โตโยต้าพร้อมลงนามร่วมมาตรการหนุนอีวีหลังสงกรานต์นี้

โตโยต้าพร้อมลงนามร่วมมาตรการหนุนอีวีหลังสงกรานต์นี้

คลังเผย โตโยต้าเตรียมลงนามร่วมมาตรการอุดหนุนอีวีกับสรรพสามิตหลังสงกรานต์นี้ ขณะที่ 3 ค่ายรถยนต์น้องใหม่จากจีน เนต้า จีลี่ และฉางอัน เล็งลงนามเร็วๆนี้ ค่ายฮอนด้าน่าจะพร้อมร่วมมาตรการในปีหน้า ขณะที่ “สุพัฒนพงษ์”เดินสายดึงรถค่ายญี่ปุ่นร่วมมาตรการ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ขณะนี้ ค่ายรถยนต์โตโยต้า ได้แสดงความสนใจขอเข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)ของรัฐบาลมาที่กรมสรรพสามิตแล้ว คาดว่า จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันหลังสงกรานต์นี้  จึงถือเป็นค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นค่ายแรกที่เข้าร่วมกับมาตรการของรัฐ ทั้งนี้ รัฐบาลจะพยายามผลักดันให้ค่ายรถญี่ปุ่นหลายๆ ค่ายเข้ามาร่วมมาตรการเรื่องการสนับสนุนรถอีวีในประเทศให้มากขึ้น

"การที่โตโยต้าเข้าร่วมแพคเกจส่งเสริมการใช้รถอีวี ถือเป็นเรื่องที่จะกระตุ้นตลาดรถอีวีในประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นค่ายรถรายใหญ่ ซึ่งในตลาดยังมีความต้องการรถค่ายญี่ปุ่นอยู่มาก และจะทำให้ค่ายรถอื่นๆ ตื่นตัวมากขึ้น ส่งผลให้มีค่ายรถเข้ามาแข่งขันในตลาดอีวีเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนจะเห็นราคารถยนต์ลดลงมาเท่าไหร่นั้น จะต้องรอติดตาม"

นอกจากนี้ ยังมีค่ายรถยนต์น้องใหม่จากจีน 3 ค่าย ได้แจ้งความสนใจมาที่กรมสรรพสามิตเพื่อเข้าร่วมมาตรการส่งเสริมใช้อีวี ได้แก่ ค่ายเนต้า จีลี่ และฉางอัน ซึ่งขณะนี้กำลังหารือในรายละเอียดร่วมกันอยู่ ยังไม่สรุปเรื่องการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ส่วนค่ายรถญี่ปุ่นอย่างฮอนด้า ก็มีความสนใจ แต่ในกระบวนการผลิต และในรายละเอียดอื่นๆ อาจจะดำเนินการไม่ทัน โดยอาจจะเข้าร่วมแพคเกจได้ในปีหน้า

ด้านนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ช่วงต้นเดือนพ.ค.65 คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน จะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือกับผู้ประกอบการรถยนต์ในญี่ปุ่นทุกค่าย เพื่อชี้แจงให้ทราบถึงแนวนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันและสนับสนุนการลงทุนรถอีวีในประเทศไทย

“การดำเนินการดังกล่าว ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่ารัฐบาลต้องการขับเคลื่อนนโยบายการใช้รถอีวีอย่างเต็มที่ และอยากให้ทุกค่ายรถอีวีเข้ามาร่วมมาตรการส่งเสริมการใช้รถอีวีในประเทศไทยด้วย โดยแพ็คเกจมาตรการเปิดกว้างให้กับทุกค่ายรถยนต์”

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตเริ่มเห็นสัญญาณการหันมาใช้รถอีวีเพิ่มมากขึ้น หลังจากบริษัท เกรทวอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัทเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งเริ่มจำหน่ายในงานมอเตอร์โชว์ที่จบลงเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยพบว่า มียอดจองรถอีวีเข้ามากว่า 3,000 คัน คิดเป็น 10% จากยอดจองรถทั้งหมดภายในงาน 30,000 คัน ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมาก

"ยอดจองรถดังกล่าว ผู้ประกอบการจะสามารถมาเคลมเพื่อรับเงินอุดหนุน ตั้งแต่ 70,000-150,000 บาท จากเราได้ จะต้องมีการจดทะเบียนซื้อขายจริงเกิดขึ้นก่อน แล้วนำหลักฐานมายื่น เพื่อรับเงินอุดหนุนจากกรม โดยมองว่าการซื้อขายรถอีวีเริ่มขึ้นแล้ว และราคาอีวีก็ลดลงมาจริง ซึ่งดีมานด์ที่ต้องการใช้รถอีวีก็เริ่มเห็นเข้ามามากขึ้น กรมยืนยันว่ารัฐบาลมีเงินอุดหนุนราคาตามที่ประกาศไว้แน่นอน”

นอกจากนี้ ยังมีค่ายรถน้องใหม่อย่างเนต้า ที่แสดงความสนใจเข้าร่วมมาตรการ โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างหารือกับบริษัทแม่ เพื่อขอเข้าร่วมแพคเกจมาตรการตามเงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตกำหนด โดยเบื้องต้นต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ในปีที่ 3 คืนในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 หรือเท่ากับจำนวนที่นำเข้ามาขายในช่วง 2 ปีแรก ส่วนปีที่ 4 จะต้องผลิตคืนในอัตราส่วน 1 ต่อ 1.5 หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขจะมีบทลงโทษ ตามเงื่อนไข ในเอ็มโอยู ตามที่ได้มีการเซ็นสัญญาไว้ เช่น เบี้ยปรับเงินเพิ่มจากภาษีอากรขาเข้า และภาษีสรรพสามิต

ส่วนกรณีการลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถอีวี เพื่อสนับสนุนให้รถอีวีมีราคาถูกลง จาก 8% เหลือ 2% ซึ่งยังไม่ได้มีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษานั้น กรณีดังกล่าวจะไม่มีปัญหา เนื่องจาก กระบวนการจะทันในการจำหน่ายรถอีวีล็อตใหม่แน่นอน หรือหากไม่ทัน ก็สามารถระบุในประกาศให้มีผลย้อนหลังได้ ฉะนั้น ผู้ที่มีความต้องการซื้อรถอีวี ไม่ต้องกังวลในเรื่องภาษีดังกล่าว จะได้รับสิทธิส่วนลดภาษีสรรพสามิตแน่นอน