลกยุคใหม่

ปัจจุบัน DTAC มีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับสัญญาณมือถืออยู่ที่ 19.6 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 20% ของหมายเลขทั้งหมด TRUE อยู่ที่ 32.2 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 34% ของหมายเลขทั้งหมดและ AIS อยู่ที่ 44.1 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 46% ของหมายเลขทั้งหมด จะเห็นได้ว่าหากการควบรวมเกิดขึ้นจะทำให้มีผู้ให้บริการรายใหญ่เหลือเพียง 2 ราย เพราะการควบรวมระหว่าง TRUEและ DTAC จะทำให้ทั้ง 2 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเกินกึ่งหนึ่ง และสามารถชี้นำตลาดได้ทั้งในเรื่องราคา และคุณภาพของการให้บริการ

นอกจากนี้ทางกลุ่มฯ มีความกังวลเพิ่มเติมในเรื่องเสรีภาพในการสื่อสารของประชาชน ที่ต้องไม่ถูกแทรกแซงโดยบริษัทเอกชนหรือรัฐ หากผู้ให้บริการกิจการโทรคมนาคมมีจำนวนน้อยลง ก็จะทำให้การแทรกแซง คุกคาม จำกัด และปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้เทคโนโลยีสปายแวร์ในการเข้าถึงข้อมูลในการสื่อสารของนักกิจกรรมและผู้ที่เห็นต่างจากรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต

บริษัทเอกชนเองก็มีความรับผิดชอบในการปกป้องสิทธิมนุษยชนตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs) ซึ่งในเสาหลักที่สองได้เน้นย้ำว่าบุคคลและองค์กรที่ประกอบธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทใดหรือขนาดใดก็ตาม ย่อมมีความรับผิดชอบที่จะเคารพสิทธิมนุษยชน (Respect)

ทั้งนี้ทางกลุ่มฯ ทราบดีว่าบริษัทเทเลนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ DTAC เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมาภิบาล และสิทธิมนุษยชน อย่างเช่นที่เทเลนอร์ให้ความเห็นไว้ว่าการสื่อสารโทรคมนาคมนั้น มีความสำคัญในการแลกเปลี่ยนสื่อสารความคิด และเป็นส่วนหนึ่งของเสรีภาพในการแสดงออก

รวมถึงสิทธิความเป็นส่วนตัว การรักษาจุดยืนในเรื่องนี้อาจเป็นไปได้ยากขึ้น หากเกิดการควบรวมกับบริษัทภายในประเทศที่มีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน และการรักษาความเป็นส่วนตัวไม่เท่ากับมาตรฐานของบริษัทเทเลนอร์

ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้เทเลนอร์ยุติข้อเสนอควบรวมกิจการระหว่างTRUE และ DTAC และขอเรียกร้องรัฐบาลนอร์เวย์พิจารณาว่าเสนอควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ หรือ DTAC ในครั้งนี้นั้นเป็นไปตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนหรือไม่

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์