คมนาคมเฮ ! ศาลปกครองกลางเบรกจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.5 หมื่นล้าน

คมนาคมเฮ ! ศาลปกครองกลางเบรกจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.5 หมื่นล้าน

คมนาคมเผยคืบหน้าคดีโฮปเวลล์ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเบรกจ่ายค่าโง่กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท เดินหน้าประสานอัยการสูงสุด ตั้งพนักงานอัยการสู้คดีแทน พร้อมดึง “พีระพันธุ์ สารัรัฐวิภาค” ผู้ประสานงานคดี  

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการฟื้นคดีโฮปเวลล์ว่าขณะนี้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งงดการบังคับคดีโฮปเวลล์ โดยมีหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมระบุว่า ด้วยคดีเรื่องนี้ ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของผู้ร้องทั้งสอง คือ กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ไว้พิจารณาและศาลมีคำสั่งรับคำขอพิจารณาพิพากษาคดีใหม่แล้ว

กรณีนี้จึงเข้าเงื่อนไขในการงดการบังคับตามข้อ 131 วรรคหนึ่ง (1) แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณษคดีปกครอง พ.ศ.2543 จึงมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดคดีหมายเลขดำที่ อ.410-412/2557 คดีหมายเลขแดงที่ อ.221-223/2562 ไว้ในระหว่างพิจารณาคดีใหม่

คมนาคมเฮ ! ศาลปกครองกลางเบรกจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.5 หมื่นล้าน

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า การที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งงดบังคับคดีในครั้งนี้ ส่งผลให้คำสั่งที่ก่อนหน้านี้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษา กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท.ต้องจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี รวม 25,711 ล้านบาท ภายใน 180 วัน ซึ่งเมื่อศาลฯ มีคำสั่งงดบังคับคดี จะส่งผลให้คำสั่งชดใช้ค่าเสียหายข้างต้น รวมดอกเบี้ยจะถูกชะลอออกไปก่อน

สำหรับการพิจารณาและมีคำสั่งของศาลปกครองกลางนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด โดยกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาใหม่ในคดีโฮปเวลล์ หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ทำหนังสือถึงศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าว ขอให้งดการบังคับคดี พร้อมทั้งแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้สำนักงานบังคับคดีปกครองทราบด้วย

 

ขณะที่ความคืบหน้าของการดำเนินงานภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งที่ 81-83/2565 ฉบับลงวันที่ 24 ก.พ.2565 กลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท. ไว้พิจารณา ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอความอนุเคราะห์แต่งตั้งพนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการในคดีแทนกระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท. โดยมีผู้แทนกระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท. รวมถึงมีมติให้ นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เป็นผู้ประสานงานคดีนี้