ยังขาดปัจจัยใหม่หนุน (วันที่ 4 เมษายน 2565)

ยังขาดปัจจัยใหม่หนุน (วันที่ 4 เมษายน 2565)

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีลบอ่อนๆ มีแรงซื้อเข้ามาช่วงบ่าย ทำให้บวกราว 4-5 จุด ดัชนียืนเหนือ 1,700 จุดได้ตอนปิดตลาด ปัจจัยกดดันมาจาก สหรัฐรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.พ. สูงสุดในรอบ 40 ปี

ส่วนจีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนมี.ค. ร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี หน้าหุ้นที่ขึ้นแรงส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,701.31 จุด +6.07 จุด +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 68,941 ลบ. ต่างชาติ +1,875.12 ลบ. TFEX +1,865 สัญญาตราสารหนี้ +4,618.42 ลบ.

 

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 139.92 จุด +0.40% หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือนมี.ค.บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ตอกย้ำคาดการณ์ที่ว่า FED จะดำเนินการในเชิงรุกมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
+ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ในเดือนก.พ. ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ส.ค. 2564 และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นและตัวเลขในเดือนก่อนหน้า ค่าดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
+ กองทัพสหรัฐยกเลิกการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ชนิดมินิทแมน ทรี (Minuteman III) ที่ได้เลื่อนการทดสอบไปแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อลดความตึงเครียดด้านนิวเคลียร์กับรัสเซียระหว่างที่ยังคงมีการทำสงครามอยู่ในยูเครน
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 24,892 ราย ATK 15,972 ราย มีผู้เสียชีวิต 97 ราย รักษาหาย 27,254 ราย

 

ปัจจัยลบ  

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.01 ดอลลาร์ -1% ปิดที่ 99.27 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี หลังรัฐบาลสหรัฐประกาศระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลงต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 73.3% ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค.

 

- สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าคาดที่ 490,000 ตำแหน่ง
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.ของจีนลดลงสู่ระดับ 48.1 จากระดับ 50.4 ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PMI เดือนมี.ค.หดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563
- มอร์แกน สแตนลีย์ปรับลดคาดการณ์ GDP จีนในปี 2565 ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปเตือนว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเผชิญกับความเสี่ยงใน 2Q65 เนื่องจากรัฐบาลประกาศใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19
- จีนคาดปริมาณการเดินทางด้วยรถยนต์ในช่วงวันหยุดเทศกาลเชงเม้งปีนี้จะลดลงราว 20% และคาดว่าการเดินทางทางอากาศจะลดลงถึง 55% เนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 รวมทั้งการที่รัฐบาลใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง
- เจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์ของสหรัฐและเกาหลีใต้กล่าวว่า มีสัญญาณบ่งชี้เพิ่มขึ้นว่าอีกไม่นานเกาหลีเหนืออาจทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2560 เพื่อยกระดับคลังแสง
- WHO เปิดเผยว่า XE ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยตัวใหม่ล่าสุดของ โอมิครอนดูเหมือนว่าจะสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่า BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนเช่นกัน อยู่ราว 10%
- รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าจัดเก็บภาษีที่ดินตั้งแต่เดือนเม.ย.65 จากก่อนหน้านี้จัดเก็บเพียง 10% เพื่อช่วยลดภาระผู้เสียภาษี

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงเป็นผลดีต่อต้นทุนของบริษัทจดทะเบียน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,690-1,710 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
 

 

 

 

 

 

 

• กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
• จ่อปลดล็อกเข้าประเทศทุกเงื่อนไข 1 มิ.ย.นี้ เลิก ThailandPass/Test&Go : AOT ERW CENTEL MINT AWC
• นโยบายส่งเสริมรถ EV : EA NEX GPSC BCPG

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                         SMD <ซื้อ> ราคาเหมาะสม 20.80 บาท

•ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 65 เติบโต 13%YoY สู่ 1.8 พันลบ. โดยได้แรงหนุนจากงบของภาครัฐอนุมัติงบราว 5 พันลบ.เพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วย COVID-19 การขายชุดตรวจ ATK ที่เร่งตัวขึ้นใน 1Q65 และการขายเครื่อง AED ให้แก่ตึกที่สูงกว่า 8 ชั้น ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นจาก 4Q64 ที่ 28.5% เนื่องจากเกิดการประหยัดจากขนาดในการสั่งซื้อ ATK เพิ่มขึ้นช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น

•ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 4Q64 เนื่องจากใน 1Q65 ต้นทุนชุดตรวจ ATK ลดลงจากคำสั่งซื้อปริมาณเพิ่มขึ้น อีกทั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ช่วยหนุนยอดขายของชุดตรวจ ATK ให้เติบโต (4Q64 ยอดขาย 90 ลบ.) เราจึงแนะนำ ซื้อ

 

หุ้นมีข่าว

(+) ASW (Bloomberg Consensus - บาท) สุดฮอตประเดิมผลงานไตรมาสแรกทำยอดขายพรีเซล 3,250 ล้านบาท คิดเป็น 33% จากเป้าหมายทั้งปีหมื่นล้านบาท กลยุทธ์ตลาดแกร่ง เดินหน้าเปิด 3 โครงการใหม่ไตรมาส 2 ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมบนทำเลทอง รวมมูลค่า 3,180 ล้านบาท ทั้งปีเปิด 7 โครงการ 12,400 ล้านบาท มั่นใจหนุนยอดขายสร้างสถิติใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DITTO (Bloomberg Consensus 39.17 บาท) เดินเกมเจาะฐานภาครัฐ ชี้บริการจัดเก็บข้อมูลดีมานด์ล้น คาดเริ่มไตรมาส 2/2565 นี้ พบหลายองค์กรต้องการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ พร้อมโดดรับอานิสงส์เต็มที่ ส่งซิกรายได้ปี 2565 โต 15-29% กอดงานแน่น 2 พันล้านบาท ลุยชิงงานเติมพอร์ตอีกเพียบ (ที่มา ทันหุ้น)
 

(+) ITEL (Bloomberg Consensus 7.25 บาท) เซ็นสัญญากับ Amazon Web Services (AWS) เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 65 จ่อย้ายเข้ามาใช้บริการภายในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ พร้อมซุ่มเจรจา “อาลีบาบา” รวมทั้งลูกค้าโซเชียลมีเดีย-เสิร์ชเอนจิน-OTT จากจีน ยุโรป และสหรัฐ คาดใช้เวลาปิดดีลอีก 4-6 เดือน (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SIS (Bloomberg Consensus 47.00 บาท) “เอสไอเอส” คาดรายได้ปีนี้โตกว่าปีก่อนที่ทำได้ 32,425 ล้านบาท ชูรายได้ Cloud Services โต 3 เท่า คุ้มทุนปีนี้ เริ่มมีกำไรปีหน้า และสินค้าเพิ่มมูลค่าโตต่อเนื่อง แย้มรายได้ไตรมาส 1/65 ดีกว่าช่วงไตรมาส 1/64 แม้สินค้าสำหรับผู้บริโภคอ่อนตัวเล็กน้อย (ที่มา ข่าวหุ้น)