Hotel Sector คาดผลกระทบระยะยาวที่จำกัดจากมาตรการควํ่าบาตร

Hotel Sector คาดผลกระทบระยะยาวที่จำกัดจากมาตรการควํ่าบาตร

เราได้ศึกษาข้อมูลในอดีตจากการที่รัสเซียผนวกไครเมียเข้ามาเมื่อปี 2557 เพื่อประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งผลการศึกษาชี้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจรัสเซีย และการอ่อนค่าของเงินรูเบิ้ลมีบทบาทสำคัญกับการท่องเที่ยวของชาวรัสเซีย

ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ (โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรป) และสกุลเงิน EUR ไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากกรณีดังกล่าว (Figure 3 และ Figure 4)

Hotel Sector คาดผลกระทบระยะยาวที่จำกัดจากมาตรการควํ่าบาตร

Hotel Sector คาดผลกระทบระยะยาวที่จำกัดจากมาตรการควํ่าบาตร

 

คาดว่าประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2565F ของเราอาจมี downside 5-7%

ถึงแม้จะเริ่มมีสัญญาณการประนีประนอมระหว่างรัสเซียและยูเครนบ้างแล้ว แต่การคว่ำบาตรรัสเซียโดยประเทศต่าง ๆ ที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งนี้ หากใช้สมมติฐานว่าไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2565F เราคาดประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565F ของเรา (8 ล้านคน) จะมี downside 5-7% นอกจากนี้ เรายังพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกับความผันผวนของราคาน้ำมันไม่มีมีสหสัมพันธ์ต่อกันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งชี้ว่าปัจจัยราคาน้ำมันอาจจะไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะกำหนดแนวโน้มการท่องเที่ยวได้

 

สำหรับแนวโน้มในปี 2566F เราคาดว่าผลกระทบต่อประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติของเรา (25 ล้านคนในปี 2566F) จะจำกัด เพราะเราเชื่อว่าผลจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวชาติอื่น จะมีน้ำหนักมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียที่อาจจะสะดุดไปในช่วงปี 2566F

 

 

 

SHR มีความเสี่ยงด้าน downside เพิ่มขึ้นในปี 2565F

เราคาดว่า S Hotels & Resort (SHR.BK/SHR TB) จะได้รับผลกระทบด้านลบในระยะสั้นถึงกลางมากที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากคาดว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวรัสเซียจะคิดเป็นสัดส่วน 12% ของรายได้รวมจากธุรกิจโรงแรม ในขณะที่ Minor International (MINT.BK/MINT TB)* และ The Erawan Group (ERW.BK/ERW TB) น่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าเพราะคาดว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวรัสเซียจะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2% และ 3% ของรายได้รวมจากธุรกิจโรงแรม ในขณะเดียวกัน รายได้กว่าครึ่งของ Central Plaza Hotel (CENTEL.BK/CENTEL TB)* มาจากธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งน่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงด้าน downside โดยรวมของบริษัท

 

ยังคงให้นํ้าหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Overweight

ในช่วงที่สภาวะการท่องเที่ยวอ่อนแอลงจากการคว่ำบาตรของนานาประเทศ เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมของไทยที่ Overweight เนื่องจากเราคาดว่าจะไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และผลกระทบกับมูลค่าหุ้นระยะยาวในปี 2566F น่าจะจำกัด ทั้งนี้ เราเลือก MINT (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 39.00 บาท) และ CENTEL (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 43.50 บาท) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มโรงแรม

 

Risks

COVID-19 ระบาดอย่างยืดเยื้อ และปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง