“TPIPP” ก้าวสู่โรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียว 100% ภายในปี 69 

“TPIPP” ก้าวสู่โรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียว 100% ภายในปี 69 

“TPIPP” ตั้งเป้าผู้นำพลังงานสะอาด ปรับสัดส่วนพลังงานไฟฟ้าจากฟอสซิลจาก 50% เหลือ 32% ในปี 66 มั่นใจก้าวสู่โรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียว 100% ภายในปี 69

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP กล่าวในงานสัมมนา "Go Green 2022 ขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียว" จัดโดย กรุงเทพธุรกิจในหัวข้อ Driving Green Business ขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียว ว่า ปัจจุบันบริษัท มีโรงไฟฟ้ารวม 8โรง มีกำลังผลิตรวม 440 เมกะวัตต์ โดย 50% หรือ 220 เมกะวัตต์ ยังมาจากการผลิตไฟฟ้าจากฟอสซิล โดยปี 2566 จะเพิ่มโรงไฟฟ้าโรงที่ 7 เป็นพลังงานจากขยะ ส่งผลให้สัดส่วนพลังงานจากฟอสซิลเหลือ 32%

ทั้งนี้ บริษัทได้เดินหน้าก้าวสู่การเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียว 100% โดยได้เริ่มทยอยเปลี่ยนโรงไฟฟ้าจำนวน 220 เมกะวัตต์ ให้ใช้เชื้อเพลิงขยะซึ่งจะส่งผลให้โรงไฟฟ้าทุกโรงของบริษัทใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงครบ 100% ในปี 2568 ส่งผลให้ TPIPP จะมี Net Zero Carbon Emission และมี Carbon Credit ที่คาดว่าจะขายได้ประมาณ 12.45 ล้านตันต่อปี ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ถือเป็นการตอกย้ำศักยภาพบริษัทผู้นำอันดับหนึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวที่ช่วยกำจัดขยะให้ประเทศ

นอกจากนี้ จากคำมั่นสัญญาของประเทศไทยในการประชุม COP26 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังมีเรื่อง RE100 ที่ถือเป็นเทรนด์ของโลก ซึ่งองค์กรชั้นนำทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ต่างให้คำมั่นการใช้พลังงานสะอาด 100% ทั้งการผลิตเองรวมถึงการซื้อพลังงานสะอาดจากกลุ่ม RE100

ล่าสุด TPIPP ได้เข้าจดทะเบียนใน RE100 ถือเป็นบริษัทโรงไฟฟ้าจากวัสดุเหลือใช้แห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้มาตรฐานนี้ โดยตั้งเป้าว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียว 100% ภายในปี 2569 แสดงถึงศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นอีกมาก และยังพยายามเป็นผู้ผลิตที่ไม่มีการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง โดยในปีนี้จะปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงนำเอา RDF เข้ามาใช้เพื่อเสริมศักยภาพและลดต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า 

ทั้งนี้ ปัจจุบันTPIPP ได้รับขยะเฉลี่ยต่อวัน 8,500 ตัน หรือคิดเป็น 2.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งช่วยลดคาร์บอนจากการฝังกลบได้ 5.8 ล้านตันต่อปี และภายในปี 2569 คาดว่าจะขยายการรับขยะเฉลี่ยต่อวันเพิ่มเป็น 17,000 ตัน หรือคิดเป็น 5.2 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะช่วยลดคาร์บอนจากการฝังกลบได้ 12 ล้านตันต่อปี และลดก๊าซมีเทนที่เกิดจากขยะที่ส่งผลต่อภาวะเรือนกระจกได้อีกทางหนึ่ง

“เรายึดมั่นนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG & Bio Circular-Green Economy-BCG) โดยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างสมดุลในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บนพื้นฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างยั่งยืนได้รับความเชื่อถือในระดับสากล” 

ทั้งนี้ โครงการ RE100 เป็นโครงการระดับโลกภายใต้การนำของ The Climate Group ร่วมด้วย CDP มีเป้าหมายผนึกกำลังบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก เช่น Apple, Google, Facebook, Coca-Cola, Microsoft, Philips และ Goldman Sachs ให้ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ภายในกรอบเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยแต่ละองค์กรที่เข้าร่วมโครงการ RE100 ตั้งเป้าใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% ในการดำเนินงานทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งมาตรการนี้จะเป็นผลบวกกับอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

นอกจากนี้ TPIPP ได้เตรียมจับมือกับบริษัทในประเทศไทย ลงทุนสถานีชาร์จอีวี โดยมีจุดแข็งที่ตั้งโรงงานมีสายส่งไฟฟ้าระยะทาง 120 กม.ในเส้นทางกรุงเทพฯ และนครราชสีมา ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ปัจจุบันมีรถบรรทุกวิ่งผ่านวันละ 6 หมื่นคัน หากคิดจำนวน 600 คัน หรือ 10% ถือเป็นรายได้ที่มหาศาล คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า

 

 

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์