OISHI ทุ่ม 450 ล้าน รุกเปิดสาขาร้านอาหาร

OISHI ทุ่ม 450 ล้าน รุกเปิดสาขาร้านอาหาร

OISHI รุกโตต่างประเทศ ส่งเครื่องดื่มโออิชิ กรีนทีลุยลาว กัมพูชา เมียนมา เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ เปิดแผนธุรกิจปี 65 เร่งขยายสาขารีแบรนด์ธุรกิจต่อเนื่อง หวังขยายฐานลูกค้า เพิ่มเติบโตแข็งแกร่ง ทุ่มงบลงทุนใหม่ปีนี้450 ล้าน ขยายสาขาร้านอาหาร

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI  เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ธุรกิจส่งออกเครื่องดื่มไปยังประเทศ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา มีการเติบโตสูงถึง 10% สะท้อนว่าตลาดยังมีความต้องการ และการเติบโตได้ต่อเนื่อง         

สำหรับปีนี้บริษัทเน้นส่งออกเครื่องดื่มโออิชิ กรีนที ไปต่างประเทศ และมีแผนการเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากเห็นโอกาสใหม่ในการสร้างการเติบโตในอนาคต  ดังนั้นเชื่อว่าตลาดเหล่านี้จะเป็นตลาดสำคัญที่หนุนการเติบโตให้กับบริษัทต่อเนื่องในระยะข้างหน้า

สำหรับปี 2565 โออิชิมีแผนขยายตลาดต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจที่เกี่ยวกับเครื่องดื่ม และอาหาร โดยเฉพาะการขยายธุรกิจผ่านการขยายสาขา เพิ่มจุดให้บริการ เพื่อเพิ่มการเติบโตให้กับธุรกิจ โดยคาดว่าปีนี้จะใช้วบลงทุนเพื่อขขยายสาขาต่างๆ ราว 450 ล้านบาท หากเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีการลงทุนอยู่ที่ 100ล้านบาท

โดยการลงทุนขยายสาขาในเบื้องต้น ทั้งขยายธุรกิจอาหาร ผ่านร้านอาหาร Shabushi ที่คาดว่าจะเพิ่มเปิดในปีนี้อีก 10-15 สาขาในปีนี้ จากไตรมาสแรกที่มีสาขารวมอยู่ที่ 258 สาขา

รวมถึงการเปิดจุดให้บริการขายอาหารญี่ปุ่น Oishi to Go เพิ่มต่อเนื่องในปีนี้ จากปัจจุบันที่เปิดทดลองไปแล้ว 8สาขา รวมถึง Oishi Kitchen และขายเครื่องดื่มชาเชียวโออิชิ แบบรีฟิลในร้านเคเอฟซี ที่บริหารโดย บริษัท เดอะ  คิวเอสอาร์ออฟ เอเชีย จำกัด ไปแล้ว 51 สาขา  ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2565 โดยการลงทุนขยายสาขาทั้งหมดในปีนี้จะอยู่ภายใต้โมเดลที่ใช้ทุนน้อยที่สุด โดยหวังว่าจะมีการขยายฐานลูกค้าให้กับแบรนด์โออิชิต่อเนื่อง จากการแตกไลน์อาหารไปพื้นที่ใหม่ๆมากขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้และการเข้าถึงลูกค้า และตอบโจทย์คอนซูเมอร์เทรนด์ในอนาคตได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตามสำหรับการดำเนินธุรกิจในช่วง 4เดือนที่ผ่านมา จากผลประกอบการที่เติบโตได้ต่อเนื่อง สะท้อนว่าเราต้องการเป็นลีดเดอร์ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง และต้องการส่งมอบคุณภาพที่ดีที่สุดให้ลูกค้าต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปใน 4เทรนด์ ทั้งการเน้นอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น และการใช้ดิจิทัล

โดยเฉพาะในธุรกิจเครื่องดื่ม ที่วันนี้บริษัทพยายามสร้างฐานลูกค้าให้มากขึ้น ขณะเดียวกันลูกค้าเดิม ก็จะสร้างฐานลูกค้าให้เป็นฐานที่แข็งแกร่งมากขึ้น โดยบริษัทจะพยายามแตกไลน์ธุรกิจไปเจาะกลุ่มที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม จากการเติบโตของธุรกิจที่ผ่านมาในส่วนของธุรกิจเครื่องดื่มถือว่าบริษัทยังคงความเป็นลีดเดอร์ของตลาด เกือบ 50%  และยังมีแก็ปพอสมควรหากเทียบกับคู่แข่ง ดังนั้นกลยุทธ์ในระยะข้างหน้าเรายังคงรักษามาร์เก็ตแชร์ของเราให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง