BANPU คาดรายได้ปี 65 โต อานิสงส์ราคาถ่านหิน - ก๊าซธรรมชาติพุ่ง

BANPU คาดรายได้ปี 65 โต อานิสงส์ราคาถ่านหิน - ก๊าซธรรมชาติพุ่ง

BANPU คาดรายได้ปี 65 เติบโต จากปีก่อนที่ 1.34 แสนล้านบาท แรงหนุนธุรกิจใหม่เข้ามาเสริมพอร์ต อานิสงส์ราคาถ่านหิน - ก๊าซพุ่งแรง เผยแผนลงทุนแร่นิกเกิลในออสเตรเลีย - อินโดฯ ต่อยอดธุรกิจแบตเตอรี่

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์รายได้ปี 2565 จะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.34 แสนล้านบาท เนื่องจากธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสูงสุด (จุดพีค) ที่ 400 ดอลลาร์ต่อตัน และราคาก๊าซธรรมชาติปรับขึ้นทะลุ 5 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู โดยระยะสั้นคาดว่าราคาจะยังทรงตัวสูง แม้เชื่อว่าระยะยาวราคาจะปรับลงมาอยู่ในระดับสมเหตุสมผลอีกครั้ง แต่จะต้องประเมินสถานการณ์หลังความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน

อย่างไรก็ดีผลกระทบจากปัญหาระหว่างรัสเซีย กับยูเครนนั้น บริษัทมีการวางแผนป้องกันความเสี่ยงในทุกธุรกิจของ BANPU ในทางกลับกัน อยู่ระหว่างมองหาโอกาสจากที่สหรัฐและชาติพันธมิตรมองหาการนำเข้าถ่านหินจากประเทศอื่นๆ แทนรัสเซีย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นในระดับสูงนั้น ยอมรับว่ามีผลกระทบ แต่บริษัทสามารถลดต้นทุนผ่านการลดการใช้น้ำมัน รวมถึงการขายสินค้าให้ได้ราคาตลาดเพื่อนำมาหักกลบ

สำหรับการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ราคาถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ปัจจุบันบริษัทไม่ได้ทำ Hedging โดยในส่วนของถ่านหินทำในสัดส่วนที่ต่ำมากเพียง 2% เท่านั้น เพราะมีนโยบายปล่อยราคาลอยตัว ขณะที่การขายก๊าซธรรมชาติในสหรัฐที่มีรูปแบบเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) จะทำในสัดส่วนที่เหมาะสมราว 50% ตามภาวะตลาด เพื่อรับประโยชน์จากแนวโน้มราคาที่เป็นขาขึ้น

ในส่วนของแผนการลงทุนในปี 2565 สำหรับธุรกิจต้นน้ำ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในเหมืองแร่นิกเกิล ประเทศออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย เพื่อสนับสนุนธุรกิจแบตเตอรี่ไฟฟ้า สอดคล้องกับแผนการลงทุนระยะยาวของบริษัทที่มองหาการลงทุนในธุรกิจแร่ที่มีศักยภาพ (Strategic Mineral) โดยในส่วนของแร่นิกเกิล วางเป้าหมายเข้าไปลงทุนในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่เพื่อบริหาร ขณะที่แร่อื่นๆ จะเป็นการลงทุนในฐานะผู้ถือหุ้นที่มีขนาดเล็กลงมา หรือไม่ได้เข้าไปบริหาร แต่เพื่อต่อยอด (Synergy) กับธุรกิจของ BANPU เท่านั้น

ส่วนธุรกิจกลางน้ำจะเน้นการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ส่วนธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน อาทิ แพลตฟอร์มยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เทคโนโลยีอีวี และโซลูชันอีวี จะเดินหน้าสร้างการเติบโตตามแผน

สำหรับฐานะการเงินของบริษัท ปัจจุบัน BANPU มีกระแสเงินสดที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ (ราว 4 หมื่นล้านบาท) โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 1.31 เท่า ภายหลังบริษัทจัดโครงสร้างทางการเงินผ่านการเพิ่มทุน การออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการจะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนท์) รวมถึงมีการออกหุ้นกู้จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา