แกว่งตัวกรอบแคบ (วันที่ 5 เมษายน 2565)

แกว่งตัวกรอบแคบ (วันที่ 5 เมษายน 2565)

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในช่วงแคบ หุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดี เป็นหน้าหุ้นขนาดกลาง-เล็ก หลังจากดัชนีขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,700 จุด แต่ยังไม่มีปัจจัยบวกแรงๆ ที่จะทำให้หุ้นขนาดใหญ่ใน SET50, SET100 ปรับตัวขึ้นมากนัก

จึงเป็นการเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็ก ประกอบกับสัปดาห์นี้มีวันหยุดกลางสัปดาห์ อาจส่งผลให้วอลุ่มการซื้อ-ขายเบาบางลง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,702.93 จุด +1.62 จุด +0.10% มูลค่าการซื้อขาย 65,890 ลบ. ต่างชาติ +730.26 ลบ. TFEX +588 สัญญา ตราสารหนี้ +2,135.06 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 103.61 จุด +0.30% ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นทวิตเตอร์ที่ทะยานขึ้นกว่า 27% อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งผลกระทบจากการที่รัสเซียถูกคว่ำบาตรหลังใช้กำลังทหารโจมตียูเครน
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 4.01 ดอลลาร์ +4% ปิดที่ 103.28 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลว่าตลาดน้ำมันโลกอาจเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้น หากสหรัฐและยุโรปใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในระดับที่รุนแรงจากการที่ทหารรัสเซียสังหารหมู่ชาวยูเครนในพื้นที่ใกล้กรุงเคียฟ
+ โรช (Roche) บริษัทยาสัญชาติสวิส เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐรับพิจารณายาแอคเท็มรา (Actemra) หรือ โรแอคเท็มรา (RoActemra) ในเบื้องต้นแล้ว ยานี้ใช้รักษาผู้ติดเชื้อโควิด–19 ในวัยผู้ใหญ่ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 21,088 ราย ATK 10,884 ราย มีผู้เสียชีวิต 91 ราย รักษาหาย 27,519 ราย

 

ปัจจัยลบ 

- สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.5% ในเดือนก.พ. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ คำสั่งซื้อภาคโรงงานได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนวัตถุดิบ และการที่ภาคธุรกิจเพิ่มการใช้จ่ายในภาคบริการ
 

 

- สหรัฐ สหภาพยุโรป และเยอรมนีประกาศว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียเพิ่มเติม หลังมีรายงานข่าวว่าทหารรัสเซียสังหารหมู่ประชาชนชาวยูเครนในเมือง บูกาใกล้กรุงเคียฟ
- กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า ภาพ ฟุตเทจของพลเรือนชาวยูเครนที่เสียชีวิตจากการสังหารหมู่ในเมืองบูกาที่ถูกปล่อยออกมา มีสหรัฐเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง เพื่อโจมตีปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย
- รัฐบาลสหรัฐประกาศเตือนว่า กองกำลังรัสเซียจะเพิ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครนอีกครั้ง หลังจากที่การโจมตีภาคพื้นดินหยุดชะงักเป็นเวลาหลายสัปดาห์
- อดีตผู้ว่าการ ธปท.กังวลฐานะการเงินประเทศ รัฐใช้เงินไม่มีเป้าหมายชัด ทำขาดดุลคลังยาวนาน-หนี้สูง ระบุนโยบายการเงินยังต้องช่วยแก้ปัญหา และกระตุ้นเศรษฐกิจ
- FETCO ลดคาดการณ์ GDP ปี 2565 เหลือ 3.09% จากที่มีปัจจัยเสี่ยงจากโอมิครอน-สงครามราคาพลังงาน แต่คงเป้าดัชนีสูงสุดปีนี้ 1,800 จุดเชื่อฟันโฟลว์ไหลเข้ากลับไทย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ประกอบกับปริมาณการซื้อขายที่คาดว่าจะชะลอตัวเนื่องจากติดวัดหยุดยาวช่วงเทศกาล คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,690-1,710 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
• กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทาให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
• จ่อปลดล็อกเข้าประเทศทุกเงื่อนไข 1 มิ.ย.นี้ เลิก ThailandPass/Test&Go : AOT ERW CENTEL MINT AWC
• นโยบายส่งเสริมรถ EV : EA NEX GPSC BCPG

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                      PTTEP (Bloomberg Consensus 160)

•คาดผลประกอบการ 1Q65 อยู่ที่ 1.6 หมื่นลบ. +51%QoQ และ 39%YoY โดยได้แรงหนุนจากวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น 1.6%QoQ สู่ 425,000-430,000 บาร์เรลต่อวัน โดยได้แรงหนุนจากแหล่งอาทิตย์ที่เพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่ราคาจำหน่ายปรับตัวขึ้นจาก ไตรมาสก่อนตามราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวขึ้นสู่ 93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวขึ้นสู่ 6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านต้นทุนการผลิตคาดว่าจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ 28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากค่าภาคหลวงเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและอนุพันธ์ราว 6.0-7.0 พันลบ.

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการตั้งแต่ 1Q65 เป็นต้นไปเนื่องจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูงอีกทั้งบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 23%YTD ได้ตอบสนองผลบวกดังกล่าวไปแล้ว เราจึงแนะนำ “ซื้อเมื่อย่อตัว”

 

หุ้นมีข่าว

(+) NEX - BYD (Bloomberg Consensus 25.00 , - บาท) NEX รับมอบเงินมัดจำรถจาก BYD หลังได้ใบอนุญาตเดินรถประจำทาง 71 เส้นทาง ทยอยส่งมอบรถปีนี้ 800 คัน มูลค่ารวมกว่า 5.6 พันล้านบาท ขณะที่กลุ่มสมาร์ทบัสจ่อซื้ออีกกว่าพันคัน ดีลลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง ลุ้นออเดอร์รถบรรทุกไฟฟ้าทั่วประเทศนับหมื่นคันสรุปมิถุนายนนี้ เล็งเพิ่มผลิตแตะ 5 หมื่นคัน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IVL (Bloomberg Consensus 60.00 บาท) ปิดดีลเข้าซื้อกิจการ "Oxiteno" มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมรับรู้รายได้ทันที คาดช่วยลดค่าใช้จ่าย 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการปรับรูปแบบการดำเนินงาน หนุนธุรกิจ IOD หวังเพิ่ม EBITDA ขึ้นสองเท่าในทุกๆ 5 ปี ขณะที่เตรียมออกหุ้นกู้ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ขยายลงทุนเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DOD (Bloomberg Consensus - บาท) เริ่มทยอยส่งมอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารสกัดกัญชง CBD - Hemp Seed Oil ให้กลุ่มลูกค้าเกือบ 40 ราย ในเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป มั่นใจดันรายได้ทั้งปีโต 20% ตามเป้า ขณะที่ SHT ส่งซิกเตรียมขายวัตถุดิบสารสาคัญ CBD ให้ผู้ประกอบการ ล่าสุดเตรียมเซ็นสัญญาพันธมิตรต่างประเทศอีก 2 ราย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) B (Bloomberg Consensus - บาท) เดินหน้าแผนลงทุนเต็มสูบ ได้ฤกษ์ขุดคริปโทเฟสแรกภายในสัปดาห์นี้เกือบ 100 เครื่อง จากเป้าหมาย 2,200 เครื่อง ส่วนธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบได้ต่อสัญญา จำหน่ายน้ำดิบกับซุปเปอร์ วอเตอร์ 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ด้านธุรกิจขนส่ง ลุยขยายฐานลูกค้าส่งออกรายใหญ่ พร้อมซื้อรถหัวลากเพิ่ม 29 คัน รวมเป็น 66 คัน รองรับการเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)