สกพอ. จับมือระยอง ฟื้นฟูสัตว์ทะเล สร้างกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

สกพอ. จับมือระยอง ฟื้นฟูสัตว์ทะเล สร้างกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

สกพอ. จับมือ อบจ.ระยอง กรมประมง และ ททท. ดำเนินโครงการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ท้องทะเลภาคตะวันออก สร้างระบบบริหารจัดการการเพาะพันธุ์สัตว์ทะเลอย่างยั่งยืน โดยไม่พึ่งงบรัฐ พร้อมจัดกิจกรรมปล่อยสัตว์ทะเล กระตุ้นท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญของ สกพอ. คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่ เพื่อคืนความสมบูรณ์ให้ธรรมชาติ สร้างความยั่งยืนให้กับการท่องเที่ยว รวมถึงสร้างรายได้ที่มั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่อีอีซี

ทั้งนี้ การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ร่วมกับกรมประมง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง (อบจ. ระยอง) ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งระยอง เพื่อให้เกิดระบบบริหารจัดการเพาะพันธุ์สัตว์ทะเลอย่างยั่งยืน โดยไม่พึ่งพางบประมาณรัฐ

จากการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานเพาะพันธุ์สัตว์ทะเล และหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมกิจกรรมปล่อยสัตว์ทะเลในพื้นที่ เช่น สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เป็นต้น

โดยมีแนวทางการดำเนินงานโครงการ คือ สกพอ. และ อบจ. ระยอง จะสนับสนุนงบประมาณให้แก่ศูนย์วิจัยฯ เป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตลูกสัตว์ทะเลของศูนย์วิจัยฯ เช่น การผลิต ลูกกุ้ง ลูกหอย ลูกปลากะพง จำนวน 2 ล้านตัว

มีต้นทุนการเพาะพันธุ์ตัวละ 1 บาท ตั้งราคาจำหน่ายตัวละ 2 บาท ส่งผลให้มีรายได้ในปีที่ 2 จำนวน 4 ล้านบาท สามารถเพิ่มปริมาณลูกสัตว์ทะเลที่เพาะพันธุ์ได้เป็น 4, 8, 16, 32 ล้านตัวในปีที่ 2-5 ตามลำดับ

สกพอ. จับมือระยอง ฟื้นฟูสัตว์ทะเล สร้างกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทั้งนี้ สกพอ. และ อบจ. ระยอง จะประสานงานกับชาวประมงชายฝั่ง สถานที่ท่องเที่ยว และผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อให้นักเรียนนำไปจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวตัวละ 3 บาท (ถุงละ 60 บาท มีลูกสัตว์ทะเลจำนวน 20 ตัว) ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

โดยผู้ขายจะได้รับส่วนแบ่ง 1 บาทต่อตัว ส่งผลให้มีรายได้ 2 ล้านบาทและทวีคูณเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งจะช่วยให้มีรายได้ถึง 32 ล้านบาทภายในเวลาเพียง 5 ปี ซึ่งจะมีการประเมินเพื่อศึกษาปริมาณสัตว์ที่ควรปล่อยสู่ทะเลเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

ทั้งนี้ การที่ อบจ. ระยอง ร่วมสนับสนุนงบประมาณในการเพาะพันธุ์ด้วย 1 ล้านบาทในปีแรกนั้น ช่วยให้โครงการประสบความสำเร็จเร็วขึ้นอย่างมาก และจะมีลูกสัตว์ทะเลที่ถูกปล่อยสะสมในปีที่ 5 ถึงกว่า 64 ล้านตัว และเมื่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวและนักเรียนในพื้นที่มีรายได้จากการจำหน่ายลูกสัตว์ทะเลให้นักท่องเที่ยวแล้ว จะนำรายได้กลับมาซื้อลูกพันธุ์สัตว์ทะเลจากศูนย์วิจัยฯ เพื่อนำไปจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์โครงการทั้งในประเทศ และต่างประเทศในลักษณะที่เข้าใจง่าย เช่น กิน 2 ตัว ปล่อย 20 ตัว เป็นต้น

“การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ที่นอกจากจะร่วมมือกันพลิกฟื้นท้องทะเลไทยให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ยังจะช่วยสร้างอาชีพที่มั่นคง และสร้างรายได้ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่อีอีซี อีกด้วย” 

ทั้งนี้ คาดว่าการดำเนินกิจกรรมดังกล่าว จะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ประชาชนในพื้นที่ และนักเรียน เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และที่สำคัญ ทำให้ศูนย์วิจัยฯ มีรายได้มาบริหารจัดการในปีถัดไป โดยไม่พึ่งพางบประมาณรัฐ และตั้งใจจะขยายรูปแบบบริหารจัดการความยั่งยืนในลักษณะนี้ไปยังพื้นที่ อื่น ๆ ต่อไป