NDID จับมือ มาสเตอร์การ์ด เชื่อมแพลตฟอร์มให้บริการข้ามประเทศครั้งแรกของโลก

NDID จับมือ มาสเตอร์การ์ด เชื่อมแพลตฟอร์มให้บริการข้ามประเทศครั้งแรกของโลก

“NDID” ประกาศความสำเร็จระบบพิสูจน์ และยืนยันตัวตน”บุคคลธรรมดา”กว่า 9 ล้านรายการ ครอบคลุมผู้ให้บริการทั้งภาครัฐ และเอกชน เตรียมก้าวสู่เฟส 2 ยืนยันตัวตน “นิติบุคคล” พร้อมจับมือ มาสเตอร์การ์ด เปิดมิติใหม่เชื่อมต่อแพลตฟอร์มให้บริการข้ามประเทศครั้งแรกของโลก

      นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัล ไอดี จำกัด (NDID) กล่าวว่า จากก้าวแรกที่สมาคมธนาคารไทย บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด และธนาคารแห่งประเทศไทย

    รวมถึงพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนได้ร่วมก่อตั้ง NDID เพื่อขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ ให้สอดคล้องกับการก้าวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ซึ่งเป็นพันธกิจสำคัญของ NDID ที่จะมุ่งยกระดับการทำธุรกรรมทางดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการรับรองทางกฎหมายในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์บนโลกดิจิทัล บนพื้นฐานของการให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความซ้ำซ้อน และเชื่อมโยงข้อมูลอย่างครบวงจร ตลอดจนยกระดับการบริหารความเสี่ยงทั้งของธนาคารและภาคธุรกิจ

     ปัจจุบัน คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมาจากองค์กรพันธมิตรรวม 14 องค์กร ได้แก่ สมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไปรษณีย์ไทย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย และ สมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย

       และล่าสุด มีการแต่งตั้ง นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมการ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการผลักดันและขับเคลื่อน NDID ให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    "NDID ถือเป็นทางเลือกของประชาชนในการยืนยัน และพิสูจน์ตนเองต่อหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคเอกชน และภาครัฐ และในอนาคตอันใกล้ จะสามารถให้บริการทั้งในบริบทของบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ในประเทศ และต่างประเทศ ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในชีวิตประจำวัน อาทิ การเงินและการลงทุน ประกันภัย สาธารณสุข โทรคมนาคม และการศึกษา เป็นต้น” ประธานกรรมการ NDID กล่าว
      สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ในปี 2564 NDID มีการใช้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนบุคคลธรรมดาผ่าน NDID แล้วมากกว่า 9 ล้านรายการ ผ่านผู้ให้บริการกว่า 100 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน

     โดยปี 2565 นี้ NDID จะขยายขอบเขตการให้บริการสู่เฟสที่ 2 คึอ การพิสูจน์และยืนยันตัวตนนิติบุคคล ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกการทำธุรกรรมของบริษัท ห้างร้านต่างๆ เข้าสู่กระบวนการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และในเฟส 3 จะพัฒนาสู่ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนชาวต่างชาติ

     ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการและติดตามความคืบหน้าในด้านต่างๆ ตลอดจนการรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานของ NDID ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    นอกจากนี้ NDID ได้ประกาศอีกก้าวแห่งความสำเร็จ โดยมีการลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ Master Card

     ซึ่งมี Digital ID Platform ระดับโลก เพื่อร่วมกันศึกษาการเชื่อมต่อสองแพลตฟอร์ม และเปิดมิติใหม่การให้บริการ Digital ID ทำรายการข้ามระหว่างประเทศ หรือ Cross Border Digital ID โดยคาดว่าจะสามารถเชื่อมต่อแพลตฟอร์มได้ภายในปีนี้ และนำร่องให้บริการในประเทศภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ก่อนจะขยายไปประเทศอื่นๆ ต่อไป

     ทั้งนี้ NDID จะศึกษาการเชื่อมต่อระหว่างสองแพลตฟอร์ม ทั้งด้านเทคนิค กฏหมาย และกฏระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการขออนุญาตจากหน่วยงานกำกับต่างๆ

     ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของโลก ที่มี Digital ID ทำรายการจริงข้ามประเทศระหว่างกัน โดยความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นนวัตกรรมที่สร้างประโยชน์ อำนวยความสะดวกต่อลูกค้าของ มาสเตอร์การ์ด และ NDID ในวงกว้าง

     ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)กล่าวว่า หลักสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล คือ Digital ID ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้ภาคธุรกิจเอกชน และประชาชนคนไทย สามารถเข้าถึงบริการได้แบบไร้รอยต่อ และเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น

     สอดรับกับการใช้ชีวิตยุคดิจิทัล ซึ่งสิ่งสำคัญคือ การมีแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ และจากการทำงานร่วมกับ NDID ที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่า แพลตฟอร์มของไทยมีความมั่นคง ปลอดภัย พร้อมแสดงศักยภาพการขยายผลไปสู่ต่างประเทศต่อไป

     นางสาวไอลีน ชูว ผู้จัดการประจำประเทศไทย และเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า การที่มีอัตราการเข้าถึงประสบการณ์ด้านดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ให้บริการต่างต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ที่มีมากขึ้นด้วย อาทิ การฉ้อโกงบัญชีออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น

     รวมไปถึงความคาดหวังในการนำเสนอประสบการณ์แบบไร้รอยต่อให้กับผู้บริโภค ทำให้มีความต้องการในการใช้เครื่องมือที่ชาญฉลาด ปลอดภัย และเชื่อถือมากยิ่งขึ้น เพื่อยืนยันตัวตนบุคคลผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกปลอดภัย ขณะที่ธุรกิจต่างๆ ก็รู้สึกอุ่นใจว่าได้รับการคุ้มครอง

     “บทบาทของโซลูชันการระบุอัตลักษณ์แบบดิจิทัลจึงทวีความสำคัญขึ้น และประเทศไทย ที่ได้ก่อตั้ง NDID ขึ้น ก็ได้ทำการพัฒนาระบบที่มีความเหมาะสมกับผู้ประกอบการในประเทศ ID by มาสเตอร์การ์ด เป็นเครือข่ายที่ใช้ในการยืนยันตัวตนในรูปแบบดิจิทัลที่สามารถใช้งานได้หลายฝ่าย ช่วยให้บุคคลธรรมดาสามารถสร้าง บริหารจัดการ และใช้ข้อมูลอัตลักษณ์ดิจิทัลของตนเองผ่านระบบต่างๆ เครือข่ายดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ทั่วโลก มีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติเพื่อรองรับการใช้งานในระบบที่แตกต่างกันได้”

 

 

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์