BAFS ประมาณการ 1Q65F: จำนวนเที่ยวบินของประเทศไทยฟื้นตัวขึ้น

BAFS ประมาณการ 1Q65F: จำนวนเที่ยวบินของประเทศไทยฟื้นตัวขึ้น

เราคาดว่า BAFS จะขาดทุนสุทธิ 112 ล้านบาทใน 1Q65F (ดีขึ้น 41% YoY และ 50% QoQ) เนื่องจาก i) ปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น และ ii) มีรายได้เงินปันผลจากโรงไฟฟ้า solar ใหม่ในญี่ปุ่นสองโครงการกำลังการผลิตรวมตาม PPA 10MW

หลังจากที่เข้าไปซื้อกิจการเสร็จเรียบร้อยในเดือนกันยายน 2564 โดยเราคาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินของ BAFS จะเพิ่มขึ้น 45% YoY และ 21% QoQ เป็น 595 ล้านลิตร เนื่องจากจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) และสนามบินดอนเมือง (DMK) เพิ่มขึ้นตั้งแต่ประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการ lockdown และข้อจำกัดในการเดินทางเพื่อคุม COVID-19 ลงใน 1Q65F ดังนั้นเราจึงคาดว่ารายได้จากการเติมน้ำมันเครื่องบินจะเพิ่มขึ้น 17% QoQ เป็น 303 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ารายได้จากธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิงจะลดลงถึง 74% QoQ เหลือ 35 ล้านบาทหลังจากที่บริษัทขายสิทธิในการใช้งานระบบท่อส่งน้ำมันเก่าของ FPT (กรุงเทพ-บางปะอิน) ให้กับ Bangchak Corporation (BCP.BK/BCP TB)* ในขณะเดียวกันเราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นรวมของทั้งสองธุรกิจจะดีขึ้น QoQ จาก -2.5% เป็น 8.5% ใน 1Q65F เนื่องจาก i) ปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้นและ ii) มีการใช้งานท่อส่งน้ำมันส่วนต่อขยายในภาคเหนือของ FPT (บางปะอิน - พิจิตร - ลำปาง) เพิ่มขึ้น

 

 

ปรับลดประมาณการปี 2565/66F

เราปรับลดประมาณการปี 2565F จากเดิมที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 123 ล้านบาท เป็นขาดทุนสุทธิ 182 ล้านบาท และปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566F ลง 24% เหลือ 843 ล้านบาท เนื่องจาก i) เราปรับลดประมาณการปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินลง และ ii) เราปรับลดประมาณการกำไรจากโครงการท่อส่งน้ำมันของ FPT (กรุงเทพ-บางปะอิน) โดยเราปรับลดปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินของ BAFS ในปีนี้ลง 5% เหลือ 3,241 ล้านลิตร และในปีหน้าลง 9% เหลือ 5,208 ล้านลิตร หลังจากที่นักวิเคราะห์กลุ่มท่องเที่ยวของ KGI ปรับลดประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2565F ลง 33% เหลือ 8.0 ล้านคน และปี 2566F ลง 29% เหลือ 25.0 ล้านคน นอกจากนี้ เรายังคาดว่ากำไรจากโครงการท่อส่งน้ำมัน (กรุงเทพ-บางปะอิน) ของ FPT จะลดลงจากประมาณ 100-120 ล้านบาท/ปี เหลือเพียง 80 ล้านบาท/ปี ในสถานการณ์ปกติ หลังจากมีการขายสิทธิการใช้งานให้กับ BCP คิดเป็นมูลค่ารวม 1.6 พันล้านบาท สำหรับระยะเวลา 20 ปี โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ถึง ธันวาคม 2584 ซึ่งจะส่งผลให้รายได้รวมของ BAFS ในปี 2565F ลดลง 26% เหลือ 2.6 พันล้านบาท และปี 2566F ลดลง 23% เหลือ 3.2 พันล้านบาท

 

 

 

Valuation & Action

เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย SoTP ปี 2565 เป็น 36.50 บาท จากเดิม 33.00 บาท เนื่องจากเราปรับเพิ่มมูลค่าธุรกิจการเติมน้ำมันเครื่องบินและการขนส่งเชื้อเพลิงเป็น 32.50 บาท โดยอิงจาก P/E เท่าเดิมที่ 22.0x แต่ใช้ประมาณการ EPS ใหม่ของปี 2567 แล้วหักส่วนลดกลับมาสองปีโดยใช้ WACC ที่ 5.8% ในขณะเดียวกันเรายังคงประเมินมูลค่าธุรกิจโรงไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า solar เก้าโรงกำลังการผลิตรวมตาม P PA 45MW โดยใช้วิธี DCF ที่ 4.00 บาทเท่าเดิม ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ BAFS

 

Risks

ความผันผวนของอุปสงค์น้ำมันเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง และการขนส่งน้ำมันหลายประเภทผ่านท่อส่งน้ำมันของบริษัท ตลอดจนสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่สูงถึง 2.9x ในปี 2564