SCB10X ทุ่มงบลงทุน 'สตาร์ทอัพ'ปีนี้ 7 พันล้านบาท

SCB10X ทุ่มงบลงทุน 'สตาร์ทอัพ'ปีนี้ 7 พันล้านบาท

เอสซีบีเท็นเอกซ์ ประกาศเดินหน้าลงทุนในสตาร์ทอัพต่อเนื่อง ชี้มีกองทุนพร้อมลงทุนเฉียด 7 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างรอ ธปท.ไฟเขียวในการเปิดระดมทุนผ่านกองทุนเวนเจอร์แคปปิตอล ร่วมซีพีวงเงินกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท

        นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า สำหรับแผนการเข้าไปลงทุนในบริษัทเทคคอมพานีและสตาร์ทอัพปี 2565 ของ SCB 10X

        ปีนี้ SCB 10X โฟกัสและให้ความสำคัญด้าน Fintech มากที่สุด โดยเฉพาะ Blockchain, DeFi ที่เกี่ยวกับด้าน Financial Services

      

       รวมถึงด้านอื่นๆ ของ Blockchain เพราะที่ผ่านมา มีการศึกษาว่า Area ด้านใดบ้างที่จะเข้ามา Disrupt ธนาคาร หรือ Financial Services ซึ่งก็พบว่า Blockchain และ DeFi เป็นด้านที่มีความเป็นไปได้ที่จะเข้ามา Disrupt มากที่สุด

       ดังนั้นสำหรับปี 2565 เรายังคงโฟกัสการลงทุนต่อเนื่องในด้าน Blockchain/DeFi/Digital Asset นอกจากนี้ยังให้ความสนใจเข้าลงทุนใน Area อื่นๆ ได้แก่ Web 3.0 ที่เป็น 3rd generation internet รวมถึง Metaverse เช่น NFT Gaming โดย Metaverse ก็เป็น The Forefront of Web 3.0 โดยเรามุ่งเน้นลงทุนใน Infrastructure เป็นสิ่งสำคัญ เพราะอุตสาหกรรมโตเร็วมาก Infrastructure ต้องตามให้ทัน

      รวมไปถึงการให้ความสนใจเกี่ยวกับ DAO (Decentralized Autonomous Organizations) โดยเราเล็งเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเทรนด์ที่กำลังจะมา เพราะยิ่งมีโปรเจกต์ใน DeFi/NFT/Web 3.0 เกิดขึ้น

      สิ่งเหล่านี้ในอนาคตจะเป็น DAO อย่างแน่นอน จะเป็น Decentralize มีคนถือ Token ค่อนข้างมาก และจะเริ่มทรงพลังมากยิ่งขึ้น ที่มีโอกาสในการเติบโตสูง จะมีเงินอยู่ใน asset treasury มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ SCB10x ได้เริ่มทำการศึกษา

      “ปีที่ผ่านมา มีจำนวนเงินที่อยู่ใน treasury ของ DAO มีประมาณ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านไป 1 ปี เติบโตสูงแตะระดับ 9 พันล้านดอลาร์สหรัฐ ฉะนั้น สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งคือ ทำอย่างไรจึงจะทำให้เกิดการใช้งานได้ง่าย ดังนั้น เครื่องมือที่เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการด้านการจัดการของ DAO (management operating system) จะกลายเป็นสิ่งสำคัญและเป็นที่ต้องการ”

       สำหรับวงเงินการลงทุนในปีนี้ยังอยู่ในงบการลงทุนสำหรับ Venture Capital ซึ่งมี Fund size อยู่ที่ 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 7 พันล้านบาท)

       นอกจากนี้มีเป้าหมายที่จะระดมทุนจากนักลงทุนสถาบันเพื่อมาลงทุนผ่านกองทุน Venture Capital ที่กำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ขนาด 600 – 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 19,800-26,400 ล้านบาท) เพื่อลงทุนใน Disruptive Technology ด้านบล็อกเชน (Blockchain) สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) เทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech) และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงทั่วโลก ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)

     สำหรับการลงทุนที่ผ่านมาของ SCB 10X เน้นไปด้าน Disruptive Technology โดยเริ่มแรกได้มีการวางแผนกลยุทธ์ว่าจะลงทุน 5 area ของ Disruptive Technology คือ 1. Fintech 2. Future of Work & Lifestyle 3. Health & Wellness 4. IOT และ 5. Deep Tech

       ทั้งนี้ การเข้าไปลงทุนในระยะข้างหน้า นโยบาย หรือหลักเกณฑ์ในการเลือกลงทุนในสตาร์ทอัพ เช่นการดู sector ของสตาร์อัพ อยู่ในโฟกัสของ SCB 10X มีการเติบโตของตลาดที่สูง

     รวมถึงประวัติและผลงานในอดีตของผู้ก่อตั้งรวมถึงทีมผู้บริหาร ผลประกอบการ และคุณภาพของกลุ่มนักลงทุนที่ร่วมลงทุนด้วย ซึ่งการเลือกลงทุนในสตาร์ทอัพแต่ละราย เราจะเลือกบริษัทที่เราคิดว่าเป็น The best in class ของ Segment นั้นจริงๆ

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์