พร้อมเปย์สินค้าอัลตร้า ลักชัวรี นิพพานใหม่ ‘เศรษฐี’ New Gen

พร้อมเปย์สินค้าอัลตร้า ลักชัวรี  นิพพานใหม่ ‘เศรษฐี’ New Gen

อภิมหาเศรษฐีรุ่นใหม่ รวยเร็ว เลยใช้จ่ายเงินง่าย และยุคนี้สินค้าพร้อมเปย์ เป็นหมวด "อัลตร้า ลักชัวรี" ยิ่งแพง หายาก ยิ่งชอบ และกลายเป็น "นิพพานใหม่" ของนิสัยรวยหรือการใช้เงิน "ไฮพ์โอวัน" ได้เวลาลุยงานครีเอทีฟ ตอบโจทย์ลูกค้าแบรนด์หรู ดันยอดขายโต 300%

กลุ่มบริษัท ดรีม แบงคอก เป็นครีเอทีฟ เอเยนซี ที่สร้างสรรค์ธุรกิจแบบไฮบริดจ์ นอกจากคิดไอเดียโฆษณาให้ลูกค้าแล้ว ยังผลิตโฆษณาให้พร้อมสรรพ จึงทำให้การทำธุรกิจท่ามกลางวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาด บริษัทยังมียอดขาย(Billing)ที่เติบโต

ทว่า ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว “ไฮพ์โอวัน ไฮบริด ครีเอทีฟ คอมพานี"(HYPE01 Hybrid Creative Company) เพื่อรองรับการสร้างสรรค์งานโฆษณาให้กับลูกค้าแบรนด์ระดับ “อัลตร้า ลักชัวรี” เต็มที่ จากแรกเริ่มมีลูกค้า 1 ราย คือรถยนต์ “เปอโยต์” ปัจจุบันขยายพอร์ตโฟลิโอรับลูกค้าเพิ่ม 4 ราย ได้แก่ แบรนด์รถหรู มาเซอร์ราติ โรลส์ รอยซ์ แอสตัน มาร์ติน อภิมหาเรือยอร์ช Azimut และเรือคริสคราฟ(Chris-craft ) สร้างการเติบโตรายได้ให้บริษัทถึง 112%

ในปี 2565 บริษัทได้เจรจาลูกค้าใหม่กลุ่มธุรกิจสุขภาพมาอยู่ในพอร์ตโฟลิโอ และยังคงตั้งเป้าหมายเติบโตอีก 300% มิติธุรกิจต้องเติบโตเป็นปกติไม่ว่าจะเจอมรสุมรุมเร้า หรือมีปัจจัยบวกเอื้อมากมาย

ทว่า สิ่งที่น่าสนใจของการที่ “ไฮพ์โอวัน” เข้ามารุกตลาดแบรนด์อัลตร้า ลักชัวรี เพราะหมวดหมู่สินค้าสุดหรู กำลังเป็นที่หมายตาของ “เศรษฐีรุ่นใหม่” หรือ New Gen โดยเฉพาะวัยที่ต่ำกว่า 35 ปี กลุ่มคนมิลเลเนียล

สรรพาทิตย์ บูรณสมภพ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ของกลุ่มบริษัท ดรีม แบงคอก ฉายภาพสถานการณ์ตลาดสินค้าอัลตร้า ลักชัวรีสามารถ “เบ่งบาน-เติบโต” ท่ามกลางเกิดวิกฤติโรคระบาดได้อย่างสวยสดงดงาม หลากหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เรือยอร์ชสุดหรู เสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์หรู นาฬิกาฯ สินค้าเหล่านี้ยังคงเป็นที่ต้องการของบรรดา “อภิมหาเศรษฐี” อย่างมาก โดยเฉพาะเศรษฐีรุ่นใหม่ วัยมิลเลเนียล

ในตลาดโลกปี 2564 สินค้าอัลตร้าลักชัวรีขายดิบขายดีมาก ตัวอย่าง

- โรลส์ รอยซ์ ขายรถได้ทั่วโลก 5,586 คัน เติบโต 49% จากปกติต่อปีนั้นขายได้ไม่เกิน 1,500 คัน

- โรลส์ รอยซ์ ราคา 28 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 900 ล้านบาท ยังปิดการขายได้

- เรือซูเปอร์ยอร์ช ขายได้ 600 ลำทั่วโลก

- อภิมหาเรือยอร์ชความยาว 126.1 เมตร ที่ขายยากเย็นยังมีผู้ซื้อ

เครื่องบินส่วนตัว(ไพรเวท เจ็ท) ยอดขายเติบโต 40% โดย 56% เป็นคนที่ซื้อครั้งแรก และ 28% ที่ซื้อเป็นกลุ่มคนเปลี่ยนจากเดินทางสายการบินพาณิชย์มาสู่การเช่า

- นาฬิกาโรเล็กซ์ ขาดตลาด สั่งวันนี้รออีก 8 เดือน ได้สินค้า เป็นต้น

พร้อมเปย์สินค้าอัลตร้า ลักชัวรี  นิพพานใหม่ ‘เศรษฐี’ New Gen สรรพาทิตย์ บูรณสมภพ

การซื้อสินค้าอัลตร้า ลักชัวรี ยังเปลี่ยนไป เพราะหากเป็นของหาง่าย ไม่โอเค!  ขอหยากๆ ได้มายาก เป็นของมันต้องมีหรือ Rare item สุดๆ เช่น สั่งซื้ออภิมหาเรือยอร์ชวันนี้ อีก 3 ปีได้รับเรือ 

“มูลค่าตลาดสินค้าอัลตร้า ลักชัวรีเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และการที่เศรษฐีรุ่นใหม่ได้ซื้อสินค้าสุดหรู ถือเป็นนิพพานใหม่”

สำหรับความแตกต่างของเศรษฐีรุ่นใหม่ กับ เศรษฐีรุ่นเก่า” คือ อดีตเศรษฐีที่มีเงินหลักร้อยล้านจะมีอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันกลับขั้ว เพราะเศรษฐีรุ่นใหม่นอกจากอายุน้อยต่ำกว่า 40 ปี ยังมีเงินทองมากถึงหลัก 1,000 ล้านบาทด้วย โดยคุนรุ่นหลังหาเงินง่ายจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซื้อขายงานศิลปะผ่าน NFT ขายสินค้าออนไลน์จนร่ำรวยมั่งคั่ง ทำให้ใช้จ่ายง่าย

สรรพาทิตย์ ยังหยิบตัวแปรใหญ่ที่ทำให้ “เศรษฐีรุ่นใหม่” ใจป้ำใจป๋าพร้อมเปย์ มาจาก “โรคโควิด-19” ระบาด “คร่าชีวิต” ผู้คนทั่วโลกจำนวนมาก กลายเป็นเหตุแห่งความกลัวตายหรือ Fear Factor ที่สุดแล้ว การมีชีวิตอยู่ จึงต้องนำเงินมาใช้จ่ายให้คุ้ม เพราะสุดท้าย “ตาย” ย่อมเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง นาทีนี้มีสงครามรัสเซีย-ยูเครนปะทุ! อีก จะมีชีวิตอยู่ถึงวันนี้วันพรุ่งยากจะรู้ จึงต้องใช้เงิน และใช้เงินตอบสนองความต้องการซะ

พร้อมเปย์สินค้าอัลตร้า ลักชัวรี  นิพพานใหม่ ‘เศรษฐี’ New Gen อภิมหาเศรษฐี อายุน้อยร้อยล้านคนรวยรุ่นใหม่กำลังเติบโต

“เศรษฐีรุ่นใหม่ หาเงินได้ง่าย จึงใช้จ่ายเงินง่าย ยิ่งเจอโรคระบาดทำให้กลัวตาย กลัวไม่ได้ใช้เงิน เลยใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าอัลตร้าลักชัวรี และตัดสินใจเร็วมาก เทียบกับเศรษฐีรุ่นเก่า เพราะเพียงเห็นรูปภาพ ถูกใจ ขอเลขบัญชี พร้อมจ่ายเงินทันที”

ตัวอย่าง “นิสัยรวย” ของเศรษฐีรุ่นใหม่ชาวไทยรายหนึ่ง ปี 2564 ในประเทศไทย ปีก่อนเศรษฐีรุ่นใหม่อายุ 38 ปี ตัดสินใจซื้อรถหรูโรลส์ รอยซ์รุ่นเดียวกันคันละ 40 ล้านบาท และเทเลอร์เมดแต่งเสริมเติมนั่นนี่เป็นเงินอีกหลักล้าน แต่ขอซื้อทีเดียวจำนวน 4 คันรวด

อย่างไรก็ตาม สถิติผู้บริโภคนิสัยรวยวัยมิลลิเนียมอายุต่ำกว่า 35 ปี ที่มีการใช้จ่ายสินค้าอัลตร้าลักชัวรีสูงสุดหรือ Top Spender ยังคงเติบโตต่อเนื่อง 10% และภายในปี 2568 จะมีสัดส่วนเกิน 50% จากปี 2564 สัดส่วน 46% ขณะที่แนวโน้มสินค้าแฟชั่นลักชัวรีจะมีมูลค่า 1095,670 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2570 จากปี 2563 มีมูลค่า 89,350 ล้านดอลลาร์

พร้อมเปย์สินค้าอัลตร้า ลักชัวรี  นิพพานใหม่ ‘เศรษฐี’ New Gen ส่วนการรุกตลาดของ “ไฮพ์โอวัน” เพื่อสร้างสรรค์งานโฆษณาให้ลูกค้า จะใช้ข้อมูล(Data)จากแบรนด์ ผู้คน และเป้าประสงค์ของแบรนด์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้โดนใจมากสุด เพราะอภิมหาเศรษฐีรุ่นใหม่มีความต้องการแตกต่างจากลูกค้าทั่วไปมาก มีความเป้นส่วนตัว เฉพาะตัวสูง ตัวอย่าง ทำโฆษณาดำน้ำ จะมีรายละเอียดแม้กระทั่งเห็นสัตว์น้ำบางชนิด จะสะท้อนความอัลตร้าลักชัวรี ความ Rare และ Exclusive สุดๆ เพราะเจอเฉพาะแหล่งดำน้ำ น่านน้ำ หรือทะเลในแถบนั้นแถบนี้เท่านั้น

“บริษัทมุ่งนำเสนอความเชี่ยวชาญในกลุ่มธุรกิจแบรนด์ Luxury และ Ultra-Luxury ที่มีความยากเฉพาะตัวในการทำสื่อสารการตลาดให้ประสบความสำเร็จ ด้วยปัจจัยที่มากกว่าแค่ยอดขาย แต่ยังต้องรักษาภาพลักษณ์ (Brand Image) และตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ (Brand Positioning) ไว้ให้มั่น แม้จะต้องทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์ (Brand Reputation) เป็นที่รู้จัก แต่ก็ยังต้องรักษาไว้ซึ่งความเอ็กคลูซีฟสำหรับลูกค้าตัวจริง”