"สงกรานต์" ฝืดสะพัด 1.1 หมื่นล้าน เศรษฐกิจไม่ฟื้นฉุดรายได้ท่องเที่ยว

"สงกรานต์" ฝืดสะพัด 1.1 หมื่นล้าน เศรษฐกิจไม่ฟื้นฉุดรายได้ท่องเที่ยว

“ททท.” ชี้เศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้น ฉุดรายได้ท่องเที่ยว คาด “สงกรานต์ 65” สะพัด 1.1 หมื่นล้าน แม้บรรยากาศคึกคักขึ้นแต่ไม่เทียบเท่าช่วงปกติก่อนโควิดระบาด

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 13-17 เม.ย. คาดมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางภายในประเทศ 3.34 ล้านคน-ครั้ง ใช้จ่ายหมุนเวียน 11,000 ล้านบาท มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 41% แม้บรรยากาศโดยรวมจะมีความคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว พบการติดเชื้อต่อเนื่อง จึงทำให้รายได้การท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ยังไม่กลับสู่ภาวะก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19

“พฤติกรรมนักท่องเที่ยวยังเลือกเดินทางระยะใกล้ นิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และปรับลดค่าใช้จ่ายทั้งในการเดินทางท่องเที่ยวและการซื้อของฝาก”

โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงสุดที่ 55% ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 754,380 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1,300 ล้านบาท ภาคกลางมีอัตราการเข้าพัก 53% นักท่องเที่ยว 735,166 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1,470 ล้านบาท ภาคตะวันออกมีอัตราการเข้าพัก 41% นักท่องเที่ยว 560,980 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 2,300 ล้านบาท

ภาคใต้มีอัตราการเข้าพัก 39% นักท่องเที่ยว 445,399 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 2,780 ล้านบาท ภาคเหนือมีอัตราการเข้าพัก 37% นักท่องเที่ยว 385,468 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1,350 ล้านบาท และกรุงเทพฯ มีอัตราการเข้าพัก 27% นักท่องเที่ยว 458,907 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 1,800 ล้านบาท

สำหรับพื้นที่จัดงานเทศกาลสงกรานต์ของ ททท. ภายใต้แนวคิดเทศกาล “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” ประจำปี 2565 เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว 3 พื้นที่ ได้แก่ “สงกรานต์วิถีใหม่ แต่งไทยเที่ยววัด” กรุงเทพฯ, สงกรานต์ มิวสิค เฮอริเทจ เฟสติวัล 2022 ใน จ.สงขลา และ จ.พระนครศรีอยุธยา คาดมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่ 568,580 คน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียน 2,110 ล้านบาท โดยคาดว่ากรุงเทพฯและสงขลาจะมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยต่ำกว่า 30% เพราะทั้ง 2 พื้นที่ การเดินทางส่วนใหญ่มาจากคนในจังหวัดใกล้เคียง ทำให้มีนักท่องเที่ยวพักค้างคืนน้อย

ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 พบว่า ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่คนไทยนิยมขับรถเที่ยว เช่น ชลบุรี นครราชสีมา กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต ยังได้รับความสนใจ เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลสวยงาม เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน อีกทั้งสายการบินภายในประเทศและผู้ประกอบการโรงแรมที่พักจัดโปรโมชั่นราคาที่คนไทยเอื้อมถึง

อย่างไรก็ตาม จังหวัดที่มีสัดส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวพักค้างเกินกว่า 60% ในช่วงวันหยุดเทศกาลนี้ ได้แก่ ชลบุรี นครราชสีมา ภูเก็ต กาญจนบุรี อุดรธานี ประจวบคีรีขันธ์ โดยแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกกล่าวถึงพร้อมกับคำว่า “สงกรานต์” มากที่สุดในสื่อออนไลน์ ได้แก่ หาดพัทยา วัดพระธาตุพนมวรวิหาร วนอุทยานปราณบุรี เกาะสมุย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ในช่วงวันหยุดยาวคนไทยยังคงวางแผนจะออกเดินทางท่องเที่ยว และเลือกที่จะไปแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้ และแหล่งท่องเที่ยวศาสนาเพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามประเพณี