เฟดขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด (17 มี.ค. 65)

เฟดขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด (17 มี.ค. 65)

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเร่งตัวขึ้นในภาคบ่าย ราว +20 จุด จากแรงซื้อในหุ้น Big Cap. ทั้งกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และค้าปลีก ตลาดหุ้นในภูมิภาคได้แรงหนุนจากนายกรัฐมนตรีจีน

เปิดเผยว่า รัฐบาลจีนมีแผนที่จะใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หนุนให้ดัชนีฮั่งเส็ง +9.08% และนักลงทุนติดตามการประชุมเฟดในวันที่ 16 ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,667.92 จุด +23.56 จุด +1.43% มูลค่าการซื้อขาย 78,168 ลบ.ต่างชาติ +6,257.03 ลบ. TFEX -2,543 สัญญา ตราสารหนี้ +2,617.66 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 518.76 จุด +1.55% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และมีความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
+/- เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 6 ครั้งๆละ 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ หมายถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทุกครั้ง และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้
+ ที่ปรึกษาปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ปธน.เซเลนสกีอาจจัดการเจรจาโดยตรงกับ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียในอีกไม่กี่วัน
+ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก มีมติด้วยคะแนนเสียง 13-2 ให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครนโดยทันที
+นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียและยูเครนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงบางส่วนในการเจรจาสันติภาพ หลังจากที่ยูเครนยอมตกลงที่จะหารือเกี่ยวกับสถานะประเทศเป็นกลางในการไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO)เพิ่มความหวังว่ารัสเซียจะยุติการทำสงครามในยูเครน
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 1.4%MoM ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนม.ค.

 

ปัจจัยลบ 

 

 

- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 25,456 ราย ATK 1,244 ราย มีผู้เสียชีวิต 77 ราย รักษาหาย 22,217 ราย
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.40 ดอลลาร์ -1.5% ปิดที่ 95.04 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน และตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
- สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.3%MoM ในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%
- IMF เปิดเผยว่า การทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก โดยจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจอ่อนแอลง และทำให้เงินเฟ้อที่เกิดจากราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น
- สสว.ส่งสัญญาณเตือน SME กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับเทียม ผลไม้สดและแปรรูป ข้าวและธัญพืช รับมือผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน หวั่นกระทบส่งออกประเทศข้างเคียง 3,300 ล้านบาท
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่า กำลังติดตามสถานการณ์ภาวะการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่จะกระทบต่อการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกและไทยอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอาจทำให้ปัญหาการขาดแคลนชิพรุนแรงขึ้น

 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หลังจากเฟด ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.25% ประกอบกับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้า คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,675 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
• กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ามันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทาให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN

 

• FTSE Global Equity Index Series (ใช้ราคาปิด 18 มี.ค.65) : Large Cap : - , Mid Cap : - , Small Capหุ้นเข้า : TIPH JTS SINGER หุ้นออก: UV WHART , Micro Cap หุ้นเข้า : 2S, ACC, AQ, APCO, B, BIG, CEN, CTW, CMR, CV, CGH, ECL, EE, FORTH, GJS, IT, MILL, MTI, METCO, NTV, PAP, PTL, SUC, CFRESH, SF, SKY, BFIT, SCM, TOG, TVI, TRC, UBE, UVAN, UV, VNG, WICE หุ้นออก : BYD, TIPH, MK, NEX, OISHI, QHHR, SABUY, SINGER, SYNEX, XPG

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                   BBGI - <บมจ. บีบีจีไอ> - SET/ENERG
                   IPO 10.50 บาท - ราคาเหมาะสม Consensus 14.80-15.35บาท

•BBGI เกิดจากการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจสาหรับธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ระหว่าง BCP ถือหุ้น 60% กับ KSL ถือหุ้น 40% หลังการขาย IPO มีสัดส่วนการถือหุ้นราว 42% และ 28% ตามลาดับประกอบธุรกิจ Holding Company ที่ประกอบธุรกิจดังต่อไปนี้ (1) ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ได้แก่ เอทานอล ไบโอดีเซล และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ (2) ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพ ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (จดสิทธิบัตรหรือได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญา)

•สัดส่วนรายได้ในปี64 1.ธุรกิจผลิตและจาหน่ายเอทานอล 33% 2.ธุรกิจผลิตและจาหน่ายไบโอดีเซล 67% ปี 62-64 บริษัทมีรายได้รวม เท่ากับ 10,060 ลบ. 12,620 ลบ. และ 14,132 ลบ. ตามลาดับ คิดเป็น 3Yrs CAGR 18.5% ต่อปี รายได้ปี 64 +12.1%YoY จากรายได้ธุรกิจเอทานอลเติบโตขึ้นตามกาลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และ ธุรกิจไบโอดีเซลเติบโตขึ้น เนื่องจากภาครัฐกาหนดน้ามันดีเซล B10 แทนดีเซล B7 ส่งผลให้บริษัทมีกาไรสุทธิที่ 387 ลบ. 845 ลบ. และ 960 ลบ. ตามลาดับ %NPM ที่ 3.9% 6.7% และ 6.8%

•หุ้น IPO จานวน 433.2 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 30 ของหุ้นทั้งหมด Par 2.50 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย 4,548.6 พันล้านบาท บริษัทมีวัตถุประสงค์การใช้เงินดังนี้ 1. ใช้เป็นเงินลงทุนสาหรับปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพจานวน 380 ลบ. ภายในปี 65 2.ใช้เป็นเงินลงทุนสาหรับขยายธุรกิจ และการลงทุนธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (HVP) ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพจานวน 2,000 ลบ. ภายในปี 69 3. ชาระคืนเงินกู้ยืมให้แก่สถาบันการเงิน และหุ้นกู้ของกลุ่มบริษัทฯ จานวน 1,300 ลบ. ภายในปี 67 และ 4.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

•P/E เสนอขาย16.11x เทียบกับ TAE 47.03x, UBE 44.53x, GGC 17.92x, AIE 14.97x

 

หุ้นมีข่าว

(+) SPVI (Bloomberg Consensus 7.70 บาท) เตรียมขนสินค้าขายในงาน "Commart Thailand 2022" คาดโกยเงินสดเข้ากระเป๋า 20-30 ล้านบาท เชื่อวันแรกยอดบูม เร่งเคลียร์สต็อกสินค้าเดิม ปูทางรับสินค้ารุ่นใหม่ ปักธงเป้ายอดขายปี 2565 โตต่อ 10% ชี้รายได้หลักยังมาจากหน้าร้าน 66 สาขา (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ILINK (Bloomberg Consensus - บาท) จับตาผลประมูลงานเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่า ราคากลาง 1,804.21 ล้านบาท วันนี้ (17 มี.ค. 65) วงในเผย มีผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด 7 ราย พบเอกชน ILINK-ITD-GUNKUL-AIT ร่วมชิง ด้านผู้บริหาร ILINK มั่นใจคว้างานเติมพอร์ตเพิ่ม แถมประกาศเข้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AH (Bloomberg Consensus 28.00 บาท) ลั่นผลงาน Q1/2565 พีคสุดในรอบปี อานิสงส์ออเดอร์ค่ายรถญี่ปุ่นทะลัก พร้อมปักธงปี 2565 รายได้ทะยาน 30% จากปีก่อน รับฐานลูกค้าขยายตัว แถมปลื้มคว้างาน "เกรท วอลล์ มอเตอร์" เข้าพอร์ตเพิ่ม เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MGT (ราคาเหมาะสม 4.30 บาท) แย้มอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนธุรกิจใหม่ 2 โปรเจ็กต์ เสริมผลงานแกร่ง พร้อมโชว์กระแสเงินสดในมือ 300 ล้านบาท อัตราหนี้สินต่อทุนต่ำเพียง 0.32 เท่า คาดหาแหล่งเงินทุนได้อีกกว่าพันล้านบาท ด้านผู้บริหารส่งซิกผลงาน 2 เดือนแรกสดใส(ที่มา ทันหุ้น)