“บาฟส์” ผลิตรถเติมน้ำมันเครื่องบิน EV ลุยตลาดภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก

 “บาฟส์” ผลิตรถเติมน้ำมันเครื่องบิน EV ลุยตลาดภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก

“บาฟส์” ผนึกพันธมิตรระดับโลก ดันเป้าหมาย Net Zero เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน ล่าสุด ผนึก “ITURRI” ผลิตรถ “BEV” รถเติมน้ำมันเครื่องบินอีวีลุยตลาดภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก

หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ หรือ บาฟส์ ผู้ให้บริการน้ำมันอากาศยาน กล่าวว่า วิกฤติดังกล่าวถือเป็นช่วงที่ธุรกิจการบินตกต่ำที่สุดในรอบ 100 ปี ซึ่งทางสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า หากสถานการณ์คลี่คลายธุรกิจการบินน่าจะกลับมาสู่ระดับปกติได้ในปี ค.ศ.2024 โดยจะมีผู้โดยสารทั่วโลก ใช้บริการอยู่ประมาณ 4,000 ล้านคนต่อปี และจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นจนถึงระดับ 8,000 ล้านคนต่อปีในปี ค.ศ. 2040 ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์ภาคพื้นต่าง ๆ ที่ใช้ในสนามบินก็จะมีการปรับตัวขึ้นเพื่อรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับปณิธานในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืนของบาฟส์ ที่มุ่งพัฒนาและสรรหาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสามารถเสริมศักยภาพด้านการบริการน้ำมันอากาศยาน พร้อมยกระดับมาตรฐานสู่ระดับโลก   

 “บาฟส์” ผลิตรถเติมน้ำมันเครื่องบิน EV ลุยตลาดภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก “รายได้หลักของบาฟส์ กรุ๊ป มาจากการเติมน้ำมันอากาศยาน ใน Fleet รถเรามีอยู่ประมาณ 80 คัน ให้บริการมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยมีสนามบินหลักที่ให้บริการ คือ ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ แต่เรามีเป้าหมายว่า ในอีก 5 ปี ข้างหน้า เราจะปรับโครงสร้างรายได้จากธุรกิจหลักของเราให้อยู่ที่ 50% และที่เหลือจะเป็นรายได้ของบริษัทย่อยในเครือที่มาจากธุรกิจสาธารณูปโภค และพลังงานหมุนเวียน ในด้านสาธารณูปโภคตอนนี้เรามีระบบท่อขนส่งน้ำมันซึ่งเป็นท่อที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน กำลังการส่งอยู่ที่ประมาณ 9,000 ล้านลิตรต่อปี และในอีก 5 ปีข้างหน้า เมื่อพลังงานหมุนเวียนและพลังงานไฟฟ้าที่เรามีอยู่ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงน่าจะมาเป็นรายได้ในสัดส่วนที่สำคัญของบริษัท ต่อไป”

จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง บริษัทในเครืออย่าง บาฟส์ อินเทค ในปี ค.ศ.2018 โดยแบ่งการถือหุ้นของบาฟส์ บริษัทแม่ 90% และ บริษัท ยูนิเวฟ จำกัด อีก 10% ซึ่งถือเป็นการนำจุดเด่นของบาฟส์ และยูนิเวฟ มาผสมผสานกันได้อย่างโดดเด่นและลงตัว นายอนิรุทธ์ บุนยตีรณะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจของ บาฟส์ อินเทค คือ การประกอบรถเติมน้ำมันอากาศยานแบบ Hydrant Dispenser และแบบ Refueller พร้อมกับการให้บริการซ่อมบำรุง โดยที่ผ่านมา นอกจากจะผลิตรถส่งให้ทางบริษัทแม่อย่างบาฟส์แล้ว ก็ยังมีการผลิตรถให้แก่ลูกค้าในไทยรายอื่นๆ รวมถึงลูกค้าในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ที่เมียนมา หรือ สปป.ลาว

ซึ่งล่าสุดได้ทำข้อตกลงร่วมกับ บริษัท ITURRI ผู้นำการผลิตรถเติมน้ำมันอากาศยานระดับโลก จากประเทศสเปน ในการผลิตรถเติมน้ำมันอากาศยานขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) โดยการใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและพลังงานไฟฟ้า 100% จึงไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเครื่องยนต์ สามารถวิ่งได้ระยะทางรวมสูงสุด 170 กิโลเมตร และให้บริการเติมน้ำมันได้เฉลี่ย 8 เที่ยวบินต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้ง ทั้งนี้  ความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีความเหมาะสมในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก มากขึ้น

“การทำธุรกิจยุคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากบทเรียนที่เราเจอโควิด-19 ทำให้รู้ว่าไม่มีใครสามารถยืนได้โดยลำพัง เราจึงให้ความสำคัญเรื่องการทำ Collaboration กับบริษัทต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ แนวความคิดในการผลิตรถ BEV นี้ไม่ได้เป็นแนวคิดที่เพิ่งเกิดแต่เกิดมานานแล้ว เพราะเรามุ่งมั่นทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในระดับของสังคมและสิ่งแวดล้อม หนึ่งในบทพิสูจน์ของเรา คือ การได้รับการรับรองให้เป็น Carbon Neutral Company คือบริษัทที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ตั้งแต่ปี ค.ศ.2019 และเราในฐานะเป็นผู้ให้บริการขนส่งด้านพลังงาน จึงตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไรให้เราสามารถมุ่งไปสู่ถนนที่จะทำให้เราเป็นธุรกิจที่คู่กับความยั่งยืนของโลกจนไปสู่  Net Zero ให้ได้ในปี ค.ศ.2050 ซึ่งนั่นคือ เป้าหมายของเราต่อไป”

ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายของทางด้าน ITURRI Group จากประเทศสเปน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ สำหรับยานพาหนะไร้มลพิษ เพื่อเป็นการรองรับกฎ ระเบียบ และข้อบังคับที่กำหนดขึ้นใหม่โดย ICAO สำหรับการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ และเสียงรบกวนในบริเวณสนามบินทั้งในและต่างประเทศ โดย MR. Amadeo Douton Rodriguez  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ITURRI จำกัด กล่าวว่า การจับมือพันธมิตรในไทยอย่าง บาฟส์ อินเทค  ถือได้ว่าเป็นพันธมิตรที่ดีที่สุดในตลาดอาเซียนสำหรับอุตสาหกรรมการบินและการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง

ข้อตกลงที่ทำร่วมกันในครั้งนี้จะเป็นการดำเนินการพัฒนาร่วมกับแผนก Research and development  ของ ITURRI Group ซึ่งจะนำร่องด้วยเครื่องจ่ายไฟฟ้า ตามด้วยเครื่องเติมเชื้อเพลิงไฟฟ้า และโซลูชันอัจฉริยะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจน เนื่องด้วยศักยภาพของบาฟส์ กรุ๊ป ที่มีประสบการณ์อันยาวนานในตลาดการเติมเชื้อเพลิงอากาศยาน และมีกลยุทธ์การบริหารธุรกิจที่แม่นยำ โดยเป้าหมายในปี 2025 ของ ITURRI Group คือ ต้องการผลักดันยอดการส่งออกให้ได้ 70% ของการผลิตในต่างประเทศ เพื่อบรรลุยอดการซื้อขายรวมที่ตั้งเป้าไว้ที่มูลค่า 500 ล้านยูโร นั่นหมายถึง มูลค่าที่เพิ่มเป็นสองเท่าของตัวเลขปัจจุบัน

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์