AQ ตัดขายธุรกิจโรงแรมที่เชียงใหม่ 500 ล. เตรียมลุยขยายลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้า

AQ ตัดขายธุรกิจโรงแรมที่เชียงใหม่ 500 ล. เตรียมลุยขยายลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้า

"เอคิว เอสเตท" ลดธุรกิจในโครงการ Flora Creek Chiangmai Hotel ให้ "แอท อีส พร็อพเพอร์ตี้" รวมมูลค่า 500 ล้าน เหตุยังไม่เห็นการฟื้นตัวธุรกิจนี้ในระยะสั้นหรือภายใน 2 ปีนี้ หันเพิ่มธุรกิจรายได้มั่นคง ขยายการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจโรงไฟฟ้า คาดมีความชัดเจนในไตรมาส 2/65

 นาย ไมเคิล อเล็กซานเดอร์ วิลเลี่ยม เฟอร์นันเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ  แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2565 ประชุมเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีประเด็นสำคัญถึงการอนุมัติให้จำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินของบริษัทฯ และบริษัทย่อยให้ บริษัท แอท อีส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  ("ผู้ซื้อ") ในราคารวมทั้งสิ้น 500,000,000 บาท คือที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในโครงการ Flora Creek Chiangmai Hotel รวมถึงใบอนุญาตการก่อสร้างอาคารและใช้อาคารประเภทโรงแรมรวมถึงใบรับรองการประกอบธุรกิจโรงแรม

"บริษัทฯ วางแผนปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปีนี้ให้มีความชัดเจน สร้างรายได้มากขึ้น การตัดขายธุรกิจที่ไม่ทำกำไรออกเพื่อลดภาระใช้จ่ายเป็นสิ่งที่เราต้องเร่งดำเนินการ ทั้งเพื่อปิดความเสี่ยงเพิ่มเติมและเปิดโอกาสสู่ธุรกิจใหม่ๆ จากที่ทราบกันดีว่าสภาวะโควิด-19 กระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมเป็นอย่างมาก คาดว่าจะยังไม่เห็นการฟื้นตัวในระยะสั้นหรือภายใน 2 ปีนี้ ฉะนั้นการขายทรัพย์สินซึ่งไม่ทำกำไรออก ในราคาที่เหมาะสม ถือเป็นจังหวะที่ดีสำหรับ AQ"

ทั้งนี้ การจำหน่ายธุรกิจโรงแรมออกบางส่วนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น สามารถนำไปใช้ในการลงทุนกลุ่มธุรกิจใหม่ที่เป็นแหล่งรายได้และกำไรที่มั่นคงได้

โดยในปีนี้บริษัทฯปรับโฟกัสไปที่ธุรกิจพลังงาน ซึ่งไม่ใช่การทำรายการใหม่ 100% หากแต่ AQ เองได้เข้าถือหุ้นหรือลงทุนธุรกิจพลังงานไว้อยู่แล้วใน บริษัท กรีนเอิร์ธ พาวเวอร์ ไทยแลนด์ จำกัด (GEP) ซึ่ง GEP คือผู้ลงทุนหลักในโรงไฟฟ้ามินบู ประเทศเมียนมากำลังการผลิตรวม 220 MW มีการลงทุนใน บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย)

โดยทางบริษัท ยังคงมีความต้องการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาและทำการศึกษาหาโครงการลงทุน คาดว่าจะสามารถมีข่าวดีแจ้งนักลงทุนได้ภายในไตรมาส 2/2565"

นาย ไมเคิล กล่าวเพิ่มเติมว่า "อย่างที่ทราบกันดีว่าโรงไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่ทำรายได้มหาศาลให้กับทุกบริษัทได้อย่างน่าจับตามอง ฉะนั้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานจึงเป็นทางเลือกเบอร์ 1 ของบริษัทในขณะนี้"  นอกจากนี้บริษัทยังสนใจศึกษาในหลายธุรกิจประเภทใหม่ๆ ที่เป็นเทรนด์ของโลกโดยหากมีความคืบหน้าจะแจ้งข่าวดีให้กับนักลงทุนต่อไป