SCBX สู่เทคคอมพานี ระทึกหุ้นใหม่ดีลซื้อ “บิทคับ”

SCBX สู่เทคคอมพานี  ระทึกหุ้นใหม่ดีลซื้อ “บิทคับ”

การเปลี่ยนแปลงจากธุรกิจธนาคารไปสู่เทคคอมพานี ของธนาคารคิดนอกกรอบ และปฏิวัติตัวเอง ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB เข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนที่จะเปลี่ยนจาก SCB ไปเป็น SCBX พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ รวมไปถึงการเข้าซื้อสตาร์ทอัพ “บิทคับ” Bitkub

           

ก่อนหน้านี้แม่ทัพใหญ่ SCB  “อาทิตย์ นันทวิทยา” ประกาศเปิดตัวยานแม่ SCBX  เพื่อหาโอกาสใหม่ๆ และลดข้อจำกัดในธุรกิจดั้งเดิม ผ่านการจัดโครงสร้างธุรกิจให้ธุรกิจธนาคารอยู่ภายใต้โฮลดิ้ง 

     

หลังจากผ่านมติผู้ถือหุ้นช่วงมี.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่กระบวนการแลกหุ้นจาก SCB เป็น SCBx และนำหุ้น SCBx เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แทนหุ้นของ SCB เพื่อเร่งขยายธุรกิจเชิงรุกเข้าสู่ธุรกิจการเงินที่มีศักยภาพสูง และธุรกิจแพลตฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ สู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค

          

กระบวนการแลกหุ้นในครั้งนี้ SCBx จะออก และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อแลกเปลี่ยนกับหุ้นสามัญ และหุ้นบุริมสิทธิของธนาคารในอัตรา 1 หุ้นสามัญของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX และ 1 หุ้นบุริมสิทธิของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX

           ะยะเวลาเปิดทำการซื้อหุ้น หรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์ เพื่อทำการแลกหุ้น ตั้งแต่ 2 มี.ค. ถึง  18 เม.ย. 2565  โดยมีการให้ยื่นเอกสารแลกหุ้นในช่วงวันที่ 8 เม.ย. 2565 ส่วนระยะเวลาที่เหลือผู้ที่เข้าไปลงทุน และถือหุ้นมีสิทธิในการแลกหุ้นได้จนถึง  11  เม.ย. 65  

          โดยระหว่างนั้นมีการเปลี่ยนแปลงชื่อหลักทรัพย์ จาก SCB เป็น SCBB ชั่วคราวจนถึงวันที่ 26 เม.ย. 2565 และหลังจากนั้นวันที่ 27 เม.ย. 2565 จะมีการซื้อขายหุ้น SCB เป็น SCBB และเปลี่ยนเป็น SCBX ในท้ายที่สุด  ซึ่งกระบวนการดังกล่าวถือว่ามีผลต่อราคาหุ้นทันที

            ด้วยราคาสุดท้ายที่มีการซื้อขายและนำมาแลก 115.50 บาท(11 เม.ย.)  ทำให้การซื้อขายจะลดลงไปทันทีจากจำนวนหุ้นที่มีตลาดนำไปแลกหุ้นใหม่ ส่งผลทำให้วันที่ 12 เม.ย. และ 18 เม.ย. 2565 มีความเสี่ยงหากเข้าลงทุนจะกลายเป็นหุ้นนอกตลาดทันทีและไม่สามารถทำการซื้อขายในตลาดหุ้นได้ ส่งผลทำให้มูลค่าการซื้อขายหุ้น (18 เม.ย.) อยู่ที่ 247 ล้านบาท จำนวนหุ้น 2.74 ล้านหุ้น  ปิดที่ราคา 89.50บาท 

SCBX สู่เทคคอมพานี  ระทึกหุ้นใหม่ดีลซื้อ “บิทคับ”

     อย่างไรก็ตามนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ได้ทำการแลกหุ้นเพื่อถือหุ้น SCBX ต้องรอคำนวณมูลค่าหุ้นใหม่ที่จะเข้ามาทำการซื้อขาย  ซึ่งนอกจากจะมองไปถึงการเข้าสู่เทคคอมพมานีเต็มตัวแล้ว ยังมีดีลใหญ่ที่มีผลต่อ SCBX ในอนาคต คือ การเข้าซื้อ บิทคับ ด้วยมูลค่า 17,650 ล้านบาท ซึ่งมีการทำการตรวจสอบกิจการภายใน 3 เดือน ท่ามกลางกระแสข่าววว่าดีลดังกล่าวอาจจะไม่เกิดขึ้น

      บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ (ประเทศไทย)  ประเมินเงื่อนไขในการเข้าซื้อไม่ได้มีผลต่อบริษัทใหม่ จากเกณฑ์ใหม่ข้อกำหนดของแบงก์ชาติระบุการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (DA) ไม่ให้เกิน 3% ของเงินกองทุน จึงทำให้มีการศึกษาเรื่องผลกระทบเงินกองทุนของธนาคาร ว่าจะกระทบเพียงใด และยังอยู่ในเกณฑ์หรือไม่

      จากการศึกษาส่วนประกอบการลงทุนใน บิทคับ จะประกอบด้วน มูลค่าทางบัญชีและส่วนค่านิยม (Goodwill)   ผลการศึกษาเงินกองทุนต่อสินทรัพย์สี่ยง (CET) ยังเป็นไปตำมเกณฑ์หากคำนวณค่านิยมของบิทคับไปหักออก จากเงินกองทุนขั้นที่ 1 พบว่า CET1/Teir 1จะลดลงเล็กน้อยจากระดับปกติที่ 17.60% และถือว่าสูงกว่าสัดส่วนขั้นต่ำที่แบงก์ชาติกำหนดไว้ที่ 8.00%  อยู่มาก ประเด็นนี้จึงผ่านไปได้

      สำหรับเกณฑ์กำไรลงทุน DA ไม่ให้เกิน 3% ของเงินกองทุนไม่เป็นปัญหา เนื่องจากเมื่อนำ มูลค่าทางบัญชีของ บิทคับ ข้างต้นมาเทียบกับเงินกองทุนทั้งหมดที่ราว 4.2 แสนล้านบาท ก็จะมีสัดส่วนที่ยังไม่เกิน 3%  

     ทั้งนี้จากการสิ้นสุดแลกหุ้นและเปลี่ยนชื่อ SCB เป็น SCBB  ชั่วคราวถึงจนถึง 26  เม.ย. 2565  เท่ากับหุ้นที่มีไม่มีสิทธิเทนเดอร์ ออฟเฟอร์เป็น SCBX  ซึ่งเบื้องต้น (tentative) หุ้น SCBX จะใช้ชื่อเดิมคือ SCB เข้าซื้อขาย ราววันที่ 27 เม.ย. 2565 ส่วน SCBB จะไม่อยู่ในตลาด ต้องออกจากตลาดหลักทรัพย์ (delist) ไป

     ส่วนคำแนะนำ ระยะนี้ราคาหุ้น SCB จะปรับลง เพราะจะเป็นหุ้นที่อยู่นอกตลาด  และไม่ควรซื้อแล้ว เพราะซื้อแล้วแลกเป็น SCBX ไม่ได้กลายเป็นอยู่นอกตลาด สำหรับนักลงทุนที่แลกหุ้นเสร็จเรียบร้อยมองว่าหลังเป็น SCBX จะมีข้อดีในระยะยาวคือ มีความยืดหยุ่นในการทำงานได้ดีและจะมีประสิทธิผลมากขึ้น

 

 

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์