FETCO เชื่อมั่น “ฟันด์โฟลว์” ไหลเข้าหุ้นไทย หลบภัยศึกรัสเซีย-ยูเครน

FETCO เชื่อมั่น “ฟันด์โฟลว์” ไหลเข้าหุ้นไทย หลบภัยศึกรัสเซีย-ยูเครน

FETCO เผย ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงระยะสั้น คาดต่างชาติเข้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง หลบภัยสงครามรัสเซีย-ยูเครน จากสารพัดปัจจัยบวก “เศรษฐกิจโต-บจ.ไทยแข็งแกร่ง-คุมเงินเฟ้อได้” เพียง 2 เดือนกว่า ซื้อสุทธิแล้ว 8.1 หมื่นล้าน มากกว่าที่ประเมินไว้

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เปิดเผยว่า แม้ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลงวานนี้ (7 มี.ค.) ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก จากความกังวลปัจจัยสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน แต่เชื่อว่าเป็นการปรับตัวลงระยะสั้น เพราะมองว่าตลาดหุ้นไทยปีนี้จะเป็นขาขึ้น มีโอกาสที่ดัชนีไปแตะ 1,800 จุด

ทั้งนี้คาดการณ์กระแสเงินลงทุน (ฟันด์โฟลว์) ของนักลงทุนต่างประเทศ จะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องในปี 2565 แม้ระยะสั้นอาจพักฐานตามจากปัจจัยลบต่างประเทศ แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดฟันด์โฟลว์จะไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง จากที่ตลาดหุ้นไทยเป็นหลุมหลบภัย (Safe Haven) ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน เพราะมีสัดส่วนการค้าขายกับรัสเซีย และสัดส่วนนักท่องเที่ยวรัสเซียค่อนข้างต่ำ

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยหนุนจากที่เศรษฐกิจไทยปี 2565 มีโอกาสกลับมาเติบโต 4% โดดเด่น (Outperform) เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจประเทศอื่นที่เริ่มโตช้าลง จากการท่องเที่ยวที่กลับมา รวมถึงบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยยังมีความแข็งแกร่ง แม้มีบางรายที่ค้าขายกับรัสเซีย แต่ถือเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับปัจจัยเสี่ยงในประเทศ แม้แนวโน้มเงินเฟ้อจะปรับขึ้นสูง แต่เชื่อว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ จากที่รัฐบาลยังมีช่องว่างในการดำเนินนโยบายดูแลเงินเฟ้อและกระเป๋าเงินของประชาชน นอกจากนี้ คาดว่าในระยะถัดไปจะเห็นรัฐบาลดำเนินนโยบายเพื่อดูแลเศรษฐกิจมากขึ้นก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วในปี 2565 หรืออย่างช้าในปี 2566

ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าหุ้นไทย

ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค. - ก.พ.2565) ฟันด์โฟลว์ต่างชาติมียอดซื้อสุทธิหุ้นไทย 1.4 หมื่นล้านบาท และ 6.2 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ หรือซื้อสุทธิรวมแล้วประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงมาก ขณะที่เดือน มี.ค. (1-7 มี.ค.) ยังซื้อสุทธิต่อเนื่องราว 4 พันล้านบาท โดยเป็นการซื้อที่สูงกว่าที่เฟทโก้เคยคาดการณ์เอาไว้ที่เดือนละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ภายหลังยอดซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้นใกล้ระดับ 1 แสนล้านบาทแล้ว

สำหรับผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (พ.ค.2565) อยู่ที่ระดับ 113.03 เพิ่มขึ้น 20.4% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว โดยมีปัจจัยบวกจากเงินทุนไหลเข้า แต่มีปัจจัยลบจากความกังวลสถานการณ์รัสเซียกับยูเครน โดยผลสำรวจดังกล่าวเป็นการสำรวจ ณ สิ้นเดือน ก.พ.2565 ซึ่งอาจมีความไม่แม่นยำจากภาวะสงครามที่ทวีความรุนแรงขึ้นในปัจจุบัน