สหกรณ์หนุนปลูกข้าวโพดหลังนาดันกำไรสูงถึง 4,170 บาทต่อไร่

สหกรณ์หนุนปลูกข้าวโพดหลังนาดันกำไรสูงถึง 4,170 บาทต่อไร่

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ขยายผลสำเร็จข้าวโพดหลังนา ทำกำไรสูงกว่าข้าวนาปรังกว่า 3 เท่าแตะ 4,170 บาทต่อไร่ ขณะสงครามจะดันราคาเกิน 10 บาทต่อกก. จูงใจเกษตรกรปลูกนอกฤดู

นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า โครงการสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังนาได้ผลเป็นที่น่าพอใจโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ที่สหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด ต.บ้านหม้อ อ.พิชัย  จ.อุตรดิตถ์  ได้ลงมือปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวนาปรังมาเป็นข้าวโพดหลังนา สามารถสร้างรายได้มากกว่าการปลูกข้าวถึง 3 เท่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 2 ปี

สหกรณ์ยังคงเดินหน้าส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาอย่างต่อเนื่อง เดิมเกษตรกรปลูกข้าวได้กำไร                1,200 บาทต่อไร่ เมื่อเปลี่ยนมาปลูกข้าวโพดทำให้ได้กำไรเพิ่มเป็น 4,170 บาทต่อไร่

สหกรณ์หนุนปลูกข้าวโพดหลังนาดันกำไรสูงถึง 4,170 บาทต่อไร่

 กรมฯจึงได้ส่งเสริมให้มีการขยายผล  ปัจจุบันมีสหกรณ์หลายแห่งมองข้าวโพดเป็นพืชทางเลือกใหม่  จึงมีสมาชิกสหกรณ์หันมาปลูกข้าวโพดในฤดูแล้งเพิ่มมากขึ้น เฉพาะที่อุตรดิตถ์จาก 2,300 ไร่ เพิ่มเป็น 10,130 ไร่

ประกอบกับสถานการณ์สงครามทั้งยูเครนและเมียนมาร์กระทบต่อการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น จึงเชื่อว่าจะจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวโพดเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

            “ เกษตรกรที่ปรับจากการปลูกข้าวนาปรังมาปลูกข้าวโพดหลังนา แม้จะไม่มากหากเปรียบเทียบกับความต้องการ                    ในประเทศที่มีประมาณ  8  ล้านตัน ประเทศไทยผลิตได้เพียง  4-5 ล้านตัน ทำให้ข้าวโพดฤดูแล้งสามารถทำรายได้ที่ดีเปรียบเทียบต่อไร่ระหว่างข้าวกับข้าวโพด

อย่างไรก็ตามขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ประเมินว่าจากสถานการณ์สงครามที่ยูเครนกระทบต่อการส่งออกพืชทดแทน ได้แก่ ข้าวสาลีและที่เมียนมาร์กระทบต่อการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้ในประเทศ  ขาดแคลนกว่า 3 ล้านตัน ส่งผลให้ราคาข้าวโพดสูงขึ้น เช่นปลายปีที่ผ่านมาราคาขึ้นไปถึง 8-9 บาทต่อกก.ระดับความชื้น 15 % จากปัญหาเมียนมาร์ เมื่อประกอบกับปัญหาสงครามยูเครนก็คาดว่าจะดึงข้าวโพดขึ้นไปกว่า 10 บาทต่อกก.

สหกรณ์หนุนปลูกข้าวโพดหลังนาดันกำไรสูงถึง 4,170 บาทต่อไร่

 ดังนั้นเชื่อว่าเกษตรกรจะหันมาปลูกข้าวโพดเพิ่มทั้งในฤดูและนอกฤดู จากราคาที่จูงใจ ประกอบกับใช้เวลาในการปลูกเพียง 120 วันเท่านั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตร ที่มีธุรกิจรวบรวมข้าวโพดมาช่วยในการรับซื้อและเชื่อมโยงตลาด

จากที่ก่อนหน้ากรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้สนับสนุนงบประมาณการเพิ่มศักยภาพสหกรณ์หรืองบพ.ร.ก.ฉุกเฉินสถานการณ์โควิด เพื่อปรับปรุง ยุ้งฉาง ลานตาก โกดัง หรือเครื่องอบลดความชื้น                        เพื่อให้เป็นแก้มลิง และพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด” 

 

 

 

สำหรับผลการเก็บข้อมูลของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์รายงานว่า สหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด                            มีสมาชิกที่สนใจเข้าโครงการเป็นเกษตรกรที่เดิมปลูกข้าวนาปรังจำนวน  36 คนพื้นที่ 735 ไร่ มีต้นทุน 4,715 บาทต่อไร่ รายได้ 5,021 บาทต่อไร่ ได้กำไร 306 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรที่กลุ่มนี้ได้สมัครเข้าโครงการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา (ปีการผลิต 2561/62) จำนวน  36 คน พื้นที่ 735 ไร่ ต้นทุนการผลิต 4,625 บาทต่อไร่ ขายผลผลิตข้าวโพดได้  8,314 บาทต่อไร่ กำไร 3,690 บาทต่อไร่  

 

ในปีการเพาะปลูก 2562/63  เกษตรกรชุดเดิมและสมัครเพิ่มเข้าโครงการ 125 คน พื้นที่ 2,341 ไร่ ต้นทุนการผลิต 4,226 บาท ขายได้ 8,396 บาทต่อไร่ กำไร 4,170  บาทต่อไร่ ทำให้ในปี 2564/65 มีการขยายผลไปในพื้นที่ในจังหวัดอุตรดิตถ์มีเกษตรกรสนใจจำนวน 839 รายพื้นที่ 10,130 ไร่ ขณะนี้ผลผลิตอยู่ระหว่างฤดูการเก็บเกี่ยว

            ด้าน นายบัญชา เมฆนุ้ย ประธานสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ   จำกัด กล่าวว่า เกษตรกรที่เข้าโครงการนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงได้มีการขยายความร่วมมือไปยังสหกรณ์การเกษตรอื่น ๆ ที่อยู่ในจังหวัดอุตรดิตถ์และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งโครงการนี้สหกรณ์บ้านหม้อได้เข้าไปดำเนินการทั้งระบบ ใช้พื้นที่ร่วมโครงการประมาณ 3,000  ไร่ 

สหกรณ์หนุนปลูกข้าวโพดหลังนาดันกำไรสูงถึง 4,170 บาทต่อไร่

ซึ่งสหกรณ์ได้ช่วยเหลือและสนับสนุนสมาชิกในโครงการทั้งด้านความรู้และปัจจัยการผลิต ทำให้เกษตรกรมีผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 1,300 กก. เป็นที่น่าพอใจมาก ราคารับซื้อต่อกิโลกรัมอยู่ที่ 7-8 บาท ตามความชื้นของผลผลิต จากราคาที่สหกรณ์ประกันไว้ที่ประมาณ 5 บาทเศษ

 

 ซึ่งทางสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ใช้ข้อมูลของสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อจำกัด เป็นกรณีศึกษาเพื่อนำไปเผยแพร่และส่งเสริมให้สหกรณ์ทั้งประเทศเห็นว่าผลสัมฤทธิ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ปัจจุบันมีสหกรณ์เครือข่ายในหลายพื้นที่ที่เข้าโครงการรวบรวมผลผลิตข้าวโพดมาส่งให้กับสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงคุณภาพ โดยใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์การตลาดที่ได้รับการอุดหนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ก่อนส่งไปขายยังปลายน้ำคือโรงงานผลิตอาหารสัตว์ โดยได้รับการช่วยเหลือจากสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ประสานในการจับคู่ทางธุรกิจ                      กับตลาดปลายทางคือบริษัทเอกชนที่แปรรูปอาหารสัต

 

ว์ ปัจจุบันจังหวัดอุตรดิตถ์ มีสมาชิกสหกรณ์เข้าโครงการ 839 ราย                 พื้นที่รวม 10,130 ไร่ นอกจากนั้นยังได้รับซื้อเมล็ดข้าวโพด ใบ เปลือก ซังข้าวโพด เพื่อนำมาผลิตอาหารสัตว์  และจำหน่ายให้เกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามหลักของการลดการสูญเสียให้มากที่สุด

            สำหรับโครงการสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังนาผ่านระบบสหกรณ์ปี 2563/64 ของกรมส่งเสริมสหกรณ์มีสหกรณ์                เข้าร่วมโครงการ  74 แห่งเกษตรกร 4,503  ราย พื้นที่รวม 49,336 ไร่  สามารถรวบรวมผลผลิตได้มูลค่ารวม 155  ล้านบาท                 แยกเป็นข้าวโพดแบบฝัก 2,445 ตัน มูลค่า 11.65  ล้านบาทและแบบเมล็ด 23,438  ตัน มูลค่า 145.19 ล้านบาท                                  

 

  และปีการผลิต 2564/65 มีสหกรณ์สมัครเข้าโครงการ  22 จังหวัด  70 สหกรณ์  พื้นที่ปลูก 62,339 ไร่ เกษตรกร 7,038 ราย                กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดสรรเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์วงเงิน 58 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์กู้ยืมไปจัดหาปัจจัยการผลิตช่วยเหลือสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว และขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมผลผลิตเพื่อส่งจำหน่ายให้กับคู่ค้าภาคเอกชน